ตอน 2 พี่เกลพาไป visit สถาบันภาษา ES Dubai

มาแล้วค่าาา ตอน 2 พี่เกลพาไป visit สถาบันภาษา ES Dubai งานนี้ทั้งพาน้องๆ ไปดูโรงเรียน, ดูมหาวิทยาลัย และเที่ยวแบบมันส์สุดๆ ไปเลยค่ะ

Day 4   เช้านี้เราจะไปทัวร์หอพักนักศึกษากันค่ะ นั่นคือ Myriad Residence และ KSK Residence ค่ะ หอพักนักศึกษาที่นี่เค้าจะตั้งไว้เป็นโซนที่มีแต่หอพักนักศึกษาเลยค่ะ จะออกมานอกเมืองหน่อย แต่ว่าแต่ละหอพักเค้าก็จะมีบริการรถ Shuttle bus รับส่งนักเรียนฟรีจ้า ไม่ต้องห่วงน๊า สบายใจได้ หอแรกเลย Myriad Residence หอนี้ดูใหม่มากค่ะ มี facility ครบครันไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส ซึ่งใหญ่มากนะ เครื่องเล่นนี่ครบและใหม่มากด้วย ถูกใจสายที่ชอบออกกำลังกายแน่นอนค่ะ นอกจากฟิตเนสแล้ว ยังมีห้องเกมส์ ที่มีเกมส์เยอะมาก บอกเลยว่าว้าวมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น VR, Game Play Station และหลากหลายมาก คอเกมส์ต้องชอบ Myriad แน่นอนค่ะ นอกจากนี้เค้าก็ยังมีห้องครัวรวมอีกด้วยนะ น้องๆ คนไหนชอบทำอาหาร สามารถทำอาหารทานเองได้สบายเลยค่ะ มีห้องดูหนังด้วยนะ อยู่หอเพลินไปเลยล่ะ หอพักที่นี่ ผู้ปกติสบายใจได้เลยค่ะ เพราะแยกชายหญิงค่ะ ตามธรรมเนียมของประเทศมุสลิมค่ะ ซึ่งก็เป็นข้อดีนะ หอพักที่นะดูดีใหม่เอี่ยมน่าพักสุดๆค่ะ ถัดจาก Myriad แล้วเราก็มากันที่ KSK Residence ค่ะ ซึ่งตอนนี้ ES Dubai ใช้หอของ KSK อยู่ค่ะ น้องๆ คนไหนที่มาช่วงนี้ก็ได้พักที่นี่ค่ะ ที่ KSK ห้องโถงเค้าใหญ่มาก การตกแต่งดูมีสีสันสดใสกว่า Myriad นะคะ ซึ่งที่นี่ก็มี facility ให้ครบเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบและใหม่ด้วย มีห้องอาหารที่น้องๆ ถ้าขี้เกียจทำก็สามารถลงมาทานที่นี่ได้เค้ามีขายค่ะ และมีมินิมาร์ทด้วยนะ ราคาของในมินิมาร์ทก็ไม่แพงค่ะ แต่ถ้าเป็นห้องเกมส์ที่นี่จะดูเน้นเป็นพวกเกมส์บอร์ด โต๊ะพลู โต๊ะปิงปองมากกว่าค่ะ ถ้าให้คะแนนนะพี่เกลแอบชอบ KSK ในความที่เค้าเหมือนโรงแรมเลย ห้องโถงกว้างขวางสบายตาไม่อึดอัดและก็การตกแต่งมันดูอบอุ่นมีชีวิตชีวาดีค่ะ

จากหอพัก เราก็ไปที่ Amity University กันค่ะ Amity University เป็นมหาวิทยาลัยของดูไบเองค่ะ ทางมหาวิทยาลัยตอนรับพวกเรากันอย่างอบอุ่นเลย ที่นี่มีห้องแลบเยอะแยะมากเลย ดูแล้วมึนไปหมดเลยค่ะ สายวิศวะน่าจะชอบที่นี่

จบโปรแกรมช่วงเช้าแล้ว ช่วงบ่ายเราก็ไปกันที่ Dubai Marina Mall ค่ะ เพราะวันนี้เราจะไปล่องเรือ Yacht กันค่ะ ตื่นเต้นสุดๆ หลายคนบอกว่ามาดูไบต้องนั่งเรือ Yacht นะคะ ไม่งั้นคือมาไม่ถึงค่ะ แต่บอกเลยว่าเรือ Yacht ที่นี่ดีจริงค่ะ สามารถนั่งแบบ outdoor ก็ได้ แต่ถ้าร้อนเค้าก็มีห้องแอร์ให้นั่งด้วยนะคะ

เราล่องเรือกันตอนเย็นๆ ค่ะ อากาศก็พอไหวไม่ร้อนเกินไป พอลงเรือเท่านั้นแหละ ปาร์ตี้ก็เริ่มเลยค่ะ ดีเจ เครื่องดื่มมาเต็ม บรรยากาศระหว่างนั่งเรือสวยงามมากค่ะ มันตื่นเต้นอลังการไปหมด ดีจริง ถ้ามีโอกาสต้องไม่พลาดนะคะ บรรยากาศตอนเย็นว่าดีแล้ว กลางคืนดียิ่งกว่าค่ะ ไฟจากตึกระหว่างทางสวยงามจริงๆ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ

Day 5   เช้านี้เรามีโปรแกรมเดินทางไปที่ The Palm Jumeirah ค่ะ พี่เกลก็ตื่นเต้นอีกแล้ว The Palm Jumeirah เรียกอีกอย่างว่าเกาะปาล์มค่ะ เกาะที่หน้าตาเหมือนต้นปาล์มนั่นเองค่ะ ซึ่งแน่นอนค่ะเกาะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นการสร้างขึ้นมาค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเลยนะคะ แล้วที่ทึ่งมากกว่านั้นก็คือเกาะนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 6 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งตอนแรกทางวิศวะกรเค้าประเมิณมาว่าจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปีค่ะ แต่ท่านชีคมูฮัมมัด บอกว่า 10 ปีมันนานเกินไปรอไม่ได้ ขอ 5 ปีได้ไหม สุดท้ายก็เสร็จใน 6 ปีค่ะ ซึ่งในเกาะนี้นะคะมีสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมเยอะมากเลยค่ะ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีเกาะส่วนตัวของท่านชีคมูฮัมมัด อยู่ด้วยค่ะ

เรามากันถึง The View ตึกที่เราจะขึ้นไปชมวิวของเกาะนี้กันค่ะ ลิฟท์ที่นี่บอกเลยว่าประทับใจมากค่ะ เพราะเร็วทันใจดีจริง แต่ถ้าใครจะมาชมวิว ห้ามถือกระเป๋าเป้ขึ้นไปนะคะ กระเป๋าเป้จะต้องฝากที่ล็อกเกอร์ด้านล่างค่ะ วิวที่นี่คือสวยจริงค่ะ มองเห็นเกาะปาล์มสวยงามมากเลยค่ะ แล้วก็มองเห็น โรงแรม Atlantis ได้อีกด้วยค่ะ Atlantis เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวเลยค่ะภายในโรงแรมมีทั้งสวนน้ำและอควาเลียมด้วยนะคะ ที่สำคัญที่นี่จะมีห้องสวีทที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งในห้องนี้จะเห็นปลาว่ายไปมาตลอดเวลาเลยค่ะ จากชมวิว The Palm แล้วก็มานั่งรถชมส่วนอื่นๆ ของเกาะกันบ้างค่ะ ไกด์ก็พาไปนั่งรถไปจุดชมวิวที่จะสามารถมองเห็น Burj Al Arab หรือตึกเรือใบนั่นเองค่ะ ถึงว่าเป็น landmark ของที่นี่เลยนะคะ จาก The Palm เราก็ไปทานอาหารกลางวันแล้วเดินทางไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย Heriot Watt University กันต่อเลยค่ะ

Heriot Watt University เป็นมหาวิทยาลัยจากประเทศอังกฤษค่ะ ตึกสวยดูดีใหม่เอี่ยมเลยค่ะ นักศึกษาที่นี่จากที่ดูก็ค่อนข้างหลากหลายมีความเป็น international มากค่ะ facility ของที่นี่ดูดีทันสมัยเลยค่ะ น่าเรียนมากเลยค่ะ เราอยู่กันที่ Heriot Watt University กับตลอดช่วงบ่ายจนถึงเย็นเลยค่ะเนื่องจากมีโปรแกรมเทรนนิ่งของเอเจ้นค่ะ  หลังจากจบเทรนนิ่งเราก็ไป Dinner กับทางเจ้าหน้าที่ ES Dubai ที่โรงแรมที่เราพักค่ะ เอาล่ะ วันนี้พี่เกลพักผ่อนก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะมาเล่าใหม่

Day 6   วันนี้ก็เป็นวันที่ตื่นเต้นอีกแล้วล่ะ เพราะว่าวันนี้เราจะได้ไป Dune Bashing ตะลุยทะเลทรายกันค่ะ Dune Bashing ก็คือการขับรถตะลุยทะเลทราย ซึ่งพวกเราจะนั่งอยู่ในรถโฟล์วีลกันค่ะ แล้วคนขับเค้าก็จะขับพาเราซิ่งในทะเลทรายค่ะ โดยที่จะการขับของเค้านั้นจะผาดโผนเหมือนขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาเลย

แต่ก่อนที่จะไป โปรแกรมเช้านี้ของเราก็คือทัวร์มหาวิทยาลัยกันค่ะ วันนี้เราก็จะได้ไปที่ Murdoch University และ Middlesex University ค่ะ เราเริ่มจาก Middlesex University ก่อนนะคะ Middlesex เป็นมหาวิทยาลัยของอังกฤษค่ะ มาเปิดแคมปัสที่นี่ ส่วน Murdoch University เป็นมหาวิทยาลัยมาจากออสเตรเลียค่ะ มหาวิทยาลัยในดูไบเค้าจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ เป็นโซนเดียวกันหมดเลย ซึ่งตึกก็จะเป็นโทนสีเดียวกันหมดค่ะ ที่ดูไบเค้าจะเป็นแบบนี้ค่ะ การจัดผังเมืองก็แยกเป็นประเภท อย่างถ้าโซนที่อยู่อาศัยทั้งหมดบริเวณนั้นก็จะเป็นหมู่บ้าน สีของบ้านเป็นสีเดียวกันหมดค่ะ สีหลังคาสีตึก จะออกโทนน้ำตาลครีมๆ เหมือนทราย ทั้งหมดค่ะ เรียกว่าคุมโทนสี ดูแล้วก็มีความเป็นระเบียบไปอีกแบบนะคะ รวมถึงรถด้วย รถที่นี่เค้าก็จะนิยมสีดำและสีโทนขาว ส่วนมากนิยมขับ SUV ค่ะ แต่ถ้าพวกรถสปอร์ต ซุปเปอร์คาร์ ก็ถึงจะเป็นสีๆ ค่ะ เอาล่ะค่ะ

ถัดจากการชมมหาวิทยาลัยแล้วพวกเราก็กลับไปที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวไปตะลุยทะเลทรายกันค่ะ รถที่มารับพวกเราก็จะเป็นรถโฟล์วีลสีขาวค่ะ 1 คันนั่งได้ 6 คนค่ะ คนขับรถนี่ขับซิ่งตั้งแต่ยังไม่ถึงทะเลทรายเลย ฮ่าๆๆ ก่อนที่เราจะไป Dune bashing กัน เราก็ไปตรงจุดพักก่อนค่ะ ที่จุดพักจะมีของขาย น้ำขนม ของที่ระลึก แต่บอกเลยว่าน้ำที่นี่แพงมากค่ะ พี่เกลอยากกินโค้กโดนไป 20 ดีแรมห์ ก็เกือบสองร้อยบาทค่ะ แรงมากเลยสำหรับโค้ก 1 กระป๋อง แต่ถึงตรงนั้นแล้ว ก็ต้องจ่ายไปตามระเบียบค่ะ ใครที่จะมาแนะนำว่าเตรียมน้ำมาด้วยนะคะ เพราะอากาศค่อนข้างแห้ง หิวน้ำบ่อยแน่นอนค่ะ นอกจากนี้แนะนำให้ซื้อผ้าโพกผมจากที่ตลาดมากันเลย ตอนเดินตลาดพี่เกลก็เฉยๆ นะคะ แต่พอมาถึงทะเลทรายบอกเลยว่าบรรยากาศมันพาไป เกิดอยากจะโพกหัวขึ้นมา เลยไปซื้อผ้าที่ร้านขายของที่ระลึกโดยไป 50 ดีแรมห์ก็เกือบห้าร้อยบาทเลยค่ะ แต่ก็นะครั้งนึงในชีวิตก็ยอมจ่ายล่ะ

ทะเลทรายกลางวันลมจะเป็นลมร้อนๆ แล้วลมแรงมากค่ะ ควรเตรียมแว่นกันแดดไว้เลย เอาไว้กันละอองทรายที่มากับลม พี่เกลนี่ทรายเข้าตาไปหลายรอบเหมือนกันนะ ตรงจุดพักนอกจากของขายแล้วก็จะมี ATV ค่ะ น้องๆ สามารถขี่ ATV ได้นะ และแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะไป Dune bashing แล้วค่ะ จะบอกว่าชอบมาก กรี๊ดกันสุดเสียงทุกคน คือคนขับนี่ขับเก่งมากเก็บทุกเนินเลย รู้สึกเหมือนนั่งรถไต่ถังเลย 555 มันส์จริงๆ ค่ะ

ปกติ Dune Bashing เค้าจะใช้เวลาประมาณ 17 นาที แต่คนขับคนเห็นพวกเรากำลังสนุกเลยต่อเวลาให้เป็นเกือบจะครึ่งชั่วโมงเลย จาก Dune Bashing เราก็จะไป Desert Camp กันต่อค่ะ เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกดินซึ่งเค้าว่ากันว่าสวยงามมาก แต่คงเป็นเพราะคนขับรถคงจะผาดโผนเกินไปหน่อยตอนที่ Dune Bashing ปรากฎว่าพอจะไปดูพระอาทิตย์ตก ยางรถแตกกลางทางค่ะ ทำให้พวกเราพลาดพระอาทิตย์ตกดินไปซะงั้น ไปถึงพระอาทิตย์ตกดินก็ไม่ได้ดู แล้วก็ไม่ได้ขี่อูฐ เพราะว่าอูฐเหนื่อยแล้ว 5555 ก็ได้แค่ถ่ายรูปเบาๆ กันไป ที่ Desert Camp เค้าก็จะมีอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้ค่ะ มีอูฐให้ขี่ มีซุ้มเพ้นท์เฮนน่าด้วย พี่เกลก็ไม่พลาดค่ะ เข้าซุ้มเพ้นท์มือด้วยเฮนน่าด้วยเลย คนเพ้นท์เก่งมากๆ แปปเดียวเสร็จแล้ว สรุปวันนี้พวกเราสนุกกันจริงๆ ค่ะ ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ถ้าน้องๆ ได้มาเรียนที่ ES Dubai บอกเลยว่ากิจกรรมนี้โรงเรียนก็มีจัดนะคะ ต้องมาให้ได้เลยนะ เพราะมันคุ้มมาก หลังจากโชว์จบเราก็แยกย้ายกลับโรงแรม มาเก็บของเตรียมเดินทางกลับไทยพรุ่งนี้เช้าค่ะ

Day7   วันนี้ตื่นแต่เช้ามาก เพราะรถมารับเรา 6 โมงเช้าที่โรงแรมเพื่อไปสนามบินค่ะ ที่สนามบินคนเยอะมากๆ ถ้าใครจะมาที่ดูไบ ขากลับต้องเผื่อเวลาเยอะๆ เลยนะคะ เพราะที่นี่ เคาน์เตอร์เป็น Emirate เหมือนกันหมด ไม่มีแยกไฟล์ทค่ะ เพราะฉะนั้นทุกเคาน์เตอร์คนเยอะมาก แถวยาวมากๆ ด้วยค่ะ เรายืนรอเป็นชั่วโมงเลยจนสุดท้าย เจ้าหน้าที่ก็มาเรียกเพราะจะ final call แล้วค่ะ