Blogs
York Institute พาไปเที่ยวเมือง Belfast เมืองหลวงของ Northern Ireland ประเทศอังกฤษ
สวัสดีค่ะ ในคราวที่แล้วพี่ได้เล่าให้ฟังถึงการไปเยี่ยมชม Queen’s University of Belfast และ สถาบัน INTO Belfast ไปนะคะ คราวนี้พี่จะพาน้องๆ ไปทัวร์เมือง Belfast กันค่ะ มาดูกันนะคะว่าเมืองนี้จะมีความน่าสนใจอะไรบ้าง เหมาะกับการไปเรียนต่อรึเปล่า
พี่เริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Emirate ไปยัง London โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ (กรุงเทพ – ดูไบ ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.) ก่อนจะบินต่อไปที่สนามบิน Heathrow Airport กรุงลอนดอน ซึ่งใช้เวลาอีก 6 ชั่วโมง และจากลอนดอนไปยัง Belfast ใช้เวลาบินอีก 50 นาที
แต่การเดินทางครั้งนี้พี่ต้องไปดูมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในลอนดอนก่อน จึงยังไม่ได้บินไป Belfast ทันทีค่ะ
แต่โดยปกติถ้าน้องๆ จะไปที่เมือง Belfast เลย สามารถเลือกเปลี่ยนเครื่องได้หลายที่ เช่น กรุงเทพ-ลอนดอน-เบลฟาสต์ แต่ถ้าอยากได้ตั๋วราคาถูกลงอาจจะต้องบินแวะพักเครื่อง 2 ครั้ง ( 2 ประเทศ)
โดยปกติการเดินทางจากกรุงเทพไปยัง Belfast จะใช้เวลาประมาณ 17 ชั่วโมงหากแวะเปลี่ยนเครื่องเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเปลี่ยนเครื่อง 2 ครั้งก็จะใช้เวลาประมาณ 19 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับระยะเวลาเปลี่ยนเครื่องในแต่ละครั้งค่ะ
Belfast มีสนามบิน 2 แห่งคือ Belfast International Airport (เป็นสนามบินนานาชาติ)และ George Best Belfast City Airport (เป็นสนามบินสำหรับเที่ยวบินในประเทศ) ซึ่งสนามบินนี้อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเลยค่ะ
Belfast เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (United Kingdom)
Belfast เคยเป็นเมืองท่าเรือหลักในช่วงต้นคศ. 1800 และมีความสำคัญเรื่อยมาจนถึงช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยมีความสำคัญมากเป็นอย่างมากในด้านการต่อเรือ เห็นได้จากการเป็นที่ตั้งของบริษัท Harland and Wolff บริษัทที่ต่อเรือ Titanic อันเลื่องชื่ออีกด้วย
เมื่อพูดถึงเรือ Titanic ก็ต้องมาเยี่ยมชม Titanic museum กันซะหน่อย ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และทันสมัยมาก พิพิธภัณฑ์มีหลายชั้น มีการจัดแสดงข้าวของที่ใช้กันจริงๆ บนเรือไททานิค บางห้องมีระบบ Interactive เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์เหมือนได้อยู่บนเรือไททานิคเลย ซึ่งจะมีส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ที่พี่ชอบมากที่สุดคือการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ที่เลื่อนไปตามสายเคเบิล เหมือนเรากำลังอยู่ในเรือไททานิคแต่ละชั้น เพราะรอบข้างทั้งซ้ายและขวาจะมีเรื่องราวของเรือไททานิค ซึ่งทำให้เราได้เหมือนย้อนกลับไปอยู่ในตอนที่เรือยังไม่ล่มเลยค่ะ
เมื่อไปชมพิพิธภัณฑ์แล้วก็มาต่อด้วยการช้อปปิ้งค่ะ และก็ต้องเป็นที่นี่เลย Victoria square เป็น Shopping mall ขนาดใหญ่ที่มีร้านค้า และร้านอาหาร มากมาย เป็นที่ช้อปปิ้งสำหรับคนเมืองนี้ ที่ Belfast จะไม่ได้มีร้านค้าแบรนด์เนมหรูๆ มากมายเหมือนที่ London หรือในเมืองใหญ่ๆ แต่มีร้านขายเสื้อผ้าแบบที่เรียกว่า High street brand อย่าง Zara, H&M, Top Shop ที่มีสินค้าราคาถูกกว่าแบรนด์เนม และเหมาะสมกับนักเรียน นักศึกษามากกว่าให้ได้ช้อปกันอย่างครบถ้วน
ในวันที่ไปเยี่ยมชม Queen’s University of Belfast พี่ก็ได้มีโอกาสไปดูสวนสวยๆ ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักอีกเมืองหนึ่งของ Belfast ด้วยก็คือ Botanical garden เป็นสวนสาธารณะที่สวยงามมาก เปิดใช้ในปีคศ.1828 โดยในขณะนั้นเปิดเป็นสวนส่วนบุคคลมีชื่อว่า Royal Belfast Botanical Gardens สวนนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Queen’s University of Belfast ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นักศึกษา และคนทำงานที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ มีเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่เรียกว่า The palm house ที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ภายในสวนเองก็ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามด้วยพันธุ์ไม้ทั้งไม้ดอก และไม้ยืนต้น ให้ความร่มรืนเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นนักศึกษาของ Queen’s มาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ในช่วงเวลาที่ไม่มีเรียน
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ Belfast ที่ใครๆ ก็อยากมาเห็นซักครั้งถ้าได้มา Belfast ก็คือ Giant Causeway bay ที่นี่จะมีแท่งหินบะซอลท์ตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟระเบิดในอดีต และที่ทำให้ที่แห่งนี้มีความพิเศษก็เพราะแท่งหินเหล่านี้จะมีหน้าตัดเป็นรูป 5 เหลี่ยม, 6 เหลี่ยม หรือ 8 เหลี่ยม สร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็น และเป็นความสวยงามให้แก่อ่าวแห่งนี้จริงๆ Giant Causeway bay นี้ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลก จากองค์การ UNESCO อีกด้วย
อีกสถานที่หนึ่งที่พี่ได้มีโอกาสมาคือ Northern Ireland Assembly and Westminster ตัวอาคารสีขาวที่ตั้งตระหง่านรับกับถนนที่ทอดยาวมาบรรจบนี้ช่างงดงาม และดูยิ่งใหญ่จริงๆ แต่ที่พี่ชอบมากคือถนนที่ยาวเป็นเส้นตรงและขนาบด้วยต้นไม้สูงใหญ่เขียวขจี ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปอย่างไรภาพถ่ายก็ไม่อาจเทียบได้เลยกับสถานที่จริง
หลังจากจบการทัวร์ Belfast ครั้งนี้ซึ่งเป็นการมา Belfast ครั้งแรกในชีวิต ต้องสารภาพเลยว่าก่อนที่จะมาถึง Belfast คิดว่าเมืองนี้คงไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีอะไรให้ทำ เป็นเมืองเงียบๆ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้อยู่เมืองนี้มา 3 วัน บอกเลยว่าชอบเมืองนี้มาก มีทุกอย่างครบอย่างที่น้องฝนทิพย์บอกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้งก็มีให้ช้อปอย่างเต็มที่ การเดินทางก็สะดวกสบาย อยากเดินก็ได้ เพราะทุกที่อยู่ไม่ไกล ไม่ต้องใช้ชีวิตรีบเร่งเหมือนอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ไม่ต้องใช้เวลาไปกับการนั่งรถไฟใต้ดินเป็นชั่วโมงๆ ในแต่ละวัน และถ้าเหนื่อยก็มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่อยู่ไม่ไกล เดินไปเมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการ หรือจะเป็นร้านอาหาร ก็มีร้านอาหารเอเชียที่ราคาไม่แพง ให้เราได้เลือกรับประทานเวลาที่เราเบื่ออาหารฝรั่ง หรือถ้าอยากทำอาหารเองก็มีร้านค้าขายเครื่องปรุง และวัตถุดิบแบบเอเชียอย่างครบถ้วน อยากทำกิจกรรมกลางแจ้งก็มีให้ เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หรือหากชอบประวัติศาสตร์ Belfast ก็มีสถานที่ และสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย
และตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ ได้เดินไปตามที่ต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนแต่ก็ไม่รู้สึกกลัวเลย กลับรู้สึกสบายใจ และปลอดภัยสมกับที่ Belfast ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘safest region in the UK’ (British Crime Survey 2014) จริงๆ ที่สำคัญที่สุดเมืองนี้ค่าครองชีพไม่แพงจริงๆ สมกับที่ได้รับการยกย่องให้เป็น the UK’s ‘most affordable student city’ (Natwest Student Living Index 2015)
ครั้งหน้าถ้าน้องๆ มีโอกาสมาประเทศอังกฤษ อย่าลืมมาเที่ยวที่ Belfast ดูนะคะ รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กลับใปแน่นอนค่ะ