Monday, November 3, 2025

ํYork เดินทางไป De Montfort University ทั้งที ก็ต้องคว้าตัวน้องบิวนักเรียนของเรามาสัมภาษณ์ค่ะ

by parita moon

วันนี้แอดมินได้มีโอกาสเดินทางไป visit , De Montfort University ประเทศอังกฤษ มาถึงที่ทั้งที ก็ต้องไม่ลืมคว้าตัวน้องบิว นักเรียนของเรามาสัมภาษณ์กันแบบจุกๆ เลยค่ะ

น้องบิว หนึ่งในความภาคภูมิใจของ York Institute และของโรงเรียน De Montfort University, Leicester International Pathway College, เมือง Leicester ประเทศอังกฤษ

มาทำความรู้จักน้องบิวและน้องปัน 2 นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่อหลักสูตร pathway เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่ De Montfort University กันนะคะ

น้องบิวเริ่มเรียน International First Year สาขา Marketing and Business ที่ De Montfort University, Leicester International Pathway College และเมื่อเรียนจบหลักสูตรนี้แล้วก็จะเรียนต่อชั้นปีที่ 2 ในระดับปริญญาตรี หลักสูตร  International Marketing and Business BA (Hons)with International Incorporated Bachelor

น้องปันกำลังศึกษาด้าน Media ที่ De Montfort University, Leicester International Pathway College และเมื่อเรียนจบหลักสูตรนี้แล้วก็จะเรียนต่อชั้นปีที่ 1 ในระดับปริญญาตรีด้าน Music Technology

ไปฟังน้องๆ เล่าประสบการณ์การเรียนต่อครั้งนี้กันเลยค่ะ (จะคลิกที่วีดีโอคลิปเพื่อฟังสัมภาษณ์ของน้องบิวและน้องปัน หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)

York : น้องบิวช่วยแนะนำตัวนิดนึงค่ะ ว่าตอนนี้เรียนอะไรอยู่คะ

น้องบิว : ชื่อบิวค่ะ มาจากประเทศไทย ตอนนี้เรียน Business & Marketing ค่ะ International Year 1

น้องปัน : ผมชื่อปันครับ  เรียนสาขาถ้าเป็นปีหน้าคือ music technology แต่ตอนนี้เรียน Media ครับ

York : ทำไมถึงเลือกเรียนสาขานี้คะ

น้องบิว : เพราะสาขานี้ คือจริงๆ แล้วเวลาเราจบ marketing ไปเราต้องไปสอบ certificate อย่าง CIM (Charter Institute of Marketing)

ส่วนที่ DMU บาง subject เวลาเรียนเราจะได้ level 5 เลยไม่ต้องไปสอบอะไรเพิ่มเลย เราจะได้ดีกรีมาเลย

น้องปัน : ดูชื่อคอร์สแล้วชอบ เลือกเรียนเพราะชอบชื่อครับ

York : ตอนเรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เป็นชาติไหนคะ

น้องบิว : มีทุกชาติยกเว้นชาติไทย จริงๆ แล้วในห้องบิวครั้งแรกเลยไม่มีคนไทยเลย  แล้วพออีกคลาสนึงเจอคนไทยคนนึง ที่เหลือก็จะเป็นจีน แล้วก็ไม่ใช่จีนแบบเยอะๆ แค่ 2,3 คน นอกนั้นก็จะเป็นโปแลนด์ โปรตุเกส

น้องปัน ของผมจะมีคนไทยแค่เทอมแรก ที่เหลือก็ไม่มี ส่วนใหญ๋ก็จะเป็นโปแลนด์เหมือนกัน และก็จีน ที่เยอะสุดก็น่าจะโปแลนด์

York : อาจารย์สอนเป็นอย่างไรบ้างคะ

น้องบิว : ค่อนข้างดีค่ะ เพราะที่นี่เค้าค่อนข้าง private เค้าจะ take care เด็ก ด้วยความที่มันเป็น pathway แปลว่าเราไม่ได้แข็งเท่าเด็กประเทศเค้าอยู่แล้ว เค้าจะค่อนข้างดูแลแบบ one by one เค้าจะอีเมล์มาดูตัวต่อตัว ดูแลทุกอย่าง เค้าค่อนข้างจะดูแลดี อีเมล์มาถามว่าเป็นไงบ้าง

น้องปัน : ก็เหมือนกันครับ แต่ผมค่อนข้างจะออกไปทำงานมากกว่าเรียนครับ คือเป็นสายค่อนข้างจะออก art ด้วย ส่วนใหญ่เวลาเรียนจะน้อยกว่าเวลาทำงาน

York : ได้สอบกันบ้างหรือยังคะ เวลาสอบเป็นยังไงบ้าง

น้องบิว : ก็ผ่านตลอด ก็คือส่วนมากจะเป็นงาน 40% บางวิชาก็คืองาน 100% เลย จะมีบางวิชาที่ final สอบในห้องจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นการทำงานส่งมากกว่า

น้องปัน : งานจะเยอะกว่า จะสอบก็มีแค่ไม่กี่ตัว แต่บางตัวก็สอบทั้งหมดเลย หรือถ้าทำงานก็ทำงานทั้งหมดเลย มันก็จะเป็นแบบ

ครึ่งเทอมส่งรอบนึ่ง ปลายเทอมส่งรอบนึง

York : ตอนเตรียมสอบต้องทำการบ้าน ทำงานหนักมากไหมคะ ต้องเตรียมตัวสอบยังไงบ้าง

น้องบิว : มันจะเป็นแค่ 2 assignments ค่ะ assignment แรกมันจะเป็น essay ส่วนอีก assignment นึ่งจะเป็นสอบ ซึ่งของอังกฤษมันจะดีตรงที่เป็น open question ที่เค้าจะให้คำถามเรามาก่อน อาจจะ 100,200 คำถาม แล้วเราค่อยมาดูแล้วก็มาอ่านเอง ว่าจะออกอันไหน ส่วนที่เป็น closed question เค้าจะมี mock test ให้มาสอบก่อน สุดท้ายพอไปสอบจริงๆ เค้าก็จะเอาข้อสอบจากตรงนั้นมา

น้องปัน : ถ้าเป็นสอบภาษาอังกฤษก็จะเป็นแบบเดียวกัน

York : ช่วยเล่าชีวิตในแต่ละวันให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ

น้องบิว : ด้วยความที่หอหนูอยู่แค่ตรงนี้อะค่ะ เดินประมาณ 2 นาที หนูก็จะตื่นก่อนซัก 10 นาทีแล้วก็เดินไปเรียนเลย เทอมนี้หนูเริ่ม 9 โมง วันจันทร์เรียนแค่ 2 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือก็เรียนแค่วันละ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าโดยปกติแล้วอย่างเทอมอื่นเค้าจะให้มีวันว่างวันนึงเพื่ออ่านหนังสือ เพื่อเข้าห้องสมุด กิจวัตรก็คือเดินไปเดินกลับ สะดวกค่ะ

น้องปัน : ผมจะเรียน 4 วันครับ วันศุกร์จะไม่มีเรียน แต่ถ้าวันอังคารเรียนทั้งวันไม่มีพักกินข้าว ก็เรียนทั้งวัน ก็ตื่นประมาณ 9 โมงเช้า เรียนถึง 5 โมงเย็น

York : แล้วหลังเลิกเรียนทำอะไรกันบ้างคะ

น้องบิว : ก็แล้วแต่ค่ะ บางวันก็ไปออกกำลังกาย บางวันก็ไป Hang out กับเพื่อนๆ อย่างน้องๆ เค้าก็จะมีนัดไปเล่นกีฬากัน

น้องปัน :  อย่างบางทีก็ไปเล่นกีฬาบ้าง ช่วงนี้ก็ออกกำลังกาย

York : ออกกำลังกายที่ยิมของที่มหาวิทยาลัย (De Montfort University) หรือเปล่าคะ

น้องบิว : ของที่นี่ค่ะ รายปีก็จะตกประมาณ £100 นิดๆ

York : ปกติเด็กไทยเล่นกีฬาอะไรบ้างคะ

น้องปัน : บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ แบตมินตัน

York : แล้วเล่นกีฬาที่ยิมเลยรึเปล่าคะ

น้องปัน : บาสเก็ตบอลก็จะเล่นอยู่ในยิมเหมือนกันครับ แล้วก็จะเล่นในสวนสาธารณะ ถ้าเล่นในสวนสาธารณะก็จะได้เล่นกับคนที่นี่ (คนท้องถิ่น) ด้วย

York : งั้นเวลาไปออกกำลังกายก็จะได้ไปกับเพื่อนต่างชาติ ได้คุยภาษาอังกฤษด้วย ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย

น้องบิว/ น้องปัน : ใช่ค่ะ / ใช่ครับ

York : ค่าครองชีพที่นี่เป็นอย่างไรบ้างคะ

น้องบิว : ค่อนข้างถูก

น้องปัน : แล้วแต่ที่ ถ้าเทียบกับลอนดอนก็ค่อนข้างถูก แต่ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็ค่อนข้างสูง

York : ทำไมเลือกเมืองนี้

น้องบิว : เมืองนี้เลือกเรา เหมือนกับว่าทุกอย่าง อย่างพอคำนวณค่าหอ อย่างหอคือมีทุกอย่างเป็น studio มีทุกอย่าง มีห้องน้ำ มีห้องครัว มีเครื่องซักผ้า แต่มันตกอยู่แค่ £145 (ต่อสัปดาห์) แต่ถ้าถ้าเทียบกับลอนดอนที่ตกประมาณ £300, £400 (ต่อสัปดาห์)

น้องปัน : ของผม £150  (ต่อสัปดาห์)

น้องบิว : เพราะชั้นสูงกว่า

York : ดังนั้นที่เลือกเมืองนี้ก็มีหลายๆ เรื่องที่คิดกัน ส่วนหนึ่งก็มีเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย แล้วพอมาอยู่แล้วเป็นยังไงคะ ชอบไหม

น้องปัน : ผมไม่ค่อยชอบอาหารไทยอยู่แล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยติดเท่าไหร่ พอมาอยู่ก็คิดถึงบ้านบ้าง ก็ถือว่าสนุกฮะ ไม่เหมือนเมืองไทย เพราะผมชอบอากาศทีนี่ด้วย

น้องบิว : ค่อนข้างชอบ มีกิจกรรมหลายอย่าง เพราะปกติอยู่ไทยเราก็ไม่ค่อยได้เดิน อยู่นี่หนูก็เดินรอบเมือง เดินไปเมืองอื่นด้วย

York : อาหารไทยหาซื้อยากไหมคะ พวกอุปกรณ์ วัตถุดิบ

น้องปัน : มีครับ มันจะมี shop asia อยู่ แต่ว่าของไทยก็ค่อนข้างที่จะไม่เยอะมาก แต่ว่าจะมีเครื่องปรุงไทยอยู่บ้าง พริก น้ำปลา

น้องบิว : อย่างใน tesco ก็จะมีข้าว เครื่องปรุงแบบซีอิ๊ว มีน้ำจิ้มไก่ basic ขาย

York : เป็นยี่ห้อไทยเลยไหมคะ

น้องปัน : ใช่ครับ แม่พลอยอะไรซักอย่าง

York : แล้วหนูทำอาหารไทยเองไหมคะ

น้องบิว / น้องปัน : ทำค่ะ / ทำครับ

York : น้องๆ ไปลอนดอนกันบ่อยไหมคะ

น้องบิว : มีช่วงนึงก็เข้าทุกสัปดาห์

York : ค่าตั๋วรถไฟเป็นยังไงบ้าง

น้องบิว : ก็ถ้ามี rail pass ก็ตกประมาณ £46 ค่ะ ไปกลับ

York : พอเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไรกัน ได้วางแผนไว้ไหมคะว่าพอเรียนจบแล้วจะไปทำงานอะไร

น้องบิว : อย่างหนูตอนเลือกเรียนมาแบบไม่มี placement year แต่พอตอนนี้ เค้าบอกว่า วีซ่าเค้าอนุญาตให้คนที่เข้า Year 1 เลยทำได้แล้ว  ก็เลยจะ placement year ก่อน แล้วเค้าบอกว่าถ้าผลงานเราดี เราก็มีโอกาสที่จะร่วมงานกับเค้า

น้องปัน : ผมก็กะจะเรียนโทต่อครับ business อาจจะไปทำกับที่บ้านต่อ หรือไม่อย่างนั้นก็ placement เหมือนกัน เค้าบอกว่ามีโอกาส ก็จะชวนไปร่วมทีม

York : แล้วตอนระหว่างเรียนได้ทำงาน part time ไหมคะ

น้องบิว / น้องปัน : ไม่ได้ทำค่ะ/ ไม่ได้ทำครับ

York : อยากให้เล่าความประทับใจการมาเรียนที่นี่ ให้กับน้องๆ คนอื่นฟังหน่อยค่ะ

น้องบิว : ไม่ต้องอ่านหนังสือก่อนสอบค่ะ ก็คือเราใช้ความเข้าใจในการเรียน ไม่ใช้การท่องจำ ฉะนั้นเราจะไม่ต้องมาจำเลยว่าอันนี้คืออะไร พอเราเห็นข้อสอบปุ๊บเราเข้าใจ เราก็สามารถ analyze ออกมาได้เลย ว่า business อันนี้กับอันนี้มันสอดคล้องกัน  โดยที่ ไม่ต้องไปนั่งติวให้ยุ่งยาก

น้องปัน : facility ของที่นี่ครับ เพราะว่าอุปกรณ์ที่นี่เค้าเยอะ อย่างผมเรียนด้านพวก media หรือพวก music อย่างเนี้ย มันต้องใช้ studio มันก็จะมีเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ของเค้าก็ดี ของเค้าก็เยอะด้วย แล้วมันไม่ใช่ของห่วยๆ คือมันค่อนข้างจะเป็นของที่แบบเกือบสุด

York : แล้วของน้องบิวล่ะค่ะ facility เป็นยังไงบ้าง

น้องบิว : ส่วนใหญ่เป็น Guess speaker มากกว่า หรือเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์จริงๆ มากกว่า เพราะเราก็ไม่ได้เข้าไป touch กับอุปกรณ์อะไรเยอะ

York : แล้วมี Guest speaker คนไหนที่จำได้ ที่ประทับใจไหม

น้องบิว :ด้วยความที่ตอนนี้เราเป็น pathway ก็เลยยังไม่ค่อยมี

York : แต่มีความสุข ดูหน้าแล้วมีความสุขทั้งคู่

น้องบิว : ใช่ค่ะ

น้องปัน : งานเยอะเฉยๆ

York : ขอบคุณมากค่าา

 

ขอขอบคุณน้องบิว และน้องปันมากนะคะที่สละเวลามาให้พี่ๆ สัมภาษณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการแบ่งปันประสบการณ์การเรียน และการใช้ชีวิตในต่างประเทศที่เป็นประโยชน์มากๆ เลยค่ะ

York Institute ขอบคุณน้องบิวอีกครั้งนะคะที่ให้โอกาสพี่ๆ ได้ดูแลน้องบิวในการไปศึกษาต่อต่างประเทศครั้งนี้ พี่ๆ ทุกคนภูมิใจและขอเป็นกำลังใจให้น้องบิวประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านอย่างที่ตั้งใจไว้นะคะ

You may also like

Leave a Comment