Blogs
(ตอน 2) live สดกับน้องกิ๊ฟ ถึงเส้นทางการทำงาน 1 ปีในอเมริกาหลังเรียนจบการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์
<
(ต่อจากตอน 1)
น้องกิ๊ฟ : ด้วยความที่เราทำงานที่สวิตฯ อย่างที่บอกไปว่าที่สวิตฯ เขาก็เป๊ะมาก เคร่งมากค่ะพอมาทำงานที่อื่นมันก็ช่วยในการเวลาเราเห็นอะไรที่มันแบบไม่ค่อยโอเค เราสามารถแก้ไขได้ ซึ่งเราก็ทำงานได้ในมาตรฐานที่สูงกว่า Standard ที่นายจ้างเขา set ไว้ ซึ่งส่วนนี้ก็คิดว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งเหมือนกันค่ะ
York : น้องกิ๊ฟมีอะไรจะฝากถึง ฝากแนะนำหรือพูดถึงน้องๆ ที่สนใจที่จะมาเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์กับ B.H.M.S. มีอะไรบ้างค่ะ
น้องกิ๊ฟ : ก็ส่วนตัวโรงเรียนเองเนี่ย หลายๆ คนก็น่าจะรู้นะคะว่าโรงเรียนตั้งอยู่ในตัวเมืองเลยก็คือสะดวกมากในการที่ไปไหนมาไหนอ่ะค่ะ ซึ่งก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นก็คือ..น้องกิ๊ฟยกนิ้วโป้งให้ 😊
ก็หลายๆ คน ถ้ากังวลเรื่องเที่ยว เรื่องค่าใช้จ่ายยังงี้ คือไม่ใช่ปัญหาหลักนะคะเพราะว่าทางโรงเรียนก็คือจะมี ทริปเมดตลอด ซึ่งถึงว่าจะเป็นเทอมเบรคอย่างนี้ หลายๆคนอาจจะคิดว่าช่วงเบรคไม่มีอะไรทำหรือเปล่า ทางโรงเรียนก็จะมีทริปอย่างนี้ตลอด และถึงเราฝึกงานเราก็ยังไปทริปกับทางโรงเรียนได้ซึ่ง ตรงนี้ก็คือไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งก็เป็นข้อดีอย่างนึงของโรงเรียนน่ะค่ะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: และก็อยากจะเสริมตรงนี้นิดนึงค่ะน้องเกล เพราะว่าหลายๆคนจะชอบเข้าใจผิดว่าสวิตฯ โดยเฉพาะซูริคที่น้องกิฟต์ไปทำงานเนี่ยติดอันดับค่าครองชีพสูงของโลกนะคะ แล้วก็เรียนสวิตฯ เนี่ยแพงมากหรือเปล่านะคะ ถ้าเกิดว่าเราสนใจอยากให้มาลองคุยกันก่อน เพราะว่าอยู่ดีๆ มาถามราคาจากน้องเกลไปเนี่ย แล้วก็อุ๊ยทำไมแพงกว่าที่อื่นย่างนี้ อย่าลืมว่าราคาของ B.H.M.S. รวมทุกอย่างแล้ว เหมือนที่เมื่อกี้กิฟต์บอกไปว่าตอนที่เราเรียนเนี่ย เรารวมค่าเรียน, ค่าอยู่ แล้วก็ค่าอาหาร, ค่าไปทัศนศึกษาหรือว่า ทริปนั่นเองนะคะแล้วก็พวกค่าประกันสุขภาพต่างๆ รวมหมดแล้ว ซึ่งการรวมหมดแล้วเนี่ยข้อดีคือเราสามารถรู้ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ ค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน budget เนาะน้องเกล เราสามารถที่จะควบคุมค่าใช้จ่ายได้นะคะ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นข้อดีของการเรียนสวิตฯ กับ B.H.M.S. ก็คือเราควบคุม budget ได้ แล้วก็เราเห็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ แล้วก็คุณภาพชีวิตในมูลค่าที่เราจ่ายไปนะคะทั้งคุณภาพชีวิต, การอยู่ แล้วก็ตัวคุณภาพทางการศึกษาแล้วก็โอกาสในการฝึกงาน แล้วก็การไปทำงานต่อก็ค่อนข้างที่ดีนะคะ
York : ทีนี้เรามาถึงช่วงคำถามนะคะ เรามีคำถามจากทางบ้านนะคะเดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีคำถามอะไรบ้างนะคะ
- คำถามแรกนะคะ ทุกคนที่เรียนการโรงแรมที่สวิตฯ เนี่ยจะสามารถทำงานต่อที่อเมริกาได้เลยไหม
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: อันนี้เนี่ยเค้าถามถึงทุกคนที่เรียนการโรงแรมที่สวิตฯ ใช่ไหม อันนี้ต้องบอกก่อนว่าถ้าโรงเรียนอื่นนะน้องเกลพี่ไม่รู้จริงๆ เพราะมันต้องขึ้นอยู่กับโรงเรียนที่เขามีโครงการความร่วมมือ อย่าง B.H.M.S. เรามีความร่วมมือกับ USA ทั้ง 2 ด้านก็คือข้อที่ 1 อย่างที่น้องกิ๊ฟบอกก็จะมีพวกโรงแรมมา recruit โดยตรงนะคะ ซึ่งเวลาที่เค้ามา recruit โดยตรงกับ B.H.M.S. เนี่ย อย่างน้องกิ๊ฟเนี่ยผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาแล้วคือไม่ได้เหมือนพวกอย่าง career fair ที่เค้ามาจัดบูธแล้วแจกโบชัวร์ ถามน้องกิ๊ฟได้ คือเขามา เขามากินอยู่ มาอยู่ที่ Luzern เลย แต่ละโรงแรมก็มากันประมาณ 1 สัปดาห์นะคะ แล้วก็มาสัมภาษณ์ คัดเลือกและสัมภาษณ์นักเรียนแบบเจาะลึกนะคะคุยกันจริงจังเลยเนาะ ซึ่งเขาสามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่ตรงนั้นเลยนะคะ หรือถ้าใครเนี่ยไม่ผ่านด่านนี้เหมือนน้องกิ๊ฟนะคะ ก็ไม่ต้องเสียใจเพราะว่าโรงเรียนเขาก็จะมีโครงการความร่วมมืออื่นกับทางที่สหรัฐอเมริกาและโรงแรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะคะที่จะสามารถไปทำงานต่อได้อีก 1 ปีเนาะ ก็แล้วก็อันนี้พี่ถึงบอกว่าพี่ไม่สามารถตอบได้ว่าโรงเรียนการโรงแรมอื่นไปได้ไหมนะ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับโรงเรียนแล้วก็ความร่วมมือแล้วก็โครงการด้วยนะคะ
- H.M.S. มีทุนไหมคะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.:เรามีทุนนะ ตอนนี้น่ะทุนสูงสุด 5,500 ฟรังก์ แต่ต้องบอกก่อนว่าทุนการศึกษาเนี้ยแล้วแต่หลักสูตรนะคะ แต่ละหลักสูตรทุนการศึกษาต่างกัน อย่างของน้องกิ๊ฟเป็นหลักสูตรปริญญาตรีทางด้าน Hotel & Hospitality Management ใช่ไหม ใครอยากรู้ว่าได้ทุนเท่าไหร่เนี่ยไปถามพี่เกล
ดังนั้นขอสรุปว่าแน่นอนเรามีทุนการศึกษาช่วยเหลือแต่ว่าต้องดูแต่ละหลักสูตร แล้วก็ในช่วงเวลาที่เราสมัครด้วยนะน้องเกล ปรากฏว่าฟังไลฟ์วันนี้แต่ไปสมัครอีก 6 เดือน อ้าวทุนหมดอายุนะคะ แล้วก็ต้องดูช่วงเวลาที่เข้าเรียนด้วยนะคะ แต่ก็จะมีช่วยเหลือตลอดอยู่แล้วนะคะ
ถ้าเกิดว่าใครสนใจจะไปเรียนที่ B.H.M.S. เนี่ยก็สามารถที่จะติดต่อพี่เกลมาได้เลยค่ะ แล้วก็เดี๋ยวพี่เกลเช็คในเรื่องของทุนให้ว่าสนใจหลักสูตรไหน แล้วทุนหลักสูตรนั้นได้ประมาณเท่าไหร่นะคะ
หรือถ้าคิดถึงพี่กิ๊กอยากจะนัดพี่กิ๊กไปคุยกันที่ออฟฟิศพี่เกลกันนะคะ แต่ถ้าเกิดจะนัดน้องกิ๊ฟ นี่ไม่ได้เนาะ น้องกิ๊ฟอยู่ Santonio เป็นสาเหตุที่เราต้องมาไลฟ์กันดึกกันดื่นในวันนี้เนาะ
- ต้องเรียนหลักสูตรไหนถึงจะได้มีสิทธิ์ทำงานต่อที่อเมริกาคะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: อันนี้ดีเลย จะได้แนะนำถูกนะคะ เมื่อกี้ลืมบอกไปว่า หลักสูตรของ B.H.M.S. เนี่ยมีเรียนแล้วก็ฝึกงานที่สวิตฯ นะคะ การฝึกงานที่สวิตฯ เนี่ยโรงเรียนการันตีนะคะ ก็คือจัดหางานให้ นักเรียนได้งานทุกคน แล้วก็ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำตามที่รัฐบาลสวิตฯ เขากำหนดเนาะ
แต่หลังจากที่เราเรียนจบแล้วและจะไปทำงานต่อแต่ละประเทศเนี่ย ก็อันนี้จะไม่ได้การันตี แต่ว่าก็จะช่วยเหลือในการจัดหา ซึ่งส่วนมากแล้วถ้าเกิดไปประเทศที่เขาต้อนรับพาสปอร์ตไทยนะคะ อันนี้นักเรียนก็จะได้อยู่แล้วเหมือนกิ๊ฟแล้วก็เพื่อนๆนะคะ ซึ่งเราก็มีนักเรียนหลายคนที่ไปทำงานต่อที่อเมริกาเนาะ
ทีนี้กลับเข้าสู่คำถามนะคะ การทำงานต่อหลังเรียนจบอ่ะค่ะ ส่วนมากแล้วงานจะอยู่ในตัวโรงแรมนะคะ แล้วต้องบอกก่อนว่าคุณสมบัติที่จะไปทำหลังเรียนจบได้นะคะ จะได้แน่ๆ ก็คือเราจะต้องเรียนทางด้าน Hospitality มานะคะ อย่างกิฟต์เนี่ย เขาเรียนทางด้าน Bachelor of art ปริญญาตรีทางด้าน Hotel & Hospitality Management แล้วก็ควรต้องผ่านการฝึกงานอย่างน้อย 1 ครั้งจากสวิตฯ ก็เหมือนกิฟต์เลยนะคะ ที่จะมีโอกาสสูงนะคะ หรือว่าสามารถผ่าน criteria ที่จะไปทำที่อเมริกาต่อได้ 1 ปีมีเงินเดือน มีงานนะคะ มีโรงแรม มีที่อยู่อาศัยนะ
York : ก็แสดงว่าก็ต้องเรียนสาย Hospitality หรือไม่ก็ Culinary art
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: ใช่เลยจ้ะใช่จ้ะ
- นอกจากทำงานที่อเมริกาแล้วเนี่ยมีประเทศอื่นอีกไหมคะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: อ่อ กิ๊ฟมีเพื่อนไปทำงานประเทศอื่นไหม หลังจากเรียนจบแล้วเนี่ย ไม่ต้องเอ่ยชื่อเขานะ
น้องกิ๊ฟ : เห็นบางคนก็จะไปทางจาไมก้า มีโปรแกรมเดียวกันเหมือนกัน
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: ก็ขอสรุปให้ ตอบคำถามน้องเกลก็คือมีนะคะ โอกาสในการทำงานหลังเรียนจบเนี่ยถ้าเกิดว่าน้องไม่อยากไปอเมริกา โรงเรียนเขาก็จะมีความช่วยเหลือในประเทศต่างๆ ด้วยไม่ว่าจะอยากกลับมาประเทศไทย หรืออยากจะไปประเทศอื่นก็ตามนะคะ เมื่อกี้ที่น้องกิฟต์บอกก็มีเพื่อนไปทำที่จาไมก้าเนาะ หรือจะมีนักเรียนไทยบางคนไปทำที่ดูไบนะคะ บางคนไปทำมัลดีฟอย่างนี้ แน่นอนก็คือเราก็มีความช่วยเหลือที่จะไปทำงานต่อนะคะหลายๆ ประเทศ แต่อย่างที่พี่บอกไปนะว่างานจะต้องเกี่ยวกับโรงแรม หรือว่า Hospitality นะจ๊ะ
- คำถามสุดท้ายนะคะ ทางโรงเรียน H.M.S. รับเด็กจบ GED ไหมคะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: หลังจากที่เราผ่านยุคโควิดเนาะ นักเรียนก็ไปจบ GED กันเยอะเลยนะคะ ก็แสดงความยินดีด้วย B.H.M.S. รับนักเรียนที่จบ GED นะคะ แต่ว่าต้องแจ้งก่อนว่าถ้าเกิดเอาวันที่เรามาสมัครวีซ่าแล้วกันนะ ตอนที่เรามาสมัคร B.H.M.S. เนี่ยอายุเท่าไหร่ไม่เป็นไร แต่ว่าวันที่เราจะสมัครวีซ่า เพื่อไปเรียนกับ B.H.M.S. เนี่ยก็ขอให้มีอายุเต็ม 17 ปีบริบูรณ์นะจ๊ะ
York : โอเคครบทุกคำถามแล้วนะคะก็สำหรับคนที่สอบถามมานะคะ จะมีการติดต่อกลับไปให้อีกครั้งนึงที่ inbox นะคะ เพื่อส่งของรางวัลบัตร central Gift Card ไปให้นะคะ คนละ 500 บาทนะคะ
พี่กิ๊กมีอะไรจะฝากไว้ไหมคะ
พี่กิ๊ก B.H.M.S.: จ๊ะ ก่อนจะจากกันไปวันนี้นะ ก็ขออนุญาตสรุปก่อนนะ อย่างที่พี่บอกวันนี้ไม่อยากจะคุยเกี่ยวกับโรงเรียน B.H.M.S. เพราะเราได้แขกรับเชิญที่น่ารักมา เราก็เลยอยากจะเน้นเรื่องการฝึกงาน แต่ขอแนะนำนิดนึง ถ้าใครอยากจะมีโอกาสไปเรียนไปฝึกงานแล้วก็ทำงานต่อเหมือนน้องกิฟต์เนี่ยก็ B.H.M.S. นะคะ B.H.M.S. เนี่ยอย่างที่พี่บอก มีทั้งหมด 3 สาขา บริหารธุรกิจทั่วไป, บริหารธุรกิจการโรงแรมและการบริการตามที่น้องกิ๊ฟเรียนมา และมีหลักสูตรสาขาศิลปะอาหารและบริหารธุรกิจอาหาร
B.H.M.S. เรามีหลักสูตรตั้งแต่ปริญญาตรีเลย ซึ่งปริญญาตรีของเราเนี่ยจะเป็นระบบ 3 ปีเท่านั้น ก็คือเรียน 3 ปีได้รับปริญญาตรี 2 ใบนะคะ
แล้วก็ข้อสำคัญพิเศษก็คือ B.H.M.S. มีการฝึกงานทุกปีนะ ปีละอย่างสูงสุดคือ 6 เดือนนะคะ อย่างน้อย 4 เดือน เรามีให้ทุกปีนะ
แล้วก็เรามีหลักสูตรของปริญญาโทด้วยนะคะทั้งทางด้านบริหารธุรกิจทั่วไป และบริหารธุรกิจการโรงแรมและการบริการนะคะ แล้วก็เรามีพวกหลักสูตรอื่นๆที่น่าสนใจอย่างเช่นหลักสูตรการทำอาหารนะ หรือหลักสูตร MBA ก็มีนะคะ
ก็อยากให้มอง B.H.M.S. เป็นสถาบันนะคะ อย่างที่พี่บอกไปว่า B.H.M.S. สอนในระดับมหาวิทยาลัย นักเรียนสามารถเรียนปริญญาตรี หรือปริญญาโทหรือว่ามาเรียนหลักสูตรเฉพาะด้านได้นะคะ
ถ้าเกิดว่าน้องคนไหนดูไลฟ์แล้วสนใจนะคะ ก็สามารถติดต่อมาได้เลยทั้งทาง inbox มาก็ได้ หรือว่าจะติดต่อโทรมาก็ได้นะคะ เรามีขึ้น contact ให้ใน Facebook นะคะ วันนี้ก็ดึกพอสมควรแล้วนะคะ ก็ขอบคุณทั้งพี่กิ๊ก และน้องกิ๊ฟที่สละเวลาวันนี้มาพูดคุยแล้วก็ให้ความรู้กับทุกๆ คนนะคะ ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามในวันนี้นะคะ พวกเราลาไปก่อนแล้วก็พบกันใหม่ในไลฟ์ครั้งหน้านะคะ สวัสดีค่ะ