Blogs
(ตอน 1) live สดกับพี่แนนจากสถาบัน OIEG ถึงหลักสูตร Pathway สู่ 4 มหาวิทยาลัยในอังกฤษ : Dundee U., De Montfort U., U. of Greenwich และ Bangor U.
วันนี้ York Institute มีโอกาส live สด พูดคุยกับพี่แนน Regional Sales Manager, Thailand,Vietnam,Myanmar จากสถาบัน Oxford International Education Group ประเทศอังกฤษ ที่ดูแลด้าน Pathway program หลักสูตรที่เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี และโทใน 4 มหาวิทยาลัยของประเทศอังกฤษ
วันนี้พี่แนน มาให้ข้อมูลแบบละเอียดยิบทั้งแนะนำเมือง , แนะนำมหาวิทยาลัย, หลักสูตรต่างๆ , facility , และอัพเดตค่าเรียน, ค่าที่พัก, และที่พลาดไม่ได้คือทุนการศึกษา และตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)
York: สวัสดีค่ะพี่เกลจาก York นะคะ และวันนี้น้องๆ ที่สนใจเรียนต่อ ปริญญาโท และ ตรีที่อังกฤษ พลาดไม่ได้เลยนะคะเพราะวันนี้เราจะมาแนะนำหลักสูตร Pathway Program กันค่ะน้องบางคนอาจจะสงสัยว่าคืออะไรและเหมาะกับใครนะคะเดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดคุยกันนะคะ แต่ก่อนอื่นขอแนะนำแขกรับเชิญของเราก่อนนะคะพี่แนนจาก Oxford International Education Group (OIEG)ค่ะ
OIEG : สวัสดีค่ะ พี่แนนนะคะเป็นเจ้าหน้าที่ของ Oxford International Education Group (OIEG) ประจำอยู่ที่กรุงเทพค่ะ เป็นตัวแทนที่ดูแลทั้งประเทศไทย ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ค่ะ
York: ค่ะ น้องๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า Oxford International Education Group คืออะไรยังไงให้พี่แนนช่วยแนะนำหน่อยนะคะว่าคืออะไรและมีหลักสูตรอะไรบ้างค่ะ
OIEG : ได้เลยค่ะเดี๋ยวพี่แนนขอเปิด Presentation ให้ดูไปด้วยนะคะ Oxford International Education Group ก้เป็นหนึ่งใน Education Provider ค่ะ เรามีทั้งหมดหลาย Product ด้วยกันนะคะอย่างเช่นอันแรกก็จะเป็น Independent Boarding School in Oxford ก็เป็นไฮสคูลค่ะสำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนไฮสคูล ม.4-6 , GCSE, A-Level นะคะ
อันต่อมาก็คือ University Partnership ที่พี่แนนดูแลในส่วนนี้นะคะก็เกี่ยวกับการเรียนต่อปริญญาตรี หรือ โท ที่อังกฤษค่ะแล้วก็เรามีในส่วนของ English Program ด้วยนะคะสำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษทั้งระยะสั้นระยะยาวค่ะและสุดท้ายก็คือ Educational Tour จะเป็น Summer Camp ต่างๆ ค่ะนี่ก็เป็น Product ทั้งหมดของ Oxford International Education Group ค่ะ
OIEG : ทีนี้ในส่วนของมหาวิทยาลัยนะคะเราจะมีมหาวิทยาลัย Partner ในอังกฤษอยู่ 4 ที่ด้วยกัน
- University Of Dundee อยู่ที่เมือง Dundee Scotland ค่ะ
- De Montfort University อยู่ที่เมือง Leicester ค่ะ
- University of Greenwich อยู่ที่ Greenwich London ค่ะ
- Bangor University อยู่ที่เมือง Bangor Wales ค่ะ
ก็เป็น 4 มหาวิทยาลัยที่น้องๆ สามารถไปเรียนต่อได้นะคะในแต่ละมหาวิทยาลัยสำหรับตัว Pathway Program เราก็มีเปิดสอนหลายสาขาเลยนะคะครอบคลุมเกือบจะทุกสาขาเลยค่ะ
OIEG : แต่วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง 2 มหาวิทยาลัยนี้นะคะ De Montfort University และ University Of Dundee
อย่าง De Montfort University ตัวสาขาที่เด่นๆ ของที่นี่เลยก็จะเป็น Art Design fashion ก็เป็นท็อปอันดับที่ 7 ในอังกฤษเลยนะคะ
อย่าง University Of Dundee อันนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งใน Top Ranking ในอังกฤษเลยนะคะอยู่ในอันดับที่ 27 ค่ะ ตัวสาขาที่เป็น Top ก็มีด้านกฏหมายและด้านวิทยาศาสตร์ค่ะ
ในแต่ละ University Partner ของเรานะคะเขาก็ได้รับการการันตีคุณภาพการสอนอย่างที่ De Montfort University ได้รางวัลเหรียญทอง และ University Of Dundee ก็เช่นกันค่ะตัวรางวัลการันตีคุณภาพการสอนนี้จะรับรองและประเมินจากรัฐบาลอังกฤษนะคะ
และทั้ง 2 มหาวิทยาลัยนี้ก็อยู่ใน Top ของเหรียญทองด้วยนะคะ
OIEG : ทำไมน้องๆ ถึงต้องมาเรียนที่ Oxford International ในหลักสูตร Pathway ของเรานี่ก็จะเน้นสอนภาษาอังกฤษนะคะแล้วก็ด้าน Academic อย่างวิชาต่างๆ ที่เราจะต้องเรียนในหลักสูตร Foundation สำหรับปริญญาตรี หรือ Pre Master ของปริญญาโทนะคะและนอกจากนี้เราก็ยังจะสอนในเรื่องของ Study skill อย่างเช่นในเรื่องของ leadership skill การเขียน การทำ Presentation ค่ะ บางทีน้องๆ เด็กไทยเรานี่อาจจะยังไม่ค่อยมีทักษะตรงนี้มากและยังไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่ค่ะเราจะเน้นในเรื่องของการพัมนาทักษะตรงนี้ให้กับนักเรียน
และน้องๆ เนี่ยจะถือว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันแรกที่ไปเริ่มเรียนเลยถึงแม้ว่าเราจะเรียนหลักสูตร Foundation หรือ Pre Master เราก็ถือว่านักเรียนของมหาวิทยาลัยค่ะใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้หมดเลยค่ะ หอพักก็สามารถอยู่ได้ค่ะ On Campus ก็อยู่ได้เลยค่ะและน้องๆ ก็จะได้เรียน On Campus ด้วยค่ะเราจะใช้ตึกเรียนของมหาวิทยาลัยค่ะในส่วนของเราเรียนหลักสูตร Pathway ของเราค่ะสามารถใช้สิ่งอำนวยความสพดวกต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้และสามารถไป Join Club ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ
OIEG : แล้วก็ Multiple Start Date เราจะมีรอบเปิดเทอมถึง 4 รอบต่่อปีเลยนะคะอย่างรอบต่อไปที่กำลังจะถึงนี้ก็คือเดือนกันยายน นี้ค่ะ หลังจากนั้นก็จะมีรอบ มกรา เมษา แล้วก็เดือนมิถุนา ค่ะ ก็แล้วแต่น้องๆ สะดวกเลยนะคะว่าสะดวกไปเริ่มเรียนรอบไหนและสำหรับน้องๆ ที่คะแนน IELTS ไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดเราก็มีส่วนของ Pre-sessional English ให้ด้วยนะคะเพื่อปรับตัวคะแนน IELTS ให้ถึงตามที่กำหนดนะคะ มีทั้ง 6 weeks 12 weeks ขึั้นอยู่กับผลคะแนน IELTS ตอนที่น้องสมัครนะคะ นอกจากนี้น้องยังได้ Visa ยาวถึงแม้ว่าจะจบหลักสูตร Foundation หรือ Pre Master แล้วเนี่ยก็ไม่ต้องกลับมาขอ Visa ที่ประเทศไทยอีกก็อยู่ยาวไปเลยค่ะช่วงปิดเทอมก็ไม่ต้องกลับมาก็อยู่ยาวๆ ได้เลยค่ะ
OIEG : ห้องเรียนก็จะเป็นห้องเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 15 คนเพื่อที่เราอยากจะเน้นให้น้องๆได้รับความรู้อย่างเต็มที่และดูแลได้อย่างทั่วถึงให้น้อง ได้รับข้อมูลอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมความพร้อมให้น้องๆ ก่อนจะเข้าปีการศึกษาของมหาวิทยาลัยค่ะ
OIEG : และถ้าน้องๆ สนใจยื่นใบสมัครเข้ามาและมีเอกสารครบถ้วนเราสามารถออกใบตอบรับให้ได้เลยภายใน 24 ชั่วโมงค่ะ ใครที่อยากจะสมัครและลุ้นว่ามหาวิทยาลัยจะรับมั้ย ถ้าส่งใบสมัครและเอกสารเข้ามาครบทางเราก็ออกเอกสารตอบรับให้ภายในหนึ่งวันเลยค่ะ แล้วก็น้องๆ สามารถเลือกสาขาที่อยากจะเข้าเรียนมาได้ตั้งแต่แรกเลยค่ะไม่ว่าจะเป็น Business Engineer Art Design ก็สามารถกรอกมาได้เลยค่ะสุดท้าย 95% ของนักเรียนที่มาเรียน Pathway Program กับ Oxford International สามารถต่อเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้นะคะ ส่วนอีก 5% เคสส่วนใหญ่ก็อาจจะย้าย มหาลัยไปบ้างน้องๆ บางคนมีแฟนก็ย้ายไปเรียนด้วยกันบ้างอะไรประมาณนี้ค่ะที่ทราบมา
OIEG : ทีนี้ในส่วนของหลักสูตรสำหรับปริญญาตรี Pathway เราจะมี International Year Zero เป็นหลักสูตร 4 ปีเหมาะสำหรับน้องที่จบ ม.5 มานะคะหรือ ม.6 ก็ได้ค่ะ GPA ตั้งแต่ 2.50 – 3.00 อยู่ที่ว่าเราเลือกเรียนมหาวิทยาลัยไหน Oxford International Education Group: อย่างของ De Montfort University และ University Of Dundee ก็รับตั้งแต่ ม.5 เลยค่ะอันนี้จะเป็นหลักสูตร 4 ปี อายุรับตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไปค่ะผลภาษาที่ใช้สมัคร รับ IELTS Academic IELTS UKVI ของ Oxford เราก็มีเทสด้วยนะคะหรือจะเป็น Pearson Duo lingo ก็ได้ครอบคลุมทุกอย่างเลยนะคะ IELTS เรารับที่ 5.5 นะคะ International Year Zero เราจะใช้เวลาเรียน 9 เดือน หลังจากนั้นเนี่ยพอน้องๆจบเราก็เข้าเรียนต่อในปี 1 ของมหาวิทยาลัยได้เลยค่ะและน้องบางคนที่ไม่ได้จบ ม.5 มาอาจจะไปเรียนที่ต่างประเทศมาจะใช้ผล GED ในการสมัครก็ได้นะคะ
OIEG : ต่อมาจะเป็นหลักสูตร International First Year นะคะอันนี้คือเรียน 3 ปีจบนนะคะสำหรับน้องๆ ที่จบ ม 6 และ GPA 2.50 ขึ้นไปนะคะ รับอายุ 18 ปีขึ้นไปค่ะอันนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะน้องๆ ก็มาเรียน Pathway เราจะใช้เวลาเรียน 9 เดือน หลังจากนั้นเนี่ยพอน้องๆจบเราก็เข้าเรียนต่อในปี 2 ของมหาวิทยาลัยส่วนผลภาษาก็ใช้เหมือนกับที่แจ้งไปเลยค่ะอันนี้ก็จะเหมาะกับน้องๆ ที่จบ ม.6 มานะคะ
OIEG : สุดท้ายหลักสูตรที่เราเปิดสอนก็คือ Pre Master นะคะสำหรับน้องๆ ที่จบปริญญาตรีมาและ GPA 2.00 ขึ้นไปค่ะตัวนี้แนะนำสำหรับน้องๆ ที่เกรดไม่ถึงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดในการรับเข้าเรียน แต่น้องๆ อยากเรียนก็อาจจะต้องมาเรียน Pre Master นะคะ หรือน้องที่คะแนน IELTS ไม่ถึงค่ะก็มาเรียนตัวนี้ก่อนค่ะ และอีกกรณีนึงก็คือน้องที่อยากมาเรียนข้ามสายซึ่งในตอนที่เรียนปริญญาตรีมาอาจจะเรียนอีกสาขาวิชานึงมาแต่พอมา ปริญญาโท อยากเรียนอะไรที่แตกต่างออกไปซึ่งเราไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็อาจจะต้องมาเรียน Pre Master ก่อนค่ะ ตัวนี้จะมีเปิดสอนอยู่ 2 เทอมค่ะ แบบ 1 Term 10 weeks สำหรับน้องๆ ที่ได้ IELTS 6.0 นะคะ และแบบ 2 Term 20 weeks IELTS 5.5 ค่ะ แล้วถ้าถ้าได้ IELTS ต่ำกว่านี้ก็เรียนได้ค่ะเขาก็จะให้เราเรียน 2 Term นะคะและเรียน Pre-sessional เสริมด้วยแล้วแต่ผล IELTS ของเรานะคะพอจบตัว Pre Master ปุ๊ปก็เรียนต่อในปริญญาโทได้เลยค่ะ
OIEG : และอันนี้จะเป็นตัวสาขาที่เปิดสอนของ De Montfort University นะคะ International Year Zero ก็จะมีเปิดสอน
- Art & Design
- Business & Law
- Engineering & Computing
- Life Sciences
- Media
- Pharmacy
และ International Incorporated Bachelor’s: International First Year
- Business & Management
- Engineering & Computing
ก็อาจจะไม่มีสาขาเยอะเท่า Year Zero นะคะอย่างบางทีน้องๆที่จบ ม.6 อยากจะเรียนที่ De Montfort University อยากเรียน 3 ปี แต่ไม่มีสาขาที่จะเรียนก็อาจจะต้องไปเรียน Year Zero ที่เป็น 4 ปีนะคะ
OIEG : ต่อไปเรามีหลักสูตร Pre Top Up ด้วยนะคะสำหรับน้องๆ ที่จบปี 3 แล้วย้ายมาเรียนที่อังกฤษสามารถมาเรียน Pre Top Up ได้นะคะก็มี 1-2 Term 10 weeks -20 weeks เหมือนกันค่ะคล้ายๆ ตัว Pre Master เสร็จแล้วก็ไปเรียน ปีสุดท้ายที่อังกฤษค่ะแล้วตอนเรียนจบก็ได้ดีกรี ของ De Montfort University เลยค่ะ แต่สาขาที่เปิดสอนจะมีแค่ Business อย่างเดียวนะคะ
OIEG : และหลักสูตรสุดท้ายนะคะก็คือ International Incorporated Master’s: Pre Master ก็จะมีเปิดสอน
- Art & Design ตัวนี้เราก็จะต้องมีพื้นฐานมาตั้งแต่ปริญญาตรีนะคะ และก็อาจจะต้องมี Portfolio มาด้วยนะคะ
- Business
- Engineering
OIEG : ต่อมาก็จะเป็นตัวหลักสูตรของ University Of Dundee นะคะก็คล้ายกันนะคะแต่จะเรียกชื่อแตกต่างไปนิดนึงนะคะ
หลักสูตร International Stage One ก็คือตัว Foundation นั่นแหละค่ะเรียน 4 ปี
ที่นี่จะเรียน Foundation 9 เดือน และเรียนอีก 3 ปีนะคะ
สาขาที่เปิดสอนของ University Of Dundee
- Art & Design
- Business
- Life & Biomedical Sciences
- Engineering & Physical Sciences
- Social Studies
- Nursing
OIEG : น้องๆ ที่สนใจ Nursing จบ ม.6 มา ไม่จำเป็นต้องเรียนสายวิทย์มาก็ได้นะคะเรารับหมดเลยแต่คณิตศาสตร์น้องๆอาจจะต้องเก่งนิดนึงนะคะ เพราะมันจะมีการคำนวนด้วยเนอะและที่น่าสนใจก็คือถ้าเราเรียนจบแลล้วเราสามารถทำงานต่อที่อังกฤษได้เลยนะคะทั้งปริญญาตรีและโทมีงานรองรับเลย
แล้วก็ที่ University Of Dundee เรามีหลักสูตรที่เรียน 3 ปีด้วยสำหรับน้องๆ ที่เกรดดีอันนี้จะตอบโจทย์มากเลยสำหรับคนที่อยากเข้า Top Ranking และไม่อยากเรียน Pathway 4 ปี อันนี้ก็มีแบบ 3 ปีให้แล้วนะคะ รับน้องๆ ที่จบ ม.6 GPA 2.75 ขึ้นไปก็สามารถมาสมัครเรียนแบบ 3 ปีจบได้เลยค่ะตอนนี้เราพึ่งเปิดเดือนกันยานี้เป็น Intake แรกเลยค่ะเพราะฉนั้นตอนนี้เราจะเปิดแค่ Business ก่อนค่ะ
และสุดท้ายเป็น Pre Master สาขาที่เราเปิดสอนก็จะมี
- Business
- Engineering Centre for Energy, Petroleum and Mineral Law & Policy
อันสุดท้ายนี้จะชื่อยาวนิดนึงนะคะจะเกี่ยวกับกฏหมายทรัพยากรในน่านน้ำ ใต้น้ำ ใต้ทะเล ว่าเป็นทรัพยากรของประเทศใดค่ะ
ต่อไปจะพูดถึงเรื่องเกณฑ์การับเข้าและเรื่องคะแนน IELTS นะคะทั้งหมดของหลักสูตร Pathway ปริญญาตรีเนี่ยเรารับที่ IELTS 5.5 ค่ะแต่ถ้าน้องๆได้น้อยกว่านี้อย่างเช่นได้ 5.0 เราก็จะให้น้องๆ มาเรียน Pre-sessional 6 weeks ค่ะ หรือถ้าได้ 4.5 เราก็รับนะคะแต่น้องต้องมาเรียน Pre-sessional 12 weeks นะคะ
ในส่วนของปริญญาโทก็เหมือนกันนะคะเรารับเข้าเรียนตัว Pre Master ที่ IELTS 6.0 ค่ะถ้าได้น้อยกว่านี้ก็คือต้องเรียน Pre-sessional เพิ่มเหมือนกันค่ะ
อันนี้เป็นสไลด์ให้ดูนะคะว่าถ้าเราได้ IELTS 5.0 และไม่มี Band ไหนต่ำกว่า 4.5 เราก็จะมาเรียน 6 weeks ค่ะ ข้างล่างก็จะมีช่วงที่เริ่มเรียนให้ดูนะคะ ส่วนใหญ่ถ้าเรียน 6 weeks ก็จะเริ่มเรียนเดือนพฤศจิกายนนะคะ หรือเดือนเมษาค่ะ และถ้าเป็น 12 weeks ก็เป็นรอบเดือนกันยาและมกราค่ะ ก็จะวนไปเรื่อยๆ ค่ะน้องๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่า IELTS ไม่ถึงแล้วเรียนไม่ได้อะไรแบบนี้นะคะ
แล้วก็พี่แนนมีข้อมูลเพิ่มเติมให้นะคะสำหรับน้องๆ ที่ไม่มีผล IELTS เลยไม่เคยสอบมาเลยทางเรามีตัวเทสของเราเองด้วยค่ะเราเรียกว่า OIEG Test นะคะตัวนี้จะเทียบเท่า IELTS UKVI เลยนะคะก็จะมีค่าสอบอยู่ที่ 75 ปอนด์ น้องๆ สามารถสอบออนไลน์ได้เองเลยที่บ้านนะคะและข้อดีของตัวนี้ก็คือในตัวข้อสอบเขาจะมี Topic มาให้เราด้วยซึ่งมันจะช่วยทำให้เราได้คะแนนดีขึ้นนะคะ จะใช้เวลาสอบ 3 วันค่ะ วันแรกจะเป็น Reading, Listening เป็นแบบออนไลน์นะคะจับเวลาค่ะ
และพอเราสอบเสร็จเขาก็จะส่งข้อสอบ Writing มาให้เราค่ะ ซึ่งเขาจะมี Topic มาให้เราซึ่งเราก็หาข้อมูลมาเขียนเสร็จแล้วก็ส่งอีเมลล์กลับไปนะคะหลังจากนั้นเขาก็จะส่ง Link ของ Speaking Skill มาให้นะคะซึ่งเราจะใช้สอบทาง Skype อันนี้เขาก็จะมี Topic มาให้เราแล้วเหมือนกันน้องๆ ก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวคะแนนเราก็จะดีขึ้น
OIEG : และตอนนี้สำหรับน้องๆ ที่ต้องเรียน Pre-sessional ถ้ายังไม่พร้อมที่จะไปเริ่มเรียนที่อังกฤษเดือนกันยานี้เราก็มีให้เรียนออนไลน์นะคะก็เรียนเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้ค่ะ
ถัดไปก็จะเป็นส่วนของมหาวิทยาลัยอันนี้จะเป็นรูปภาพแล้วเนอะข้อมูลเราพูดกันไปเยอะแล้วนะคะ อันนี้จะเป็น De Montfort University International College นะคะหรือ DMUIC นะคะอันนี้จะเป็นในส่วนของ Pathway ค่ะ แต่อย่างที่บอกคือเราจะได้เรียน On Campus ทุกอย่างค่ะ มหาวิทยาลัยอยู่ที่เมือง Leicester นะคะถือว่าเป็นเมืองบที่ค่าครองชีพค่อนข้างถูกเคยติดอันดับ Top Ten เรื่องค่าครองชีพทีี่ไม่สูงมากนะคะ Leicester อยู่ห่างจาก London ประมาณชั่วโมงนึงนะคะถ้านั่งรถไฟ เราก็สามารถไปกลับได้ค่ะ แล้วก็ตัวมหาวิทยาลัยเนี่ยจะอยู่ในใจกลางเมืองของ Leicester เลยถ้าเราจะไปช้อปปิ้งซื้ออาหารก็เดินแค่ 5 นาทีค่ะแต่ถ้าจะไปสถานีรถไฟก็จะเดินประมาณ 15 นาทีค่ะ อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารเลยเพราะที่นี่มีตลาด Outdoor ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเลยค่ะและเรื่องอาหารและเรื่องช้อปปิ้งก็ถูกด้วยนะคะที่นี่ หอพักก็มีเยอะมากค่ะ
และรูปที่เห็นนี้ก็จะเป็นตึก Art & Design นะคะที่นี่ก็จะเน้นในเรื่อง Art & Design เพราะเขาเป็นมหาวิทยาลัย Top ในด้าน Art & Design ค่ะ
ในส่วนของบรรยากาศในเมืองนี่นะคะเดินออกจากมหาวิทยาลัยก็จะเจอร้านอาหาร คลับ บาร์ ห้าง เลยค่ะและก็มีโซนที่เป็นธรรมชาติด้วยนะคะ
และพวกกีฬาหรือ Club ต่างของ DMU น้องๆ ก็ไป Join ได้หมดค่ะแล้วแต่ความถนัดเลยโดยเฉพาะฟุตบอลถ้าน้องๆ รู้จัก Leicester ที่นี่จะมีสโมสรฟุตบอล Leicester ของ King Power นะคะทางมหาวิทยาลัยเรากับ King Power ก็จะมีความร่วมมือกันในหลายด้านนะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่่องทุนการศึกษาต่างๆ หรือการหางานทาง King Power เขาก็จะมาช่วย Sponsor ให้เรานะคะ
อันนี้เป็นภาพหอพักนะคะเป็นหอในมีให้เลือกหลายราคาเลยแล้วแต่งบของเรานะคะว่าจะเลือกแบบไหน
ต่อไปเป็น University Of Dundee นะคะ อยู่ที่ Dundee Scotland เป็นเมืองที่อากาศดีมากอบอุ่นไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่เทียบกับเมืองอื่นๆ เพราะอยู่ชายทะเล
มี V&A มิวเซียมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 สำหรับน้องๆ ที่สนใจในเรื่อง Art & Design ที่นี่จะเป็นต้นกำเนิดของเกมส์นึงใน play station สามมิติที่เราเล่นกัน University Of Dundee ประดิษฐ์ขึ้นมานะคะแล้วก็ ตู้ ATM ก็ประดิษฐ์ที่นี่เหมือนกันค่ะ, มือถือ จอ LCD ที่เป็นแบบ Flash Screen ทุกอย่างที่เป็นเทคโนโลยี university of Dundee เป็นคนประดิษฐ์นะคะ
แล้วก็วัคซีนไข้มาลาเรียค่ะก็เป็นงานวิจัยของที่นี่ด้วย แล้วก็ Data Handing Network ตัวที่ส่งข้อมูลจากภาคพื้นดินไปอวกาศก็เป็นความร่วมมือกับทาง Nasa ค่ะ
University of Dundee เค้าก็จะเด่นในเรื่อง Arts & Design และก็ Life Science น้องๆ สายวิทย์เหมาะมากเลยที่จะเรียนที่นี่ เป็น Top อันดับ 30 ของ UK นะคะ แล้วก็ฝั่งตรงข้ามของเมือง Dundee นะคะก็คือเมือง St. Andrew นะคะก็มีมหาวิทยาลัย Top อันดับ 3 ในอังกฤษเลยก็เป็นเมืองเก่าแก่ก็อยู่ตรงข้ามกันขับรถข้ามไปหากันก็คือ 5 นาทีเอง แล้วก็ในส่วนของ UK Student Experience เราถือว่าที่ Dundee เป็นอันดับ 1 ในอังกฤษนะคะ ตัวนี้มันจะเป็นการทำ survey จากนักเรียนที่จบไปแล้วน่ะค่ะว่าคุณแฮปปี้ไหมที่เรียนที่นี่จากการ survey ทั้งหมดทุกมหาวิทยาลัยของ Dundee ก็ได้เป็นอันดับ 1 แสดงว่าน้องๆ ก็แฮปปี้ทุกคน ถึงแม้จะเรียนที่สกอตแลนด์อาจจะเย็นกว่าชาวบ้านเค้าหน่อย
แล้วก็ในส่วนของหอพักมีหอพักในอยู่ 2 หอพักค่ะแล้วก็หอนอกอีก 1 นะคะ แต่ว่าที่ Scotland หอนอกจะถูกกว่าหอในแล้วก็ค่าครองชีพถูกมากค่ะ หอพักนี่คือ 50 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ที่ถูกที่สุด อันนี้ในส่วนของค่าเรียนนะคะปี 2020 ก็คือของรอบ กันยา แล้วก็ มกรา ถ้าเป็นหลักสูตร pathway
ของป.ตรีนะคะ ค่าเรียนอยู่ที่ 14,495 – 16,595 ปอนด์ ประมาณ 5 แสนประมาณนี้
ของป.โท 11,495 – 15,495 ปอนด์ ประมาณนี้ค่ะ อันนี้ก็เป็นข้อมูลทั้งหมดที่พี่แนนเอามาแนะนำของทั้งสองมหาวิทยาลัยค่ะ
York: โอเคค่ะ อย่างที่พี่แนนบอกไปเมื่อสักครู่นี้ถ้าเกิดน้องๆ คนไหนสนใจในเรื่องของสายวิทย์จะเป็นทางด้าน Dundee ที่เด่นในเรื่องของสายวิทย์และเทคโนโลยี
OIEG : น้องๆ ที่อาจจะอยากเรียน Engineering หรือว่า Media Technology ต่างๆ หรือแม้กระทั่ง Mathematics ก็ที่ Dundee เค้าก็จะเหมาะ เค้าก็มีทุกอย่างนะคะอย่าง Social studies, IR หรือ Psychology, Philosophy, International Law ตัว Law นี้ค่ะอย่างที่เคยแจ้งไปเค้าค่อนข้างติด Top subject แล้วก็สายวิทยาศาสตร์ต่างๆ Biomedical science ก็จะเหมาะกับที่ Dundee
York: แล้วก็ส่วน DMU หรือว่า De Montfort น่ะค่ะ หลักสูตรที่เด่นของเค้า มีอะไรบ้างคะ
OIEG : เอ่อ มี Arts & Design จะครอบคลุมทุกอย่างเลยหลักๆ เลย Fine Arts หรือว่าเป็น Fashion Textile อันนี้ถือว่าเป็น Top เลยค่ะ สมัยก่อน Leicester ที่เค้าอยู่หรือว่า Nottingham สมัยโบราณจะมีอุตสาหกรรมสิ่งทอก็คือ Textile ก็คือเริ่มต้นที่นี่เลย เพราะฉะนั้นมันก็ตามกาลเวลานะคะ เค้าก็พัฒนามาเรื่อยๆ แล้วก็ตัวมหาวิทยาลัยก็คือเห็นว่าอันนี้เป็นอะไรที่เราสามารถพัฒนาแล้วก็เน้นตัวนี้เป็นหลักได้ เด็กๆ เค้าก็มาเรียนมันก็จะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาให้เค้าได้ศึกษาด้วยค่ะ หลักๆ ก็คือ Arts & Design
หรือว่าน้องๆ จะเรียน Engineering ก็ได้นะคะ Engineering ที่นี่เค้าก็ค่อนข้างเด่นแล้วก็แล็บมีเยอะมากเลยเค้าเป็นแล็บใหม่ๆ อย่าง Computing หรือ Data Science อีกชื่อนึงก็คือ AI ที่นี่ก็มีเปิดสอนเหมือนกัน แล้วก็ Pharmacy น้องบางคนอาจจะอยากมีอะไรของตัวเอง มันจะมี major Pharmaceutical Cosmetic อย่างน้องๆ อยากจะมีผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างงี้ แล้วก็ Business อันนี้คือเด่นอยู่แล้ว เราก็จะมีนักเรียนที่ไปเรียน business ไปเรียนกับเราเยอะเลย เรามี Bloomberg ห้องที่สำหรับไว้ทดลองเทรดหุ้นให้ บางคนนี่คือเทรดจนรวยไปเลย ยังเรียนไม่จบเลย ฮ่าๆๆ
York: เมื่อสักครู่ก็จะเป็นหลักสูตรที่เด่นๆ ของแต่ละมหาวิทยาลัยที่เรานำมาเสนอวันนี้นะคะ ทีนี่เรามาถามเรื่องการใช้ชีวิตที่นู้นดีกว่า น้องๆ ก็คงจะสงสัยไม่ว่าจะเป็นเมือง Dundee เองหรือเมือง Leicester เองค่าครองชีพในเมืองเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจาก Dundee ก่อนละกัน
OIEG : โอเค ของ Dundee นะคะ ถือว่าเป็นเมืองไซส์กลางนะคะคือพี่แนนไปมาทั้งสองมหาวิทยาลัยแระ ก็อย่างของที่ Dundee คือเมืองไม่ได้ใหญ่มากถ้าไซส์ก็คือ ไซส์เดียวกันกับ Leicester แหละไม่ได้เล็ก เป็นเมืองที่เป็นมหาวิทยาลัยเป็นเมือง university city ค่ะ ตัวมหาวิทยาลัยเค้าก็จะอยู่ใจกลางเมืองบริเวณรอบๆ ก็มีร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีห้าง มีทุกอย่าง แต่ว่าค่าครองชีพไม่แพงนะคะ