Blogs
(ตอน 3) live สดกับคุณกิ๊ก ASEAN Regional Manager ของสถาบันการโรงแรมระดับโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ BHMS
(ต่อจากตอน 2)
BHMS: อย่างที่น้องเกลได้ทราบนะคะ ตอนนี้สวิสเค้าได้ติดอันดับเป็น Top first เลยนะเป็นอันดับ 1 เป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับ Covid-19 มากที่สุด หลายคนก็มาถามพี่นอกรอบบ้างว่าเค้าคิดจากอะไรน่ะพี่กิ๊ก ก็จะบอกว่าเค้าคิดจากอัตราคนหายป่วยนะคะ แล้วก็การรับมือกับ Covid-19 ที่ผ่านมานะคะ ซึ่งอัตราการหายป่วย ของเค้าหายป่วยเร็วมาและเค้าก็รับมือได้ดี มันก็ย้อนกลับมาว่าเค้ามีเรื่องการดูแลสุขภาพ ระบบการดูแลสุขภาพ Medical service ต่างๆ ค่อนข้างดีน่ะค่ะ แล้วก็ หลายๆ ประเทศที่ยุโรปน้องๆ มาเล่าให้ฟังว่าถ้าเราคิดว่าเราไม่สบาย ไปหาหมอไม่ได้ต้องโทรไปใช่ไหม ในช่วงวิกฤตอ่ะ แต่สวิสน่ะน้องเกลนักเรียนเราสามารถเข้าไปหาหมอได้เลยนะ ซึ่งสถานพยาบาลก็สามารถเดินไปจากโรงเรียนได้ค่ะประมาณไม่เกิน 15 นาทีก็สามารถเข้าไปหาหมอได้ตามปกติเลยนะ แต่ก็แน่นอนโรงเรียนพี่ก็ไม่มีใครติดเชื้ออะไรก็ค่อนข้างจะดีใจแล้วก็โชคดี แต่ก็เพราะน้องๆ ดูแลตัวเองแล้วก็รวมทั้งมาตรการของทั้งโรงเรียนและก็รัฐบาลด้วย
เพราะฉะนั้น ย้อนไปว่าตอนนี้สวิสเป็นอย่างไรบ้าง สวิสเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน แล้วน้องเกลก็เปิดประเทศเปิด Boarder รับคนเข้าประเทศได้ ข้อดีของประเทศไทยนะคะไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เค้าจะ Quarantine น่ะค่ะ ถ้าเกิดเราจะกลับไป เราก็แค่ดูแลสุขภาพของเรา พอไปถึงที่ Airport เค้าก็จะมีตรวจอุณหภูมิ ตรวจอะไรเบื้องต้น ถ้าผ่านก็สามารถผ่านได้ จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ Quarantine นะ
แล้วก็ส่วนโรงเรียน BHMS แล้วก็ทุกโรงเรียนด้วยนะน้องเกล เดี๋ยวจะคิดว่าเฉพาะโรงเรียน BHMS ที่เปิดก่อนหรือเปล่า ทุกโรงเรียนเลยน้องเกลรวมทั้งอนุบาลกุ๊กไก่ ทุกโรงเรียนเปิดมาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน นะคะ เพราะฉะนั้น BHMS ก็เปิดเรียนแบบ face to face มาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน และเปิดประเทศวันที่ 15 นะคะ ก็ส่วนนักเรียนใหม่ แนะนำให้เข้าตั้งแต่เดือน August สิงหาคมเป็นต้นไปนะคะ เพราะว่ารอบที่เปิด 8 มิถุนายน สำหรับนักเรียนที่อยู่ในสวิส เขาก็เข้ามาเรียนตามปกติ แต่เราก็ยังรักษามาตรการ Social distancing นะน้องเกล ไม่ใช่ว่าเปิดแล้วปล่อยปะละเลยอะไรนะคะ
แถมสวิสเนี้ยเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดกว้างและรับมือได้ดี น้องเกลรู้ไหมว่าเค้า เค้าไม่รังเกียจคนใส่แมส และสนับสนุนให้คนใส่แมส ด้วยนะคะ ซึ่งอันนี้พี่ก็เห็นด้วยนะ แล้วก็แมสเค้าก็ไม่ได้แพงเกินไป วันนั้นมีงาน เมื่อวันที่ 9 ได้คุยกับนักเรียนไทยที่สวิสเค้าก็บอกว่าแมส 50 ชิ้นน่ะน้องเกล ราคาประมาณ 25 CHF ก็โอเคนะ ตอนที่พี่ซื้อแมสแพงๆ ที่ไทยก็ราคาประมาณนั้นเลยนะ พี่ก็ค่อนข้างชื่นชมเค้านะที่เค้าปรับตัวแล้วก็ไม่รังเกียจ แล้วก็ค่อนข้างยอมรับในวัฒนธรรมที่หลากหลายนะคะ
York: โอเค ก็น้องๆ คนไหนถ้าสนใจนะคะ คือรอบสิงหานี้ โรงเรียนก็สามารถเปิดรับนักเรียนต่างชาติเข้าไปได้เลย เพราะว่าจริงๆ ต้องนี้ทางสวิสเองก็เปิดให้ขอวีซ่าได้แล้วด้วย ถูกไหมคะ
BHMS: ที่จริงรอบสิงหาคม ไม่ทันแล้วน้องเกล เค้าขอกันได้วีซ่ากันแล้วนักเรียนขอน้องเกลก็เตรียมจะไปแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า นักเรียนใหม่เอี่ยมเลยที่จะต้องสมัคร BHMS ใหม่ สมัครวีซ่าใหม่ แนะนำให้ไปตั้งแต่ตอบตุลาคมเป็นต้นไป เพราะนักเรียนรอบสิงหาคม เค้าพร้อมบินแล้วสิบกว่าคนนะคะ เพราะฉะนั้นนักเรียนใหม่เอี่ยมขอ intake ถัดไปนิดนึง ดีกว่านะ ไม่งั้นไม่ทันนะ
York: ได้เลยค่ะ พอดีว่ามีคำถามมาเพิ่มเติมจากเมื่อกี้นิดนึงนะคะ จากเรื่องของการกินอยู่นิดนึง พอดีเห็นโรงเรียนบอกว่าเรื่องอาหาร ต้องบอกก่อนว่าสำหรับนักเรียนไทยเรื่องอาหารสำคัญมาก ผู้ปกครองจะเป็นห่วงว่ากินอยู่ยังไง ต้องถามนิดนึงว่าอาหารที่โรงเรียนจัดให้ปกติแล้ว ที่ครอบคลุมในเรื่องค่าใช้จ่ายตอนแรกเลยเนี้ย กี่มื้อและอาหารเป็นประเภทไหนแนวไหนบ้าง
BHMS: ได้ค่ะ ก็เตรียมมาให้ดูนะ ก็นี่จะเป็นสภาพโรงอาหาร ใช้คำว่าสภาพไม่เหมาะสมสิ ต้องบอกว่าบรรยกาศ ของห้องอาหารหลักของเรานะคะ เราจะมีห้องอาหาร 2 ห้องน้องเกล เราก็จะเสิร์ฟเป็น buffet นะคะ อันนี้จะเป็นห้องอาหารหลักที่เสิร์ฟแบบ buffet นะคะ แล้วอีกห้องอาหารนึงจะเสิร์ฟแบบ Fine dining หรือ A la cart นะคะ ห้องอาหารแบบ buffet ก็จะมี salad corner มีนักเรียนไทยของพี่กำลังตักสลัดด้วยนะ salad corner ก็เป็นพวก appetizer นั่นเอง แล้วก็พวก cold kitchen มี bread, มี ham มี cheese
ส่วนที่เห็นเชฟกำลังให้บริการก็จะเป็น main course นะคะ ซึ่ง main course เราก็มีให้เลือกหลายหลายที่โรงเรียนเนี้ย ก็จะโพสเมนูอาหารหลักไว้ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ก่อนด้วยนะน้องเกล นอกจากเมนูอาหารหลักแล้วน้องเกล ก็จะมีพวกอาหารพิเศษอย่างเช่น Vegetarian นะคะหรือว่าอาหารฮาลาล สำหรับนักเรียนมุสลิม ส่วนอาหารหลักเค้าก็จะมีให้เลือก อย่างบางคนไม่กินเนื้อวัว เค้าก็จะมีอาหารเป็นหมูเป็นไก่ให้เลือกก็มีนะคะ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะครอบคลุมอาหารเหล่านี้หมดแล้วรวมทั้งเครื่องดื่มด้วย เครื่องดื่มเราไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องดื่มให้ดู แต่เค้าก็จะมีชา กาแฟ soft drink พวกน้ำอัดลมต่างๆ นะคะก็มีให้ด้วยนะคะ ก็จะเปิดให้กิน 3 มื้อเลยนะคะ
แต่ว่าถ้าวันเสาร์อาทิตย์ต้องขอบอกก่อนว่า อาหารเช้าเราเสิร์ฟเช้ามาตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ เสิร์ฟตั้งแต่ 6.30 – 8 โมงนิดๆ เพราะฉะนั้นวันเสาร์อาทิตย์เราจะไม่เสิร์ฟเช้า เราจะหันไปเสิร์ฟ Brunch ซึ่งดีกับนักเรียนมากว่านะน้องเกล เสิร์ฟ Brunchจะเสิร์ฟตั้งแต่ 10.00 – 14.00 เลยนะคะ ก็ถือว่าก็ยังครบ 3 มื้อเหมือนเดิม แถมไม่ต้องตื่นเช้ามากินอาหารเช้าอีก
York: ใช่ค่ะ แล้วทีนี้ที่พัก เราบอกไปแล้วเนอะว่าที่พักรวมกับค่าใช้จ่ายแล้ว ที่พักห้องนึงอยู่ประมาณ 2-3 คน
BHMS: ใช่จ้า พี่ลืมเปิดสภาพห้องอาหารให้ดู ขออนุญาตนะคะ คะอันนี้จะเป็นสภาพห้องอาหารจะเป็นว่ามีห้องอาหารอันนี้ด้วยนะ ห้องอาหาร A la cart มีรูปให้ดูด้วย มีนักเรียนกำลังหัดให้บริการและก็มีคุณครู คอยควบคุมอยู่นะคะ ก็อันนี้จะเป็นห้องอาหาร A la cart นะคะ ก็จะมีบรรยากาศห้องอาหาร buffet ของเราด้วย ห้องอาหาร buffet เราจะต้องช่วยเหลือตัวเอง ตักอาหารไปรับอาหารเองจะมีเชฟตักให้ดูแลให้นะคะ เชฟเค้าก็จะสอนไปในตัวนะน้องเกลเพราะบางคนยังไม่ชินกับอาหารนานาชาติ เราเลือกมั่วก็มีนะ อย่างเราจะกินหมู เราบอกเชฟว่าเราจะขอกินหมูกับเกรวี่นี้ เชฟเค้าก็จะสอนเรา ไม่ๆ หมูเธอต้องกินกับอะไร มันก็จะเป็น ท้ายสุดก็ติดกลับมาเป็นบุคคลิกของเราเนอะ เราก็จะเข้าใจในการกินอยู่แบบสไตล์ตะวันตก มากขึ้นด้วยนะคะ
แถมโรงเรียนเค้าก็ยังมีอาหารแบบเอเชียให้ด้วยนะคะ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งนักเรียนก็จะไม่เบื่อนะ แถมไม่ต้องออกไปทานข้างนอกให้เสียเงินเพิ่ม อันนี้จะเป็นตัวอย่างอาหารที่เราเสิร์ฟจริงให้ห้องอาหาร A la cart นะคะห้องอาหาร A la cart ก็จะเป็นห้องอาหารของนักเรียนเชฟแหละน้องเกล ก็เค้าจะมีวิชาที่เค้าเรียนจริงและก็ทำจริง แล้วนักเรียนปกติที่ไม่ได้เรียนสาขาอาหารเขาก็สามารถไปลงจองที่นั่งเพื่อรับบริการได้ ก็จะเสิร์ฟแบบ fine dining นะคะ
York: ดูดีมากนะคะ
BHMS: เดี๋ยวกลับไปเรื่องห้องที่พัก ที่น้องเกลถามนะคะ อันนี้ห้องที่พักที่เราเห็นในรูปจะเป็นที่พักแบบห้อง 3 คนก็มี แล้วก็ต้องอธิบายให้ฟังก่อน ห้องแชร์รูม ก็คือ standard room ที่อยู่ในหมวดที่นักเรียนไม่ต้องจ่ายเพิ่มน่ะน้องเกล เค้าจะตั้งแต่ 2 คนต่อห้องและ 3 คนต่อห้อง แต่ว่าแล้วแต่ขนาดห้องและตึกด้วยนะคะ ถ้าห้องใหญ่หน่อยก็จะอยู่กัน 3 คนแต่เค้าก็จะแบ่งเป็นสัดส่วนด้วยนะ ส่วนของฝั่งbed room ก็จะมีเตียงน้อง ฝั่ง living room ก็จะมีพาทิชั่นกั้นนะคะ แต่ว่าส่วนมากนักเรียนจะอยู่กันแบบ 2 คนนะ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบสองคนหรือสามคน โรงเรียนเค้าก็จะมีห้องน้ำ ห้องครัวให้ ถึงแม้เราจะเสิร์ฟอาหารมีจัดหาอาหารให้ แน่นอนน้องเกลบางทีก็อาจจะขี้เกียจลงไปทาน หรืออยากกินมาม่าบ้าง หรือว่าอยากแอบผัดกระเพราแซ่บๆ บ้างนะคะ ก็สามารถทำอาหารได้เพราะโรงเรียนมีครัวให้ด้วยนะ
York: เรียกว่าดีเลยเนอะ คือน้องบางคนอาจจะอยากมีปาร์ตี้ชาบู ปิ้งย่างบ้างอะไรงี้
BHMS: ใช่ๆ นักเรียนไทยพี่แอบ จริงๆ ก็ไม่ต้องแอบ ไปซื้อที่นั่นได้หม้อชาบู ปิ้งย่างหมูกระทะ อะไรงี้นะคะ
York: ใช่ๆ เพราะฉะนั้นน้องไม่ต้องกลัวเลยค่ะคือไปที่นี่ดูแลอย่างดีแล้วก็มีทุกอย่างให้ครบถ้วนนะคะสบายแน่นอนค่ะ ทีนี่ถามอย่างงี้ดีกว่าเรื่องของค่าครองชีพเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ เพราะว่าของโรงเรียน BHMS ค่าอาหารและที่พักมันก็ครอบคลุมถึงช่วงที่น้องเรียนในโรงเรียนในคลาสช่วง 6 เดือนแรกเนอะ แล้วหลังจากที่น้องไปฝึกงานไปอยู่ที่อื่นน่ะค่ะ ช่วงนี้อยากรู้ว่าปกติแล้วค่าครองชีพที่สวิส ที่น้องไปอยู่เองอย่างงี้มันจะอยู่ที่ประมาณเท่าไรต่อเดือนค่ะ
BHMS: ถ้าเราไปฝึกงานใช่ไหมน้องเกล แล้วแต่เมืองเลยนะ อย่างบางคนชอบแสงสีชอบเมืองใหญ่ก็ซูริค เจนีวา อย่างงี้แพง บอกได้เลยว่าค่าที่พักค่าอาหารอาจจะสูงถึง 1,000 CHF ได้ แต่ว่าถ้าเราไปอยู่เมืองรอง เมืองท่องเที่ยว คำว่าเมืองท่องเที่ยวที่สวิสนี่จะไม่ใช่ เวลาที่เราคิดถึงเมืองไทยเมืองท่องเที่ยวเราคิดถึง Bangkok ใช่มะ แต่ที่สวิส เมืองท่องเที่ยวเค้าจะเป็นสไตล์ภูเขาทิวทัศน์นะคะ อาจจะเงียบสงบหน่อย ก็ถ้าเราไปอยู่สไตล์นั้นเมืองท่องเที่ยวเมืองสกี ค่าครองชีพก็จะลงมาหน่อยบางคนอาจจะอยู่ถึง 300 – 600 CHF อันนี้รวมอาหารและที่พักแล้วนะ ก็จะเหลือเงินเยอะด้วย
ส่วนมากแล้วนายจ้างน่ะค่ะน้องเกลเค้าจะจัดหาที่พักและอาหารให้แต่ว่าเค้าจะหักจากเงินเดือนของเราเพราะฉะนั้นแล้วถ้าโดนหักค่าที่พักค่าอาหารแล้วเราอยู่แบบปกติ ปกตินี่หมายถึงอยู่ตามที่พักที่เค้าจัดหาให้ หรือเหมาะสม เพราะบางคนไปเช่าสตูดิโออยู่เองก็มีนะคะ ถ้าเราอยู่ที่พักอาหารตามที่เค้าจัดให้เราก็ควรจะเหลือเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วควรเหลืออย่างน้อย 1,200 CHF นะน้องเกล นี่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วนะ ก็ยังเหลือ ถ้าเราอยู่แบบปกตินะน้องเกล
York: ก็ถือว่ายังเหลือสักสามหมื่นห้า สี่หมื่น ถือว่าเยอะนะคะ น้องๆ สามารถเอาไปใช้จ่ายทำอะไรได้อีกเยอะเลย
BHMS: คนที่ต้องเรียนปริญญาตรีปี 2 ต่อเราก็แนะนำให้เก็บเงินตรงนี้มาช่วยพ่อแม่จ้า หรือจะเก็บเป็นค่าขนมสำหรับปีหน้าก็ได้ เราจะได้ไม่ต้องใช้แค่ 500 CHF ต่อเดือนอีกแล้ว เอาตรงนี้เป็นค่าขนมไปตุนไว้ปีหน้า
York: ได้ค่ะ ถ้าอย่างกรณีที่น้องๆ เรียนจบไปแล้ว โรงเรียนมีการ support หรือว่าการดูแลน้องๆ หลังจากเรียนจบอย่างไรบ้างคะ
BHMS: อ่อค่ะ ที่จริงอันนี้เดี๋ยวขอเปิดไปที่เตรียมมาให้ดูนะคะ อันนี้ ต้องบอกก่อนว่าอันนี้เป็นของปีที่แล้วนะคะน้องเกล เพราะว่าปีนี้ยังไม่ถึงตุลาคมนะ แล้วก็ปีนี้สถานการณ์ฝั่งประเทศ US หรือฝั่งอื่นๆ ยังไม่เรียบร้อย สวิสเริ่มเคลียร์ตัวเองได้แล้ว แต่ที่อื่นๆ เค้ายังไม่ค่อยเรียบร้อยกัน ปกติแล้วนักเรียนที่เรียนจบกับเรานะคะ ไม่ว่าจะเป็นป.ตรี ป.โท หรือ PGD น่ะค่ะ เฉพาะหลักสูตร Hotel & Hospitality Management กับหลักสูตร Culinary Arts นะคะ เราจะถือว่าเรามีความเชี่ยวชาญพิเศษใช่ไหม เราจะมีโอกาสในการทำงานที่ต่างประเทศได้หลังจากเรียนจบ ซึ่งโรงเรียนเค้าก็จะช่วยเหลือจัดหาให้ตรงนี้ด้วย
อย่างตัวอย่างที่พี่ให้ดูนี่ก็จะเป็นตัวอย่างพวก Career day ของเราเค้าก็จะมีสถานประกอบการณ์ต่างๆ อันนี้รู้สึกว่าจะเป็นของฝั่ง US นะคะ เค้าบินเข้ามาสัมภาษณ์นักเรียนที่โรงเรียนเลย เค้าจะมีดู CV สัมภาษณ์กันสดๆ เลย ซึ่งนักเรียนหลายคนก็จะผ่านการสัมภาษณ์กันตั้งแต่ตอนนี้เลยก็มี หรือถ้าเราไม่ผ่านรอบนี้ก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ เราก็จะมีอีกรอบนึงก่อนที่จะฝึกงานจบ หรือฝึกจบไปแล้วสัก 1-2 เดือนอย่างงี้ถ้าเราอยากให้โรงเรียนเค้าช่วยเหลือก็สามารถติดต่อโรงเรียนได้ค่ะ โรงเรียนก็จะประสานงานไปตามสถานประกอบการณ์ที่ประเทศต่างๆ ก็จะเป็นพวก อเมริกา UAE หรือที่พี่ยกตัวอย่างไปแล้ว มัลดีฟ จาเมก้า หรือจะเป็นพวกสไตล์ management trainee ประเทศไทยเค้าก็จะส่งไปให้ แล้วเค้าก็จะแจ้งกลับมา ส่วนมากนักเรียนไทยที่จบแล้วไปทำอเมริกาต่อก็มีนะคะตอนสมัยที่สถานการณ์ยังปกติกว่านี้นะคะ
York: เรียกได้ว่าดูแลตั้งแต่ตอนเดินเข้าไปวันแรกเลยจนถึงเรียนจบแล้วโรงเรียนก็ยังดูแลเรื่องของการทำงาน ต่อหลังจากเรียนจบอีกนะ
BHMS: ภายใน 1 ปีนะ ไม่ใช่ว่าจบแล้วนอนเล่นที่บ้านตั้งสติได้ค่อยกลับไปหาใหม่ เพราะอันนั้นเค้าก็จะถือว่า เอ เราไม่ได้ใส่ใจหรือเปล่านะ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากให้โรงเรียนช่วยเหลือให้ติดต่อต่อโรงเรียนกันหลังจากเรียนจบแล้วภายใน 1 ปีนะคะ เพราะนอกจากการที่สถานประกอบการมาคัดเลือกโดยตรงแล้วโรงเรียนเค้าก็ยังมีการติดต่อให้หลังจากนั้นอีกด้วย
York: เรียกได้ว่าน้องๆ คือจ่ายไปไม่เกินล้าน นี่คือคุ้มค่าแน่นอนสำหรับการที่เรียนที่ BHMS นะคะ ทีนี่มาพูดถึงการสมัครเรียนดีกว่าค่ะ หลักจากเราพูดไปหมดแล้วว่าโรงเรียนมีอะไรบ้าง มีอะไรให้น้องๆ ได้บ้างแล้วก็มีสนับสนุนอะไรบ้าง แล้วทีนี่การสมัครเรียน น้องๆ หลายคน เด็กไทยทุกๆ คนเลยมักจะกังวลว่า ต้องมี IELTS ไหม จบอินเตอร์มา ต้องสอบ IELTS ไหมอะไรประมาณนี้ เดี๋ยวให้พี่กิ๊กพูดอธิบายดีกว่าค่ะ
BHMS: อันนี้เปิด intake ให้ดูว่าเรามี 8 รอบต่อปีนะคะน้องเกล แต่ว่าไม่ใช่ทุกหลักสูตรที่จะเปิด 8 รอบนะน้องเกล เพราะฉะนั้นอย่าชิล ถ้าน้องเกลมีน้องมาอยากเรียนป.โท MSc อย่างงี้ ป.โท MSc เปิดแค่ 3 รอบก็คือ กุมภาพันธ์ สิงหาคม และก็พฤศจิกายน เท่ากับว่าอยากเรียน MSc ปีนี้เราเหลือรอบเดียวแล้วคือ พฤศจิกายน ซึ่งต้องรีบสมัครแล้ว นี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างว่า เราก็ต้องปรึกษากับทาง York ให้ดีว่าเราจะเข้าหลักสูตรไหน แล้วก็ประมาณไหน York เค้าจะได้วางแผนว่าเมื่อไรที่เราควรสมัคร admission ให้เรียบร้อยแล้วเมื่อไรที่เราควรทำวีซ่าให้เรียบร้อยนะคะ เพราะวีซ่าไม่เสียเงินนะ
แล้วก็ส่วนพวก Requirement ทางด้านภาษาก็ไม่ต้อง worry โรงเรียน BHMS เรามี English Placement Test ใช้เองนะคะ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าใครไม่มี TOEFL IELTS ก็ไม่ต้องเป็นกังวล ถ้าตั้งใจจะเข้า BHMS จริงๆ ก็ไม่ต้องไปเสียตังค์สอบก็ได้ มาติดต่อพี่เกลขอสอบ Placement test ของ BHMS พี่เกลเค้าก็จะส่ง Link ให้นะคะ หรือเรียกมาสอบที่ York ก็ได้นะ ก็ให้สอบกัน ถ้าผ่านแล้วโรงเรียนก็จะออกผลคะแนนให้ซึ่งผลคะแนนสามารถเข้า admission BHMS ได้แล้วก็สามารถทำวีซ่าได้ 100% หมายความว่าพอไปถึงโรงเรียนไม่ต้องสอบใหม่ หรือไม่จำเป็นทีต้องไปเข้า pre-sessional ไม่ต้องไปสอบ IELTS อีกครั้งแล้วมาส่งอีกครั้ง คือผ่านแล้วก็จบตรงเรื่องภาษาเลย ฟรีด้วย
York: น้องๆ ถ้าสนใจเรียนที่ BHMS คือติดต่อพี่เกลได้เลย หรือติดต่อทาง York เดี๋ยวเราทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้นะคะ แล้วก็อย่างที่บอก สำหรับคนที่จะไปเรียนป.โท ปีนี้เหลือ intake สุดท้ายแล้วนะคะ คือจะเป็นรอบ Nov หรือพฤศจิกายนนะคะ หรือว่าปกติ process การทำวีซ่าต้องเผื่อเวลาไว้นิดนึงสัก 2 เดือน ก่อน ก่อนวันเปิดเรียนจะได้มีเวลาในเรื่องของการทำวีซ่านะคะ
BHMS: แล้วก็ตอนนี้เรามี นอกเหนือจาก scholarship แล้วเรายังมีให้ความช่วยเหลือนักเรียนไทยนะคะ ตอนนี้ใครที่สมัครแล้วจ่าย deposit แล้วนะคะต้องขอให้จ่าย deposit ก่อนเนอะ แล้วก็จะเข้า BHMS ภายในมกราคม 2021 นะคะ ตอนนี้เราอยู่ว่างๆ ยังไม่มีอะไรทำ หรือยังไม่ได้ทำอะไรก็โรงเรียนจะให้คอร์สภาษอังกฤษออนไลน์ฟรี ออนไลน์ 1 : 1 เลยนะ คือเรียนกับอาจารย์จริงๆ 1:1 ก็คือเค้าจะให้เรียนฟรี สำหรับนักเรียนที่จ่าย Deposit แล้วเรียนฟรี ตอนนี้นักเรียนก็เรียนกันไปแล้วหลายคนะคะ ซึ่ง Deposit ของเราก็ไม่ได้แพงนะน้องเกล บางคนจะคิดว่า BHMS อยากได้ Deposit หรือเปล่า เลยให้คลาสออนไลน์ น้องเกลว่า Deposit เราเท่าไรจำได้ไหม อยู่ที่ 500 CHF เท่านั้นเอง ซึ่ง 500 CHF นี่ไม่ใช่ส่วนเพิ่มด้วยนะ จ่ายไปแล้วเราไปหักออกตอนที่จะจ่าย Total fee อีกทีนึงด้วยนะคะ แต่แค่
York: Deposit เป็นค่าเรียนส่วนที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว ไม่ใช่จ่ายเพิ่มนะคะ ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อน ว่าตรงนี้มันก็เป็นส่วนนึงของค่าเรียน เท่ากับว่าโรงเรียนจะให้เรียนออนไลน์ได้ฟรีๆ เลยโดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม เรียนตัวต่อตัวด้วย ใจดีไปอีก
BHMS: เผลอๆ อยู่ว่างๆ จะได้ฝึกฝนภาษาไปในตัวด้วย ตอนเราอยู่สวิสก็ต้องมีฝึกงานทำงานเนอะ ถ้าเราได้ภาษาดี โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนะ อย่าเพิ่งพูดถึงภาษาที่ 3 เลย ถ้าเราได้ภาษาดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งเดี๋ยวพอไปถึงสวิสแล้วโรงเรียนเค้าจะให้เรียนภาษาที่ 3 ด้วยนะคะ ถ้าเป็นนักเรียนป.ตรีก็จะให้เรียนภาษาเยอรมัน เพราะเยอรมันเป็นภาษาราชการของสวิสฝั่งลูเซิร์น แล้วก็เป็นภาษาที่ใช้ในหลายประเทศของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ฮังการี ประเทศเยอรมันเอง หรือสวิสเซอร์แลนด์เองก็ตาม จะเรียนภาษาอื่นด้วยก็ได้นะ อย่างนักเรียนป.โทเองเราก็ให้เลือกเยอรมันหรือฝรั่งเศส หรือใครรักภาษามากกว่านี้ก็สามารถเลือกเรียนฟรีได้วันเสาร์อาทิตย์นะคะ
York: เรียกได้ว่าครบนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆสนใจติดต่อมาได้เลยนะคะ อย่าลืมนะคะ เอาล่ะ วันนี้ต้องขอบคุณพี่กิ๊กมากเลยที่มาร่วมพูดคุยกับเราอธิบายการเรียนที่สวิสให้น้องๆ กระจ่างแล้ว ว่าเรียนสวิสไม่แพงอย่างที่คิดและก็ได้อะไรเยอะกว่าที่คิดด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมนะคะ เราสองคนลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
BHMS: สวัสดีค่ะ
หากน้องๆ สนใจเรียนการโรงแรมกับสถาบันคุณภาพ B.H.M.S. Business & Hotel Management School สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ