Blogs
(ตอน 1) live สดกับคุณกิ๊ก ASEAN Regional Manager ของสถาบันการโรงแรมระดับโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ BHMS
วันนี้พี่กิ๊ก มาให้ข้อมูลแบบละเอียดสุดๆ ทั้งแนะนำโรงเรียน, หลักสูตร, ค่าเรียนและค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาเรียน. ทุนการศึกษา, ที่พักของนักเรียน, การฝึกงานว่ามีรายได้เท่าไหร่, ฝึกงานอะไร , กินอยู่อย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่, เมือง Luzern เป็นอย่างไร, สถานการณ์ปัจจุบันหลังโควิดและตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)
B.H.M.S. Business & Hotel Management School (โรงเรียนการบริหารจัดการธุรกิจและการโรงแรม BHMS) ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2515 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น เปิดสอนหลักสูตรการบริหารจัดการ ธุรกิจการโรงแรมที่ได้มาตรฐาน BHMS ได้มีความร่วมมือกันระหว่าง มหาวิทยาลัย Robert Gordon university of Aberdeen สหราชอาณาจักร และมหาวิทยาลัย City University of Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดให้การศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพและหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
York: สวัสดีค่ะ พี่เกลจาก York นะคะ วันนี้นะคะเราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับการเรียนต่อการโรงแรมที่ประเทศสวิส กับ BHMS ค่ะ แล้ววันนี้พี่เกลก็ไม่ได้มาคนเดียวนะคะ พี่เกลมีแขกรับเชิญพิเศษมาด้วยนะคะ พี่กิ๊กจาก BHMS ค่ะ สวัสดีค่ะพี่กิ๊ก
BHMS: สวัสดีค่ะ น้องเกล และน้องๆ, ผู้ปกครองจาก York Institute นะคะ นานเลยนะที่เราไม่ได้เจอกัน
York: เดี๋ยวให้พี่กิ๊กแนะนำตัวก่อนเลยดีกว่านะคะ
BHMS: ค่ะ ก็หลายๆ คนคงอาจจะรู้จักกันแล้วนะคะ พี่ชื่อพี่กิ๊กนะคะ พี่กิ๊กเป็นผู้จัดการส่วนภูมิภาคอาเชียนของสถาบัน BHMS, Business and Hotel Management School เราเป็นสถาบันที่สอนด้านธุรกิจ และการโรงแรมอยู่ที่ใจกลางเมืองลูเซิร์น สวิสเซอร์แลนด์ เดี๋ยววันนี้เราจะมาคุยกันนะคะว่า BHMS สอนอะไรกันแน่ มันมีแค่การโรงแรมหรือเปล่านะคะ
York: ได้เลยค่ะ งั้นอยากให้พี่กิ๊กแนะนำโรงเรียน BHMS ให้น้องๆ รู้จักหน่อยค่ะ
BHMS: ได้เลยค่ะ เดี๋ยวบอกก่อนนะคะเผื่อน้องคนอื่นที่เพิ่งเข้ามา ถ้าอยากได้อะไรตอนนี้เราก็เป็นยุคออนไลน์กันแล้วเนอะ เพราะฉะนั้นหยิบมือถือขึ้นมาสแกนบาร์โค้ดตรงนี้ได้เลยค่ะ พอสแกนบาร์โค้ดตรงนี้เราก็จะได้เล่มโบร์ชัวร์กันไป พอได้เล่มโบร์ชัวร์แล้วถ้าอยากจะติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สามารถถามกับทางพี่เกลหรือ York Institute ได้นะ หรือว่าถ้าเกิดคิดถึงพี่กิ๊ก อาจจะให้พี่เกลช่วยติดต่อพี่กิ๊กให้ก็ได้นะคะ อย่างงั้นเดี๋ยวพี่กลับมาแนะนำโรงเรียนก่อนเนอะ ก็เพื่อที่จะให้น้องๆ เห็นภาพมากขึ้น เดี๋ยวพี่ขอที่จะอนุญาตเปิดสไลด์ประกอบแล้วกัน นะน้องเกล
York: ได้เลยค่ะ
BHMS: จะได้ไม่ต้องพูดเฉยๆ นะคะ ก็อย่างเมื่อกี้น้องเกลถามเรื่องโรงเรียนนะ หลายๆ คนก็คงจะทราบเรื่อง BHMS เพราะว่าโรงเรียนเราก็ค่อนข้างจะดังในภูมิภาคนี้นะคะ BHMS เรามีประวัติค่อนข้างยาวนานนะคะ คือถ้าเห็นในนี้ก็เกือบจะ 90 ปีแล้วนะคะ กับทาง Benedict Education Group บริษัทแม่ของเรา ก็ตั้งอยู่ที่กรุงซูริค ส่วน BHMS ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ซึ่งถ้าขับรถจากซูริคนะก็ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าเกิดเป็นช่วงปกติ ซึ่งตอนนี้ก็เกือบปกติ 100% แล้วนะ ซึ่งก็จะมีนักเรียนเข้ามาเรียนกันประมาณ 85 – 95 เชื้อชาติ เพราะฉะนั้นนักเรียนถ้าใครมาเรียนก็จะได้รู้สึกถึงความเป็น international หรือความเป็นนานาชาติที่แท้จริงนะคะ แล้วก็มีโปรแกรมต่างๆ มากมาย เดี๋ยวเราค่อยดูกันต่อไปนะคะ ตอนนี้ก็แต่ละปีการศึกษาของเราก็จะมีนักเรียนลงทะเบียนเข้ามาในระบบประมาณ 1,000 คนเลยค่ะน้องเกล แต่ว่าเราก็ไม่ต้องห่วง นักเรียนก็ไม่ต้อง worry หรือกังวลว่าเอ โรงเรียนจะดูแลนักเรียนทั่วถึงไหม เพราะว่า 6 เดือนแรกเราก็จะเรียนที่ใจกลางลูเซิร์น ส่วนอีก 6 เดือนก็จะเป็นฝึกงาน Internship เพราะฉะนั้นนักเรียนที่จะอยู่โรงเรียนก็จะมีประมาณ 400 กว่าคนเพราะอีกครึ่งนึงเค้าต้องไปฝึกงานกันไงคะ ส่วน ณ ตอนนี้ ณ ช่วงเวลาที่เกือบปกติก็จะมีนักเรียนประมาณ 250 – 350 คนประมาณนี้ เพราะสวิสก็ค่อนข้างปลอดภัย นักเรียนที่ยังอยู่ในโรงเรียนก็มีอีกเยอะค่ะ
York: โรงเรียน BHMS มีเปิดสอนหลักสูตรอะไรบ้างคะพี่กิ๊ก
BHMS: เดี๋ยวก็แนะนำ location ก่อนที่จะไปหลักสูตรนะคะ วันนี้มีเตรียม location มาให้ดูด้วยค่ะ ก็คืออย่างที่เราเห็นข้างหลังฉากพี่นะคะ นี่ไม่ใช่ BHMS ถ่ายเองนะคะ อันนี้เอามาจาก Switzerland Tourism Organization ซึ่งเป็นรูปของการท่องเที่ยวที่สวิสเซอร์แลนด์ที่เค้าถ่ายเอาไว้ เป็นใจกลางของเมืองลูเซิร์นนะคะ ซึ่งโรงเรียนเราน้องเกลเห็นไหมที่วงกลมสีแดงนั่นแหละ ก็คือสถานที่ตั้งของแคมปัสเราเนอะ ก็คือตึก city campus อันโด่งดัง เราก็จะเห็นอยู่ในวงกลมสีแดง ก็จะเห็นว่าที่ตั้งของ BHMS จะอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์นและสามารถเดินทั่วถึงกันได้หมดเลยนะคะ จะเดินมาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ที่เป็นสะพานไม้ก็เดินมาไม่ถึง 10 นาทีก็จะถึงแล้ว เห็นไหมว่าการเดินทางมันค่อนข้างง่าย ประหยัดค่าเดินทางด้วยนะคะอีกอย่างนึงนักเรียนมาเรียนก็ไม่เบื่อ ชีวิตความเป็นอยู่ก็สามารถเข้าถึงความเป็น international ของธุรกิจการท่องเที่ยวจริงๆ ได้นะคะ ตั้งแต่สมัยที่เราเรียนอยู่ที่โรงเรียน BHMS แล้วนะคะ ส่วน BHMS เราตั้งอยู่ใจกลางลูเซิร์นใช่ไหม ลูเซิร์นก็ตั้งอยู่ใจกลางสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนสวิสเซอร์แลนด์ก็อยู่ใจกลางยุโรปนะคะ เวลาที่นักเรียนมาเรียนกับ BHMS เนี่ยสามารถเดินทางทั่ว Schengen area ทั่วยุโรปได้ โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า แล้วก็เด็กนักเรียนที่มาเรียน เค้าก็จะมีพวกตั๋วรถไฟถูกๆ ก็สามารถเดินทางได้ท่องเที่ยวได้ หรือใครไปอยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็สามารถอยู่ทำกิจกรรมกับโรงเรียนได้ ซึ่งก็จะพาไปทัศนศึกษาด้วย
ส่วนหลักสูตรที่น้องเกลถามเนอะ ขอเริ่มตั้งแต่ระดับปริญญาตรีเลยนะคะ เพราะว่าปริญญาตรีที่ก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่น้องๆ เนอะ ปริญญาตรีเราจะมีทั้งหมด 3 สาขา น้องเกลจำได้ใช่ไหมคะ เราก็จะมีทั้งการบริหารการโรงแรมและธุรกิจการบริการ ซึ่งอันนี้จะเป็น Business & Hospitality Management จนบางคนเค้าลืมไปนึกว่า BHMS สอนแค่การโรงแรม ซึ่งไม่จริงเนอะ เรายังมีสายสีฟ้าอยู่ เห็นไหมคะสายสีฟ้าเรียนพวก Global Business Management เป็นการบริหารธุรกิจทางด้านภาพรวมนะคะ หรือว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจอาหารหรือการทำอาหารก็จะมีสาย Culinary Arts นะคะ
เรามาเริ่มต้นจากสายที่น้ำเงินก่อนนะคะการบริหารไม่ว่าจะเป็นบริหารการโรงแรมหรือว่าบริหารธุรกิจทั่วไปนะคะ น้องเกลจะเห็น และน้องๆ จะเห็นว่าเราจะเรียนปริญญาตรีกัน 3 ปี นักเรียนที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือว่าอาจจะจบ GED มา หรือ IGCSE มางี้ก็ สามารถเข้าปริญญาตรีปี 1 ได้เลยไม่ต้องเรียนซ้ำนะคะ foundation หรือว่า Year 0 หรือว่า Certificate ใดๆ มาเรียนปี 1 ได้เลย ปี 1 ของเราก็จะมีวุฒิให้ด้วยนะ จะเป็นวุฒิ Diploma นะคะ ระบบการเรียนของเรา เราเรียน 3 ปีก็จริง แต่ละปีการศึกษาจะเรียน 6 เดือนในใจกลางลูเซิร์นเมื่อกี้ที่พี่ชี้ให้ดูแล้วนะ ที่แนะนำให้ดูนะคะ และอีก 6 เดือนเราก็จะไปฝึกงานแบบมีรายได้ แต่ว่าก็ต้องตั้งใจฝึกด้วยนะคะไม่ใช่ว่าแค่คิดว่าไปฝึกงานมีเงินแค่นี้คือนักเรียนจะต้องเก็บเครดิตจากการฝึกงานด้วยนะคะ ก็จะเรียน 6 เดือน ฝึกงาน 6 เดือน เท่ากับว่าถ้านักเรียน เรียน 3 ปี เค้าฝึกงานกัน 3 ครั้งเลยนะ ก็เรียกได้ว่ามีประสบการณ์การทำงานปีกว่า ก็เท่ากับว่าจบมาเราก็จะเป็นคนที่มี คุณสมบัติทั้งทางด้านการเรียนและประสบการณ์ค่ะ
แต่ที่อยากจะแนะนำอีกอย่างนึงก็คือถ้าเกิดว่าเราอยากจะจบปริญญามาแล้วไม่ว่าเราจะเรียน Business & Hotel Management หรือว่า Global Business Management เราจะได้เป็น Double Degreeด้วย คือได้ปริญญา 2 ใบเลยนะ คือปริญญจากจาก BHMS เองเลย หรือว่า Robert Cordon University ที่ UK ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 อ่อ 3 เลยนะ ได้ปริญญาจาก Swiss, UK และก็ได้ประสบการในการฝึกงาน อันนี้ก็ไม่อยากลงลึกมากเดี๋ยวจะเบื่อกัน ก็อยากคุยเบาๆ กับน้องเกลบ้าง
อันนี้ก็ระบบทำอาหารก็จะเรียน 3 ปี จบปริญญาตรี และใครอยากมาเรียนคอร์สแต่ละปีก็ได้ ใครไปเรียนที่อื่นมาแล้วแต่ว่าอยากเรียนแบบสวิสฯ อยากผ่านการฝึกงานแบบสวิสฯบ้าง ก็สามารถ transfer มาเรียนกับเราได้ ไม่ว่าปริญญาตรีแบบบริหารหรือว่าทำอาหาร เราก็รับ Transfer หมดนะคะ หรือว่าใครที่จบปริญญาตรีแล้ว แต่ไม่อยากเรียนถึงปริญญาโท เพราะอาจจะคิดว่าเครียดเกินไป หรือเพราะว่าเราอยากเรียนการปฎิบัติทางด้านอาหารโดยเฉพาะนั่นก็คือ postgraduate Diploma ตรงสีแดงทางด้าน culinary arts นะคะ หรือว่าเป็นทางสีน้ำเงินอาจจะเรียนด้านทาง postgraduate diploma ทางด้าน hospitality management ก็บริหารธุรกิจการโรงแรมโดยตรง ก็อันนี้จะเน้นภาคปฎิบัติหน่อย
แต่ทีนี่ก็จะมีอีกอันนึงที่นักเรียนไทยนิยมกันมาก ปริญญาโท 1 ปีนะคะ ก็จะเป็น Master of Science นะคะ แน่นอน Concept เดิมเราต้องมีสองสาขาให้เลือกคือ international hospitality business management นะคะ หรืออีกสาขานึงก็คือสาขาบริหารธุรกิจทั่วไปนักเรียนก็สามารถเลือกเรียนได้
อย่างที่พี่ย้ำตั้งแต่แรกนะคะชื่อสถาบันเราคือ Business & Hotel Management School แน่แหละเราไม่ได้มีแค่การโรงแรมหรือธุรกิจบริการ เรามีบริหารธุรกิจทั่วไปด้วยนะคะ concept เหมือนเดิมเลยถึงแม้จะเรียน 1 ปีคือคุ้มมาก เรียน 6 เดือนใจกลางเมืองลูเซิร์นนะคะ อีก 6 เดือนก็ไม่ทิ้งการฝึกงาน เมื่อครบ 1 ปีก็จะได้รับปริญญาโท Master of Science 2 ใบ คือ จาก BHMS และก็จากมหาวิทยาลัย partner ของเราจากฝั่ง UK Robert Gordon University ประเทศอังกฤษ
หรืออีกโปรแกรมนึงสำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วจบปริญญาตรีแต่ทำงาน full-time ไม่ว่าสาขาไหนก็ตามอย่างน้อย 1 ปี แต่อยากเรียนสไตล์ MBA เมื่อกี้ MSc จะค่อนข้างเจาะลึก ส่วน MBA จะเป็นด้านบริหารธุรกิจนะคะ หรือบ้างคนทำงานไปแล้วอยากจะปรับความสามารถด้านการบริหารมากขึ้นก็อาจจะมาเรียน MBA ก็ได้ เรียน 6 เดือน ฝึกงาน 6 เดือน เช่นกันก็จะได้ปริญญา MBA 2 ใบ อันนี้ก็จะเป็นเรื่องหลักสูตร หวังว่าคงยังไม่เบื่อกันซะก่อน
York: ยังเลยค่ะ เดี๋ยวเกลถามเรื่องหลักสูตรเมื่อกี้นี้เพิ่มเติมดีกว่าเนอะ เผื่อน้องๆ ที่ฟังจะยังสงสัยอยู่ เท่ากับว่าถ้าน้องเรียนปริญญาตรีที่ BHMS 3 ปี แต่ละปีที่น้องจบ น้องก็จะได้วุฒิทุกปีถูกไหมคะ
BHMS: ใช่ค่ะ แต่ถ้าบางคนลืมขอ ก็ไม่เป็นไรนะคะ พอตอนจะจบก็สามารถแจ้งกับโรงเรียนได้นะคะ
York: แล้วการเรียน PGD หรือ Postgraduate Diploma น้องๆ อาจจะสงสัยนิดนึงเพราะว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้สักเท่าไรนะคะ ก็ต้องถามพี่กิ๊กก่อนว่าปกติคอร์ส Postgraduate Diploma เหมาะกับนักเรียนแบบไหน
BHMS: Postgraduate Diploma เหมาะกับน้องที่จบปริญญาตรีมาแล้ว แต่ว่าอยากจะเรียนเชิงการปฎิบัติมากขึ้น หรืออยากจะเจาะด้านนั้นไปเลย ถ้าภาษาในวงการก็จะเรียกว่าอยากเรียนรู้หน้างานค่ะน้องเกล อย่างเช่นถ้าพี่ไม่เคยทำเรื่องโรงแรมมาเลยแล้วพี่จบปริญญาตรีสาขาอื่น พี่อยากทำงานการโรงแรมและรู้ว่าเค้าปฏิบัติงานกันอย่างไร อยากรู้ในเชิงลึก พี่ก็สามารถเลือกมาเรียน Postgraduate Diploma ทางด้าน Hospitality Management ได้ เค้าก็จะสอนตั้งแต่ Front Office
แต่ถ้าเป็น MSC ก็ต้องจบป.ตรีเหมือนกันใช่มั้ย น้องบางคนอาจจะสับสนว่าจบป.ตรีก็ไป MSc ก็ได้ PGD ก็ได้ แต่ MSc เค้าจะเจาะไปในมุมมองของฝ่ายบริหารเบื้องบนมากกว่า อย่างถ้าพี่เรียน MSc แล้วพี่ไม่เคยทำงานการโรงแรมมาก่อนเลยก็อาจจะไม่รู้ว่าหน้างานเค้าทำ Check-in ลูกค้าอย่างไง พูดง่ายๆ เนอะ แต่ MSc เราก็จะเรียนรู้ว่าเราจะบริหารฝ่าย Front office หรือ ฝ่ายหน้างานอย่างไงนะ ก็คือพูดง่ายๆ เป็นการทำงานในเชิงลึกก็จะเป็น Postgraduate Diploma Hospitality Management แต่ถ้าเราอยากเรียนรู้ในมุมของฝ่ายบริการ เตรียมพร้อมเป็นผู้บริหารก็ตามหรือเตรียมพร้อมขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้นอาจจะเป็นทางด้าน Master ปริญญาโท
York: โอเคค่ะ แล้วคอร์สที่เป็นพวกที่ไม่ใช่การโรงแรม เพราะว่าต้องถามก่อนว่าน้องบางคนอาจจะอยากเรียนคอร์สอื่นที่ไม่ใช่การโรงแรมก็จะเป็น Global Business Management ถูกไหมคะ ต้องถามก่อนว่า Global Business Management นี่ น้องไม่ต้องเรียนการโรงแรมเลยต้องไหมคะ
BHMS: เป็นคำถามที่ดีมากนะคะ แน่นอนถ้าเมื่อกี้ใครได้ดาวน์โหลดจะเห็นว่ารายวิชา อันนี้พูดถึงป.โท ก่อนเนอะ รายวิชาของ Global Business Management จะไม่มีเกี่ยวกับการโรงแรมเลยหมายถึงวิชาบังคับนะคะ แต่ว่าเนื่องจากเรามาเรียนที่สวิส เราก็ต้องเอาข้อโดดเด่น เอาประโยชน์ของเขาไปน่ะคะ เพราะฉะนั้นแล้ว BHMS โรงเรียนก็จะแถมใส่วิชาไปที่จำเป็นของฝ่ายการโรงแรมที่จำเป็นในด้าน Global Business Management ด้วยเช่นวิชา food service operation เพราะว่าอะไร เพราะว่ามันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการให้บริการอย่างเดียวนะ มันเกี่ยวกับบุคคลิกภาพด้วย ว่าเราต้องเข้าหาผู้คนอย่างไร แต่งตัวแบบไหน หรือมีบุคคลิกภาพแบบไหน เพราะฉะนั้นเค้าก็จะใส่วิชาพวกนี้ไปด้วย น้องๆ ถึงจะเรียนฝ่ายบริหารเค้าก็จะได้องค์ความรู้ของฝ่ายการโรงแรมไปด้วยนะคะ มันก็เป็นประโยชน์นะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคลิกภาพการเข้าสังคมของเรา
York: ก็คือสรุปว่าน้องๆ คนไหนไม่ว่าจะเรียนปริญญาตรีหรือเรียนปริญญาโทต่อให้เลือกเป็น Global Business Management สิ่งที่น้องได้กลับไปก็จะเป็น skills ของ hotel ด้วยนิดนึงถูกไหมคะ ในเรื่องของการบริหารบุคคลิกภาพต่างๆ ที่เป็นจุดเด่นของสวิส
BHMS: แต่ว่ายิ่งปริญญาตรีนะคะน้องเกล ปี 1 ปี2 เห็นไหมว่าน้องๆ จะได้เรียนผสมกันเลยนะก็จะเป็น Diploma in Business & Hospitality Management ปี 1 ปี2 ก็จะเป็น Hospitality management เห็นไหมคะเค้าก็จะเรียนผสมไปเลย ทั้งบริหารธุรกิจทั้งหมด และบริหารธุรกิจการโรงแรมและการบริการ เพราะฉะนั้น BHMS ต้องการสร้างนักเรียนหรือผู้ที่จบมาแล้วนะคะ มีความรู้ขององค์ทั้ง 2 ฝ่าย เวลาที่เค้าออกไปทำงาน เค้าจะมีทางเลือกได้มากขึ้น มีโอกาสในการทำงานมากขึ้น นั่นแหละเป็นความตั้งใจของเรา เราก็เลยผสมผสานระหว่าง Business และ ก็ Hotel เข้าด้วยกัน จะไม่ใช่ว่าเป็นการโรงแรมจ๋า บริการอย่างเดียวนะคะ แล้วก็สามารถผันตัวไปทำงานอย่างอื่นได้ น้องๆ ของพี่ที่จบแล้วกลับมาบางคนทำงานธนาคารก็มี บริษัทประกันก็มี หรือทำงานพวก marketing บริษัท Agency ต่างๆ ก็มีด้วยค่ะ หรือทำพวก Retail ก็ได้ SMCG อะไรอย่างนี้
York: เรียกได้ว่าเรียนจบด้านการโรงแรมหรือ hospitality มันก็ไม่ได้จำเป็นที่น้องต้องทำงานในโรงแรมถูกไหมคะ น้องๆ ก็สามารถที่จะ ทำงานในสายอื่นๆ ได้เช่นที่พี่กิ๊กได้บอกไปแล้วเมื่อสักครู่นี้ หรือสายการบินเอ่ย หรือว่าพวกงานที่เป็นธุรกิจการก็ได้เนอะ โอเคถือว่าค่อนข้างกว้างพอสมควรสำหรับน้องๆ บางคนที่สนใจด้านนี้อยู่นะคะ แล้วก็ถามนิดนึงเห็นเมื่อกี้บอกว่ามี Culinary Arts ด้วยก็คือเรียนทำอาหารถูกไหมคะ ขอให้พี่กิ๊กอธิบายและแนะนำหลักสูตร Culinary Arts ให้นิดนึงนะคะว่าหลักสูตรตัวนี้อย่างเวลาเรียนน้องๆ จะสงสัยว่าถ้าเรียน Culinary Arts ที่นี่แล้วน้องจะได้อะไรบ้าง ไม่ว่าเป็นอุปกรณ์ ทุกสิ่งอย่าง มีอะไรสอนบ้าง แล้วมีทำอาหารประเภทไหนแนวไหน เดี๋ยวให้พี่กิ๊กแนะนำเพิ่มเติมในเรื่องของ Culinary Arts นิดนึงเผื่อน้องๆ ที่สนใจทำอาหารตอนนี้ดูอยู่นะคะ
BHMS: ใช่ พี่จะเจอคำถามแบบนี้บ่อยมากเลย เพราะถ้าเกิดไปดูจริงๆ ราคาของเราไม่ได้แพงมากนะ เด็กก็จะถามว่ารวมชุดฟอร์มหรือยังคะ รวม ingredient หรือยัง รวมชุดมีดไหม รวมเครื่องครัวไหม อยากจะบอกว่า ที่ BHMS เวลาที่เราแนะนำราคาเราจะครบทุกอย่างแล้วนะคะไม่มี cost ตัว Hidden cost ที่เค้าบอกกันเนอะ ที่ต้องมาจ่ายเพิ่มเติมอะไรนอกจากค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ก็คือถ้าเกิดเรียนด้าน Culinary Arts ของเรา เราก็ Cover ทุกอย่างเลยตั้งแต่ชุด uniform , เครื่องครัว และชุดมีด แถมให้เอากลับบ้านไปด้วยนะคะ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม ส่วนลักษณะการเรียนต้องแล้วแต่เค้าว่า เค้าจบปริญญาตรีมาหรือยัง หรือว่าเป็นเด็กน้อยน่ารักจบมัธยมศึกษาแล้วอยากเรียนด้านทำอาหาร เอาดีทางด้านนี้ไปเลย ก็จะแนะนำตั้งแต่หลักสูตรเรียน diploma ปริญญาตรีไปเลย ปี 1 จนถึง BA Degree ก็อย่างที่พี่บอกนะว่า Diploma ของเราก็สามารถเคลมเป็นปริญญาตรีได้ ก็เป็นปริญญาตรีปีที่ 1 ก็หลังจากที่เรียนจบไปก็จะได้วุฒิการศึกษา
ซึ่ง Culinary Arts ของเรา เราจะไม่ได้แค่สอนให้ทำอาหารตาม Recipe นะคะ ตามสูตรนะน้องเกล เชฟเค้าจะต้องสอนตั้งแต่ คือเราต้องฝึกให้น้องเป็นเชฟให้ได้นะ ก็คือเค้าสอนตั้งแต่การเลือกวัถุดิบเลยค่ะ ควรเลือกวัตถุดิบแบบไหน แล้วก็สอนตั้งแต่การใช้อุปกรณ์พื้นฐานเลยนะ ใช้ไฟ ใช้มีด ต้องทำให้ได้นะ นอกจากสอนทำอาหารแล้วยังต้องสอนให้นักเรียนออกแบบอาหารเองให้ได้นะคะ คิดค้นเองให้ได้ และพอถึงปี 3 เนี้ย เขาก็ต้อง wrap up ทุกอย่าง ก็คือเราต้องบริหารธุรกิจเองให้ได้ ตั้งแต่ทำ course budget ต่างๆ แล้วก็บริหารธุรกิจอาหาร น้องเกลรู้ไหม ว่าใครที่เข้าสายเชฟจริงๆ น่ะ เมื่อเขาได้ตำแหน่งสูงสุดเป็น Excessive Chef เค้าแทบไม่ได้ทำแล้วนะ ดูแลพวก course budget ต่างๆ นะคะ เพราะฉะนั้นแล้วโรงเรียนก็จะสอนถึงระดับนั้นเลยนะ
บางคนตลกมากเลยมาเรียนกับพี่แต่เค้าก็เคยเรียนที่อื่นมาแล้วนะ เค้าบอกว่าที่อื่นไม่ได้สอน Bucher เนื้อ ก็เลยอยากมาเรียนกับเราเพราะอยากเรียนตั้งแต่แรก เพราะเค้ามีใจรักด้านนี้จริงๆ นะคะ
แต่ว่าทีนี่เราก็ต้องมีช้อยส์ด้วย อย่างคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะไม่สบายใจที่จะให้ลูกเรียนป.ตรี 3 ปีทางด้าน culinary arts ไปเลย ทีนี่ BHMS ก็ต้องมีทางเลือกให้น้องบางคนอาจจะเรียน Culinary Arts ตามที่ใจรัก ปี1 ปี2 ซึ่งปี1 ปี2 มันก็ cover ทุกอย่างแล้ว อาหารทุกแบบตั้งแต่พื้นฐาน ทำอาหารทุกชนิดตั้งแต่ appetizer จนไปถึงขนมหวาน พอปี 3 นักเรียนสามารถย้าย ก็คือโอนเปลี่ยนสายไปจบทางด้าน Bachelor of Arts ทางด้าน Hotel & Hospitality Management ก็ได้
สมุติว่าเค้าเรียนปี1 ปี2 ได้วุฒิทางด้าน Culinary arts มาประดับเกียรติก่อน ว่าเราสามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเราสามารถเป็นเชฟทำอาหารได้ พอปี 3 ก็ไปจบปริญญาตรี Hotel & Hospitality Management หรือจะเข้าสายบริหารอื่นๆ ก็ได้ แต่ถ้าเกิดว่าเราใจรักอาหารก็เรียนไปถึงปี 3 เถอะ เพราะปี3 อย่าลืมที่บอกว่ามันจะการ Rap up ความรู้ทั้งหมดเพื่อที่จะไปประยุกต์ต่อไป หรือปี 3 บางทีเราก็จะเชิญเชฟที่โดดเด่นในเรื่องต่างๆ เราก็จะจัด Event ต่างๆ ให้น้องที่เรียนทางด้าน Culinary Arts สามารถฝึกปรือก็ได้รู้ลักษณะการทำอาหารหรือที่เลือกว่า Signature ของเชฟต่างๆ น่ะคะ ก็จะเก็บเป็นประสบการณ์กันไป
York: คือถ้าเกิดว่าน้องมีเรียนที่ BHMS สิ่งที่น้องได้คือไม่ใช่ว่าแค่ทำอาหารอย่างไรให้อร่อย เราก็จะได้อย่าง create menu บริหารจัดการในครัว น้องอาจะไปเปิดร้านอาหารในอนาคต หรือเป็นเชฟที่ร้านอาหารซึ่งอย่างที่พี่กิ๊กบอกว่าเชฟจริงๆ แล้วคือเค้าไม่ได้มานั่งลงมือทำ ใช่ถ้าอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของสายนะ ก็ถือว่ามีทางเลือกให้น้องๆ ค่อนข้างโอเคเลยนะคะ ถามเพิ่มเติมนิดนึงอันนี้น้องๆ ส่วนใหญ่มักจะถามว่าเวลาที่เรียน Culinary Arts ของที่ BHMS นี่ คือน้องแต่ละคนจะได้อยู่แบบ 1 station ต่อ 1 คนหรือเปล่า หรือว่าต้องแชร์อะไรยังไงเอ่ย
อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ
(ตอน 2) live สดกับคุณกิ๊ก ASEAN Regional Manager ของสถาบันการโรงแรมระดับโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ BHMS