(ตอน 4) live สดตรงจาก Vancouver กับพี่สเตฟ Sales & Recruitment Manager ของสถาบัน ILAC ประเทศแคนาดา
(ต่อจากตอน 3)
York: เรียกว่าตอนนี้ก็เต็มเกือบทุกที่ ถ้าน้องๆ สนใจก็แนะนำว่าติดต่อเข้ามาเลยค่ะ เต็มไปหลายสาขา
ILAC: ใช่ แล้วอย่าลืมว่าน้องต้องเรียนภาษาก่อนอีกใช่ปะ ถ้าเราไม่มี IELTS ถ้า early childhood ส่วนใหญ่เค้ารับที่ IELTS 6 นะคะ ถ้าเป็น graduate program เค้ารับที่ IELTS 6.5 ถ้าเราไม่เคยทำ IELTS คือจะลองทำ Test ก็ได้นะ คือทำ test ที่หน้าเว็บไซต์ของ ILAC นะคะ www.ILAC.com นะคะก็คือที่ด้านล่างจะมี free online Test นะคะ ลองทำ test ดู คือจะเห็น level ได้คร่าวๆ เช่นของเรามีทั้งหมด 17 level ถ้าได้ level 8 เป็น High Intermediate ก็กลางๆ ละ ก็จะพอดูออกว่าเราต้องใช้เวลาเรียนภาษาเท่าไหร่ถึงจะแตะ IELTS 6 ต้องอย่าลืมว่าจะสมัครอะไร มันต้องมีภาษาก่อนด้วยใช่ไหมคะ อย่าง January เนี่ยถ้าเราต้องเรียนภาษา 3 เดือนเราก็ต้องเริ่มเรียนแล้วนะคะ ซึ่งแนะนำอย่างที่เรียนว่าแนะนำให้เรียน ILAC Kiss นะคะเรียนออนไลน์นะคะจากเมืองไทย ดียังไง ดีเพราะว่าไม่ต้องมาเสียเงิน เสียเวลาเข้ามาเรียนในแคมปัสใช่ป่ะ เพราะว่าที่นี่มันก็แพงกว่าใช่ไหมคะ ค่าเรียน Intensive English เรียนใน campus แพงกว่า ค่ากินอยู่อีกเดือนละ 1,000 เหรียญประมาณเนาะ ดังนั้นมันก็เป็นค่าใช้จ่าย แต่บางคนบอกไม่เอา ไม่เรียนออนไลน์ จริงๆ มันไม่ใช่ออนไลน์นะ มันเป็น zoom สดนะคะ แต่ถ้าหนูอยากเรียนใน campus มา ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ บอกเข้ามาก็เข้ามาแต่มันแพงกว่าจริงๆ อ่ะค่ะก็ประมาณนั้นต้องคิดล่วงหน้าว่าสมัครโปรแกรมอะไร ต้องสมัครล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งปีนะคะ อย่างน้อยนะก็คือตอนนี้บาง college มันขึ้น June แต่เขาเปิดรับของ May ปีหน้าแล้วนะคะ ดังนั้นที่จะบอกว่า September 2021 นี้มีอะไรเหลือไหม มันไม่เหลือแล้ว January 2022 ยังจะเต็มอีกหลายโปรแกรมแล้วเนี้ยอ่ะค่ะ ก็ต้องวางแผนล่วงหน้า แล้วก็ต้องเผื่อภาษาอีกด้วยว่าถ้าต้องเรียนภาษา 3 เดือนคือถ้าสมมุติจะเข้ามาเรียนเลยในแคนาดา คือภาษาเรียนในนี้ก็จะต้องมองว่า เราต้องใช้ภาษา 3 เดือนประมาณนะ ก่อนที่จะเข้าโปรแกรมล่ะ คุณก็ต้องมาก่อน พี่ต้องบอกว่าให้มาก่อน 4 เดือนใช่ป่ะ มาก่อน January 4 เดือนก่อน บวกไว้ เดือนนึงเผื่อผิดพลาดทางเทคนิค เผื่อสอบไม่ผ่าน ใช่ไหมสอบภาษาอังกฤษไม่ผ่าน ดังนั้นก็ต้องมี gap อีกสักประมาณเดือนครึ่งนะคะ ก็นี่คือวิธีการทำ planning ก็คืออยู่ๆ แบบเข้ามาเลยมันไม่มีที่ให้เรียนแล้วต้องสมัครล่วงหน้าค่ะ
York: ก็คืออย่างที่พี่สเตฟบอกนะว่าถ้าอยากเรียนอะไรคือเราทำ test ก่อน ทำ test ออนไลน์ภาษาอังกฤษก่อนเพื่อจะได้ดูว่าภาษาอังกฤษอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แล้วก็ถ้าต้องไปเรียนภาษาเนี่ยมันต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ถึงจะได้ level ตามที่ college นั้นๆ ต้องการนะค่ะ อันนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
มีคนสอบถามข้อมูลเข้ามานะคะ ในการเรียนต่อที่ประเทศแคนาดาเนี่ยอายุประมาณไหนถึงจะเหมาะกับการไปเรียนที่แคนาดา
ILAC: อายุไม่สำคัญ อายุเป็นเพียงตัวเลข พี่พูดอย่างนี้จริงๆ นะ เพราะว่าคือถ้าจะเข้ามาเรียนโปรแกรมหลังจาก high school คือ post secondary 2 ปีเนี่ย ก็มีได้ทั้งน้องที่จบม. 6 นะคะแล้วก็ไม่ได้อยากเรียนมหาลัยในเมืองไทยเลยก็เข้ามาเรียนได้เลยใช่ป่ะ หรือแบบว่าบางคนจบปริญญาตรีแล้วทำงานมาแล้ว 3 ปี 5 ปีแต่ว่า อย่างน้องที่ถามมาเนี่ย อาจจะจบปริญญาตรีมาแล้วก็ได้ใช่ไหมคะแต่ว่าอยากเปลี่ยน field อยากมาทางนี้บ้างนะเนี่ย ดังนั้นเขาก็มาเริ่มเรียนใหม่ เพราะว่า early childhood มันไม่ใช่อนุปริญญาโท ไม่ใช่ graduate program มันเลยต้องกลับมาเริ่มเรียนใหม่เป็น post-secondary 2 ปีอันนี้ก็ไม่แปลกนะจะอายุ 27-28 แล้วจะมาเริ่มเรียน early childhood ใหม่ก็ได้นะ จนกระทั่ง 30 กว่าก็ตาม ถ้ามีเหตุผลว่าทำไมคุณถึงอยากมาเรียนตรงนั้นเนี่ยก็ได้นะคะ ก็คือต้องเรียนเลยว่า Visa Office นะคะของกรุงเทพฯนะ Visa officer ที่เนี่ยคือใจดีนะ คือพี่ว่าคือ considerate ในหลายๆ เรื่อง แล้วมีเหตุมีผลนะคะ คือดูความจำเป็น ดูความต้องการว่าคุณจะเรียนเพื่ออะไรใช่ไหมคะ ก็คือจบมาแล้วจะทำอะไรนะคะ ก็คือเวลาเรายื่น study permit เนี่ย เหตุผลที่จะเรียนตัวนั้นเนี่ยควรจะ relate กับงานที่เมืองไทยใช่ไหมคะ เรากลับมาแล้วเราจะทำอะไรในส่วนตรงนี้ต่อไปถ้ามีเหตุมีผลอย่างท่านก็รับฟังนะ ไม่ว่าใครจะบอกว่าวีซ่าแคนาดายาก พี่ว่ามันก็ไม่จริงนะ เพราะว่า visa Canada แน่นอน ที่ดูเนี่ย Visa Office ดูเรื่องเงินเป็นหลักด้วยใช่ไหมคะเพราะว่ามาเรียนต่อต่างประเทศมันเงินเท่านั้นใช่ไหมคะ ถึงจะทำงาน Part Time ได้แต่อันนี้มันคือ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงที่เรียน Higher education ถ้าไปเรียนภาษาระหว่างเรียนทำงานไม่ได้ คือ study permit ที่เรียนภาษาทำงานไม่ได้ดังนั้นสถานฑูตนะคะ visa office ก็ต้องดูแล้วว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ คุณพ่อคุณแม่มีเงินเท่าไหร่ใช่ไหมคะ ตรงนั้นตรงนี้มัน relate กันหมดใช่ไหมคะ ถ้าคุณชัดเจนอยากมาเรียนมีเงินพอ ไม่ต้องมาเดือดร้อนใช่ไหมคะ เนี่ยท่านก็ให้มาอยู่แล้วนะคะก็คือตรงๆว่ายังไงนะคะ ดังนั้นอายุเนี่ยถ้าอายุ 30 ปลายๆ แต่บอกว่าทำงานมาตลอดแล้วก็ถึงจุดนึงแล้วเนี่ยมันเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต อยากจะเปลี่ยน field งานนะคะหรือว่างานแต่เดิมตรงนั้น แต่ว่าภาษาอังกฤษไม่ได้อยากเรียนภาษาเพิ่มเติม พี่มีนะอย่างเช่นเป็นผู้จัดการบัญชีของบริษัทเลยอ่ะค่ะแล้วก็คือเป็นบริษัทที่ต้องติดต่อกับคนชาวต่างประเทศ แล้วก็ภาษาอังกฤษไม่ได้เลยก็มาเรียนตรงนี้ อายุตอนมาก็ 43 นะคะ ดังนั้นมันอยู่ที่เหตุที่ผล ที่จะยากก็คือที่เมืองไทยใช่ไหม ตอนขอ study permit แต่ว่าพอเข้ามาแล้วนะ ที่นี่ไม่ที่นี่ไม่มี discrimination จะอายุเท่าไหร่ อยากเรียนอะไร คุณเรียนได้ทั้งนั้น ดังนั้นเราถึงมีที่ที่อายุครบ 65 แล้วกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยหมายเป็นเรื่องธรรมดาเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมด้วยอ่ะค่ะอายุไม่ใช่ปัญหาสำหรับแคนาดาแต่ว่าอยู่ที่ตรงนั้นแหละว่า Agent ช่วยทำ statement of purpose , study plan ยังไงเพื่อให้ visa office ท่านเห็นว่าอยากมาด้วยความจริงใจอยากมาเรียนนะคะ
York: ก็คือจริงๆ แล้วอายุนี่แบบไม่เท่าไหร่ สำคัญในเรื่องของการว่าจุดประสงค์ของเรามากกว่า ว่าจะเรียนอะไรคือไม่ชัดเจนต้องชัดเจนในความสัมพันธ์กับอาจจะเป็นเรื่องของการที่เราเรียนจบมา การงาน ประสบการที่จะต้องสอดคล้องกันนะคะ
ILAC: แล้วก็ tips อีกนิดนึง คือเมื่อคุณขอ study permit , study permit คือการขออนุญาตให้ได้มาเรียนในประเทศใช่ไหมคะ ดังนั้นเหตุผลหลักวัตถุประสงค์หลักคือมาเรียนใช่ไหมคะ ลึกๆ อยากว่าจบแล้วอยากได้ทำงานเนี่ยเรียนจบจบแล้วอยากมีโอกาสสมัคร PR ส่วนตรงนี้เนี่ยไม่ต้องบอกท่าน คือพี่คิดว่ามันเป็นความกระอักกระอ่วนนะของวีซ่าออฟฟิศ เพราะว่าคุณสมัครขอ study permit มาเพราะฉันชอบแคนาดา ฉันอยากไปเป็น PR มันไม่ใช่ มันไม่ใช่เหตุผลใช่ป่ะ ก็คือขอ study permit มาทำไม มาเรียน ดังนั้นเราไม่บอกว่าลึกๆ แม้กระทั่งมันเป็น step by step จริงนะคะ ก็คือประเทศต้อนรับ immigrant ในกรณีนักศึกษาต่างชาติ นักเรียนต่างชาติ international student คุณต้องผ่านกระบวนการคือเรียนจบแล้ว ขอใบอนุญาตทำงานขออนุญาตทำงานครบ 1 ปีแล้วจึงมีสิทธิ์ขอ PR ดังนั้นเมื่อคุณขอ study permit คุณไม่บอกว่าทำไมถึงจะมาแคนาดา มาเป็น PR มันไม่ใช่ป่ะ มันต้อง Step แรกก็คือมาเรียนแล้วทำไมนะคะดังนั้นก็ให้มันให้มันจำกัดในส่วนของของเหตุผลว่ามาเรียนนะคะ ส่วนที่จะได้ไปทำงานหลังเรียนจบแล้วก็จบแล้วทำงาน 1 ปี สมัคร pr ได้ มันเป็นส่วนต่อเนื่องซึ่งเราไม่ต้อง mentionใน statement of purpose เราไม่ควรจะพูดในส่วนตรงนี้
York: ok เมื่อกี้พูดถึงเรื่องเงินไปแล้วว่าสถานฑูตดูเรื่องเงินใช่ไหมคะ งั้นหนูถามเพิ่มเติมเลยดีกว่าว่าเราได้ปกติถ้าเกิดว่ามาเรียนที่แคนาดาค่ะควรจะมีเงิน statement ประมาณเท่าไหร่ในการขอวีซ่า
ILAC: อันนี้พี่ต้องกลับไปให้เกลดูละ เพราะว่าพี่เป็นโรงเรียน พี่เป็นสถาบันการศึกษา โรงเรียนเราจะไม่ได้ดูในส่วนของการทำ study permit ใช่ไหมคะแต่ว่าเท่าที่ทราบคือมันต้องมีเหตุมีผลใช่ไหมหรือจะมาเรียนเชิญมาเรียน 28 สัปดาห์เดือนนะคะของภาษาก็จะต้องมีเงิน Cover ตามนั้นใช่ไหมค่าเรียนเท่าไหร่กี่พันเหรียญใช่ไหมคะคือรวมแล้วกี่แสนค่ากินอยู่รวมแล้วประมาณเท่าไหร่ใช่ไหมคะแล้วก็ต้องมีเผื่อให้เห็นด้วยว่าโอเคคุณพ่อคุณแม่ส่งมาแล้วต้องเสียเงินก้อนนี้ 300,000 แล้วคุณพ่อคุณแม่มีรายได้อะไร
คุณพ่อคุณแม่ต้องกินต้องใช้คือดังนั้นต้องมีเงินเก็บคือไม่ใช่ว่าเอาเงินสดลดค่าใช้จ่าย 300 วัน 5000 มันก็ไม่ผ่านใช่ป่ะเพราะว่าอ้าวแล้วที่เหลือพ่อแม่พี่น้องที่อยู่เมืองไทยจะทำยังไงใช่ป่ะคะหรือต้องกินต้องใช้แล้วคือมันต้องเป็นการถามมันเอาเงินเก็บมามาลงทุนให้ลูกไม่ใช่ว่าเอาเงินที่ cash flow หมุนไปหมุนมาแล้วให้ลูกคนนึงมาเรียนใช่ไหมคะดังนั้นความสมเหตุสมผลแล้วมันต้องมีคืนถึงพี่ถึงบอกว่าวีซ่าแคนาดาเวลามองคือไม่ใช่ว่าเงินตรงนี้แล้วบวกเข้าไปอีกนิดนึงขอเบอร์ตรงนี้พอมันไม่พอเพราะว่าท่านดูในว่าพ่อแม่จะลำบากไหมใช่ไหมลูกน้องที่อยู่ที่เมืองไทยยังเรียนมหาลัยอยู่เนี่ยจะลำบากไหมถ้าสนพี่มาเรียนตรงนั้นเขาดูเผื่อไปอีกว่า You ต้องมีเงินเก็บในระดับนึงค่ะ แต่ว่าพี่ไม่บอกเป็นตัวเลข สามารถคุยกันได้ว่าประมาณไหนคือกี่หลักใช่ไหมคะถ้าปีนึงก็ต้องเยอะขึ้นแต่ถ้าเป็นเรียนโปรแกรม 1 ปีแล้วต้องเรียนภาษาอีกครึ่งปีวิธีการคิดมันก็คือ 1 ปีครึ่งนะคะก็ต้องดูยังไงล่ะว่าเออเนอะกลับมาเรียนภาษา 6 เดือนอย่างเดียวใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ใช่ไหมคะแต่ถ้าเป็นโปรแกรมปีนเหตุผลที่พี่บอกว่าเปลี่ยนภาษาจากเมืองไทยก็ดีอ่ะคิดให้เสร็จก่อนใช่ไหมคุณไม่ต้องบวกเขาก็ต้องมาเรียนภาษา 4 เดือนแล้วก็ไม่ต้องบวกอีก 2 ปีเนี่ยมันก็จะดู 1 ปีใช่ไหมคะมีเงินที่จะส่งเสียลูก 1 ปีแรกเพราะว่าปีที่ 2 เขาบอกว่าไม่เป็นไรเพราะว่าถึงยังไงก็เข้าไปก็ไม่มีผัดไทยมีหลายทางแต่ 1 ปีแรกในปีแรกเนี่ยจะต้องมี Cover ภาพมาบอกว่าเรียนภาษาอีก 4 เดือน 5 เดือนมันก็ต้องเยอะมันกลายเป็น 1 ปีกับ 5 เดือนไหมคะก็ถึงแนะนำว่าถ้า bank statement ไม่ดีเรียนภาษาไม่ค่อยดีนะเราก็เรียนภาษาก่อนดังนั้นตัวเลขที่จะโชว์มันก็พอสำหรับแค่การเรียน 1 ปีใช่ไหมคะ
York: ก็พูดง่ายๆ คือจริงๆ แล้วแคนาดาเป็นประเทศที่มองเป็นความสมเหตุสมผล มองในเรื่องของความเป็นจริงมากกว่านะคะ แล้วก็ส่วนเรื่องของรายละเอียดวีซ่านี้เดี๋ยวคุยกับพี่เกลได้นะคะ
มีคำถามอีกนิดนึงค่ะ น้องถามว่าเรียนภาษาทํางานพาร์ทไทม์ได้ไหม เมื่อกี้พี่สเตฟตอบเรียบร้อยแล้วนะคะ ก็คือว่าทำงานไม่ได้นะคะถ้าน้องเรียนภาษาค่ะ ก็คือต้องทำงานได้ประมาณเป็นพวกเรียน diploma ขึ้นไปนะคะก็จะทำงาน Part Time ได้นะคะ
ILAC: ถ้าสมมุติว่าเราเข้ามาด้วย study permit ภาษาเช่นว่าจะต้องมาเรียน Seneca college จะต้องเรียนภาษาก่อน 5 เดือน 4 เดือนที่ ILAC ใช่ไหมคะเวลาทำ study permit เราได้มาจะได้มาเต็มปีครึ่งนี้นะคะแต่ว่าใน study permit เค้าจะระบุเลยว่า not eligible for off-campus employment แปลว่าชัดเจนเลยว่าช่วงเรียนภาษาทำงานไม่ได้ เมื่อเข้า Seneca college Douglas แล้วก็ต้องเปลี่ยนประเภททำอีกครั้งหนึ่งนะคะเป็นโปรแกรมซึ่งทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้วก็ถ้าเป็น Summer และ summer นั้นไม่มีเรียนเขาจะมี 20 เม็ดบางทีมันคือถ้าแบบนั้นน่ะช่วงซัมเมอร์สามารถทำงาน full Time ได้เฉยๆชั่วโมงต่อสัปดาห์ทางซัมเมอร์ค่ะ
York: มีน้องถามว่าน้องเรียนจบ IT มาหลายปี แต่ว่าทำงานบริการโรงแรมมาตลอดเลยนะคะ ที่แคนาดานั้นสายโรงแรมเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานไหมคะ
ILAC: ที่นี่คือเราเป็นเมืองท่องเที่ยวนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Vancouver, Toronto, Niagara , French Canada , Rocky mountain ก็คือเป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ คือเยอะอะนะคะ ดังนั้นโรงแรมการท่องเที่ยวอะไรเนี่ยเป็นเป็นจ๊อบที่เป็นที่ต้องการเสมอนะคะ แต่ว่าก็จะต้องเรียนว่าคือถ้า IT ที่ทำมาแต่ทิ้งไปแล้ว คือถ้าสามารถต่อด้าน IT ได้ เงินก็ต้องดีกว่าที่จะทำด้าน Hotel หรือด้าน Hospitality อ่ะค่ะ แต่ถ้าคิดว่ากลับไปตรงนั้นมันหลายปีแล้ว ก็อาจจะต้องมา field นี้ไปนะคะแต่ว่าก็ต้องดูให้ดีว่าจะไปต่อทางไหน ถึงจะทำโรงแรมทำอะไรแล้วถ้าหากคุณสนใจว่าถ้าลงเป็น logistic ได้ไหมดีกว่ารึเปล่า อะไรอย่างนี้ใช่ไหมคะ เพราะพี่ว่าเรียนอะไรให้มันเป็น specialist มันดีกว่าที่จะเรียน เช่น Hotel Management หรือว่า Hospitality Management มันก็กว้างไปนิดนึง ที่นี่จริงๆ ต้องการ specialize
York: ได้ค่ะ เดี๋ยวไปคุยกันอีกทีนึง
ILAC: คือพี่คิดว่าระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพราะถ้ามันนานแล้วจะมีคนฟังไหม แต่พี่ว่าเราก็คุยกันสนุกๆ นะ ได้แชร์ข้อมูลอะไรแบบนี้นะคะ เราก็คือพี่ก็ตัวจริงเสียงจริง คืออยู่ตรงนี้นะคะ แล้วคืออยู่แคนาดามานานแล้ว เราก็ทำด้าน education มาตลอดนะคะก็ต้องเรียนว่าสิ่งที่พี่เล่าที่แชร์ให้ฟังแชร์กันในฐานะคนไทยด้วยกันนะว่าคืออะไรดีอะไรยังไงเนี่ยเราก็บอกกันตรงๆ นะคะ
หากน้องๆ สนใจเรียน, เรียน & ทำงาน หรือ เรียนแล้วย้ายประเทศไปแคนาดา โดยเรียนกับสถาบันคุณภาพ ILAC สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ