Visa Info
ขออภัยค่ะ ข้อมูลอยู่ในระหว่างปรับปรุง แต่ท่านยังสามารถสอบถามรายละเอียดของ United Kingdom Visa ได้จากเจ้าหน้าที่ของ York Institute ค่ะ
การตรวจวัณโรค
ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าทุกประเภทในประเทศไทยที่ประสงค์จะพำนักในสหราชอาณาจักรนานกว่า 6 เดือน ต้องมีใบรับรองยืนยันว่าปลอดจากเชื้อวัณโรค หรือ Tuberculosis (TB) ก่อนที่จะยื่นเรื่องของวีซ่าจะต้องนัดล่วงหน้าก่อน ค่าธรรมเนียมการตรวจ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โปรดสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของ York Institute ติดต่อที่
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายฐาน (International Organisation for Migration- IOM)
อาคารเกษมกิจ ชั้น 8 ถนนสีลม บางรัก กทม. 10500
โทรศัพท์ 0-2234-7950-5
โทรสาร 0-2234-7956
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.(ยกเว้นวันหยุด)
แผนกวีซ่า สถานทูตอังกฤษ
14 ถ.วิทยุ กทม.10330
โทรศัพท์ 0-2305-8333
โทรสาร 0-2254-9579
ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการทำวีซ่าอังกฤษ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2558 นั้น ทางสถานฑูตอังกฤษได้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดประเภทของวีซ่า
และมีการเพิ่มเติมกฎเกณฑ์บางอย่างขึ้น ก่อนหน้านี้ทางสถานฑูตอังกฤษนั้นไม่มีค่าประกันสำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ แต่ปัจจุบันนั้นทางสถานฑูตอังกฤษได้เพิ่มเรื่องค่าประกันขึ้นมาเรียกกันว่า IHS
(Immigration Health Surcharge) หากนักเรียนต้องการจะไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษนั้นต้องมีการเสียค่า IHS เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน ซึ่งประกันนี้จะคลอบคลุมเฉพาะตอนที่อยู่ประเทศอังกฤษเท่านั้น
ส่วนเรื่องการยื่นวีซ่าแบบด่วน (Fast Track) ยังมีให้บริการขอวีซ่าแบบเร่งด่วนพิเศษ (Super Priority Visa Service) เป็นบริการเสริมชั้นหนึ่งของการขอวีซ่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปสหราชอาณาจักร อย่างเร่งด่วนมาก โดยจะเปิดบริการให้กับผู้ที่ยื่นวีซ่าเพื่อไปท่องเที่ยวทุกท่าน รวมถึงผู้ที่ขอวีซ่าทำงานบางประเภท บริการขอวีซ่าแบบเร่งด่วนพิเศษเป็นบริการเพิ่มเติมที่ดีขึ้น นอกเหนือจากบริการมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพและบริการขอวีซ่าเร่งด่วน 5 วัน (Fast Track) ที่มีอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เปิดกว้างให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากยิ่งขึ้น การขยายบริการระดับพรีเมี่ยมพุ่งเป้าที่จะเพิ่มทางเลือกที่มากขึ้น ให้แก่ผู้ใช้บริการกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย จากตัวเลข 67,500 ของคนไทยที่ได้รับวีซ่าในปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ของเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าสหราชอาณาจักรยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจและนักเรียน อีกทั้งยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ
การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับข้อกำหนดอื่นๆของวีซ่าที่กำลังจะเริ่มใช้มีดังนี้
- ปรับเปลี่ยนลดจำนวนวีซ่าท่องเที่ยวประเภทต่างๆ จาก 15 ประเภทให้เหลือเพียงแค่ 4 ประเภท และปรับปรุงคู่มือการแนะนำวีซ่าท่องเที่ยวให้ผู้ใช้บริการเข้าใจได้ง่ายขึ้น ว่าวีซ่าประเภทไหนเหมาะสำหรับพวกเขา รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้มากขึ้นสำหรับผู้ใช้บริการ เนื่องจากวีซ่ารูปแบบใหม่นี้จะอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าธุรกิจเดินทางไปท่อง เที่ยวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 เดือนเมษายนนี้
- นำโปรแกรม Select Business Scheme กลับมาใช้ใหม่ในเดือนหน้า โดยรวมการลดเอกสารที่ต้องยื่นประกอบคำร้องขอวีซ่าธุรกิจให้น้อยลง ถ้าพวกเขาเดินทางไปเพื่อทำธุรกิจในนามของบริษัทที่ได้รับการรับรองจากแผนก การค้าและการลงทุนของสหราชอาณาจักร
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักรตั้งเป้าที่จะให้ทางเลือกแก่ผู้ใช้บริการในวงกว้าง โดยนำเสนอบริการที่หลากหลาย อาทิเช่น
- การพิจารณาวีซ่าแบบมาตรฐาน 15 วันทำการ
- การขอวีซ่าแบบเร่งด่วน 3-5 วันทำการ ค่าธรรมเนียม 100 ปอนด์(5,200 บาท)
- การขอวีซ่าแบบเร่งด่วนพิเศษ ค่าธรรมเนียม 600 ปอนด์(31,200 บาท)
- บริการขอเล่มหนังสือเดินทางคืน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเก็บหนังสือเดินทางเอาไว้ ขณะรอการพิจารณาคำร้องขอวีซ่า ค่าธรรมเนียม 40 ปอนด์ (2,080 บาท)
- บริการนัดหมายในช่วงเวลาที่มีผู้ต้องการมากที่สุด เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการเวลานัดหมายนอกเวลาทำ การค่าธรรมเนียม 50 ปอนด์ (2,600 บาท)
สามารถค้นหาข้อมูลบริการพรีเมียมเพิ่มเติมได้ที่ vfsglobal เว็บไซต์ ท่านสามารถค้นหาข้อมูลวีซ่าประเภทต่างๆ กับวิธีการยื่นวีซ่าได้ที่ visas-immigration เว็บไซต์
ประเภทวีซ่าอังกฤษ
โดยทั่วไปที่มักนิยมทำกันนั้นจะมีไม่กี่ประเภทในการขอวีซ่าไปประเทศอังกฤษ ในทีนี้จะขอกล่าวถึง Student visas แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. Short-term study visa เดิมทีนั้นจะใช้ชื่อว่า student visitor visa เป็นวีซ่าที่ไปแบบระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน ในปัจจุบันนั้นทางสถานฑูตได้เปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็น Short-term study visa วีซ่าประเภทนี้จะไม่สามารถทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะแยกประเภทออกเป็น 2 ประเภทคือ
– 6 เดือน สำหรับคอร์สระยะสั้น เป็นการเรียนภาษาในคอร์สระยะไม่เกิน 6 เดือน สำหรับนักเรียนที่มีมีอายุเกิน 18 ปี ค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 4,700 บาท
– 11 เดือน สำหรับคอร์สระยะยาว เหมาะสำหรับนักเรียนหรือคนทำงานที่ต้องการจะไปเรียนภาษา สามารถลงเรียนภาษาได้ยาวแต่ไม่เกิน 11 เดือน สำหรับนักเรียนที่มีอายุเกิน 18 ปี ค่าธรรมเนียม
วีซ่าอยู่ที่ประมาณ 8,900 บาท
2. Tier 4 (Child) student visa วีซ่าประเภทนี้เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่อายุไม่ถึง 18 ปี หรือเดิมทีนั้นจะใช้ที่เราเรียกกันว่า child student visa นั่นเอง วีซ่าประเภทนี้จะไม่สามารถทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันทางสถานฑูตได้เปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็น Tier 4 (Child) student visa วีซ่าประเภทนี้ควรจะมีเอกสารเกี่ยวกับผู้ปกครอง หรือที่เรียกกันว่า Parental Authorized (ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ได้ไปด้วย)จะสามารถเป็นเอกสารอ้างอิงให้กับทางสถานฑูตได้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาวีซ่า ค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 17,700 บาท
3. Tier 4 (General) student visa เป็นวีซ่าสำหรันนักเรียนที่มีผลภาษามายื่นเพื่อขอไปศึกษาต่อ ทั้งในระดับปริญญาตรี หรือระดับปริญญาโทขึ้นไป อีกกรณีนึงคือการไปแบบเรียนภาษาที่สามารถทำงานได้ วีซ่าประเภทนี้สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ต้องมีผล IELTS ทุก brand 4.0 ขึ้นไป โดยปกตินั้นถ้าเป็นระดับปริญญาตรีหรือโทนั้น สามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียนที่ไปแบบเรียนภาษานั้นจะสามารถทำงานได้ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ วีซ่าประเภทนี้สามารถต่อวีซ่าในระดับอื่นๆ ได้ที่ประเทศอังกฤษได้เลย เช่น หากไปเรียนแบบภาษา เมื่อจบหลักสูตรการเรียนภาษานั้นสามารถต่อวีซ่าเพื่อเรียนต่อปริญญาที่สูงขึ้นไปได้เลย ไม่ต้องกลับมาทำวีซ่าที่ประเทศไทย ค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 18,100 บาท
สำหรับบุคคลทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวสามารถทำวีซ่าประเภทท่องเที่ยวได้ ในการขอวีซ่าท่องเที่ยว
Visitor Visa จะมี ค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 4,700 บาท โดยปกติแล้วนั้นวีซ่าท่องเที่ยวจะออกให้ 6 เดือนเท่านั้นตามกฎของสถานฑูต วีซ่าประเภทนี้สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดอายุหรือสถานะ