(ตอน 1) live สดกับพี่เอก Thailand Manager จากสถาบันภาษาระดับโลก Kaplan ที่มีกว่า 36 แคมปัสทั่วโลก

วันนี้พี่เอก มาให้ข้อมูลแบบละเอียดยิบ ทั้งแนะนำโรงเรียนในอังกฤษ และออสเตรเลีย, แนะนำเมือง, หลักสูตร, โปรโมชั่น, ค่าเรียน. สถานการณ์ปัจจุบันช่วงโควิดและตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ   คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)

สถาบันภาษา Kaplan ก่อตั้งมากว่า 70 ปี มีสาขา อยู่ใน ประเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์  เป็นสถาบันที่มีคุณภาพทางการเรียนการสอนดีเยี่ยม  และได้รับความไว้วางใจจากนักเรียนทั่วโลก

(การสัมภาษณ์นี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ข้อมูลในเรื่องการกักตัว, การเปิดสอนในแต่ละแคมปัส อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามข้อมูลล่าสุดได้ที่ York Institute)

 

 

York: สวัสดีค่ะพี่เกลจาก York นะคะ วันนี้เราก็มาทำคลิปแนะแนวในเรื่องของการเรียนภาษาค่ะที่ประเทศอังกฤษแล้วก็ออสเตรเลียค่ะ วันนี้พี่เกลไม่ได้มาคนเดียวนะคะเรามีแขกรับเชิญพิเศษด้วยค่ะ พี่เอก Country Manager จากสถาบัน Kaplan International Languages สวัสดีค่ะพี่เอก

Kaplan: ครับ สวัสดีครับ

York: และวันนี้นะคะพี่เอกจะมาอัพเดทข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ต่างๆ ให้พวกเราได้ฟังด้วยนะคะ แล้วเดี๋ยวให้พี่เอกแนะนำในเรื่องของสถาบัน Kaplan นิดนึงนะคะเผื่อว่าบางคน อาจจะยังไม่รู้จักว่า Kaplan คืออะไรค่ะ

Kaplan: ยินดีครับ แล้วก็สวัสดีน้องๆ ทุกคนนะครับ วันนี้ดีใจมากๆ ที่ได้มาคุยกันนะครับแล้วก็วันนี้พี่มีข่าวดีมาบอกว่าโรงเรียน Kaplan ทั่วโลกเปิดแล้วนะครับเดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟังเลยครับ เดี๋ยวเรามาดูสไลด์ไปด้วยกันนะครับ

York: ค่ะ

Kaplan: Kaplan เนี่ยเป็นสถาบันการศึกษานะครับที่เปิดมาแล้ว 80 กว่าปีนะครับ แล้วก็ที่ผ่านมาเนี่ย เรามีนักเรียนมากกว่า 1,200,000 คนที่เรียนกับเราปัจจุบันมีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเนี่ย 34 แห่งทั่วโลกนะครับ ก็ถือว่าเราเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลกเรามีเจ้าหน้าที่มากกว่า 12,000 คนนะครับที่จะดูแลน้องๆ ในแต่ละโรงเรียนทั่วโลกนะครับ แล้วก็ เรามีออฟฟิศอยู่ใน 28 ประเทศนะครับแล้วก็ปัจจุบันเนี่ยเรามีคอร์สสอนภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และเตรียมสอบให้น้องๆ ด้วยนะครับ

Kaplan: ตัว Kaplan เองโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษของเรา 34 แห่งนี้ ในออสเตรเลียมีอยู่ 5 โรงเรียนนะครับที่นิวซีแลด์ 1 โรงเรียน US 16 โรงเรียน ที่แคนาดา 2 โรงเรียน อังกฤษ 9 โรงเรียน และที่ไอร์แลนด์ 1 โรงเรียนครับ

Kaplan: โรงเรียน (ที่สอน) ฝรั่งเศสและโรงเรียน (ที่สอน) เยอรมันของเรานะครับที่เยอรมันเนี่ยมี 2 โรงเรียนอยู่ที่ เบอร์ลิน กับ ไฟร์ดเบิร์ก นะครับ ที่ฝรั่งเศส คือลียง นะครับ แล้วก็ที่สวิตเซอร์แลนด์ (สอนภาษาฝรั่งเศส) คือ มองเทรอซ์ ครับ

York: ค่ะแล้วก็ที่ Kaplan มีหลักสูตรอะไรบ้างคะ

Kaplan: จริงๆ ของ Kaplan เนี่ยเราสอนทั้งภาษาและหลักสูตรที่เป็นเตรียมสอบไม่ว่าจะเป็น IELTS TOEFL GMAT นะครับ แต่วันนี้เราจะเอาหลักสูตรยอดนิยมมาเล่าให้ฟังนะครับ หลักสูตรที่น้องๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกเรียนกันนะครับซึ่งจะมีส่วนที่เป็น General English แล้วก็จะมีส่วนที่เป็น IELTS Preparation ก็คือเตรียมสอบ IELTS นะครับ ทีนี้เวลาที่เราดูในหลักสูตรภาษาอังกฤษเราจะเห็นว่ามันมีทั้ง General English มี Semi Intensive English แล้วก็ Intensive English อันนี้คือไม่ใช่ความยากง่ายของหลักสูตรนะครับแต่เป็นว่าน้องๆ สนใจเรียนเนี่ยจำนวนชั่วโมงเยอะแค่ไหนในแต่ละสัปดาห์นะครับ General English เนี่ยคือเรียนน้อยสุดครับ Intensive English เนี่ยเรียนเยอะ คือ 26 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นะครับ

Kaplan: เวลานักเรียนไทยไปเรียนต่างประเทศเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะเลือกเรียน Intensive English เพราะว่าเป็นคอร์สที่คุ้มค่าที่สุด เพราะว่าไปด้วยระยะเวลาเดียวกันแต่ว่าจะได้ภาษาเร็วกว่า เพราะสามารถเรียนได้มากกว่านะครับ ทีนี้ในวิธีการแบ่งหลักสูตรของเราก็คือว่าจะมีการเรียนฟัง พูด อ่าน เขียนเนี่ย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นะครับแล้วบวกวิชาเฉพาะที่นักเรียนสามารถเลือกได้ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แล้วก็จะมีส่วนที่เราเรียกว่า K plus online เป็นการบ้านที่อาจารย์ให้เรียนสามารถทำการบ้านออนไลน์ได้ทั้งหมดเลยนะครับแล้วก็มี Online extra ที่เป็น exercise ภาษาอังกฤษพิเศษที่นักเรียนสามารถเรียนเพิ่มออนไลน์ได้นะครับ

ในส่วนของอีกวิชานึงที่เป็นการเรียนแบบเตรียมสอบเนี่ยนะครับเรายก IELTS เป็นตัวอย่างนะครับมี2 หลักสูตรนะครับเป็น IELTS Intensive กับ IELTS Supplementary นะครับตัว IELTS แน่นอนครับว่าเราสอนเกี่ยวกับวิธีการทำข้อสอบเทคนิคการทำข้อสอบตัว Intensive เนี่ยเราสอนสอน 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลย ก็คือเรียนเต็มที่เลยนะครับ แล้วก็ยังมี Club speaking online เพิ่ม ส่วนตัว Supplementary ก็จะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ 15 ชั่วโมงและเสริมด้วย IELTS 6 ชั่วโมงครับอันนี้นักเรียนก็สามารถเลือกได้ว่าอยากเรียนแบบไหนมากกว่ากันนะครับโดยที่ว่ามี Requirement เดียวครับโดยที่ว่าถ้าจะเรียน IELTS เนี่ยภาษาอังกฤษนักเรียนต้องอยู่ใน Level ที่เรียกว่า Intermediate ก่อนถึงจะเริ่มเรียนได้ครับ

York: ค่ะ

Kaplan: ทีนี้เวลาที่ไปเรียนเราก็มีวิธีที่ง่ายมากเลยครับที่น้องๆ จะรู้ว่าไปเรียนกี่ Week ถึงจะบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้นะครับ เพราะว่าน้องๆ แต่ละคนเนี่ยก็มีเป้าหมายไม่เหมือนกันบางคนก็สนใจที่จะไปต่อปริญญาตรีหรือปริญญาโทนะครับ แล้วก็ไปเรียนเพื่อที่ว่าต้องการที่จะทำงานได้ดีขึ้นนะครับ ได้ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นนะครับ ฉะนั้นวิธีการดูง่ายๆ เลยคือว่าถ้าเราสนใจเรียนปริญญาตรีเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเราก็ควรจะต้องจบ Higher Intermediate

แล้วเพราะว่าเราสามารถดูคะแนน IELTS ได้เพราะถ้าจบ Higher Intermediate IELTS ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 7 ส่วนถ้าเป็น ป.โท เนี่ยส่วนใหญ่ต้องจบ Advance เพราะใช้ IELTS ที่ 7-7.5 ทีนี้เริ่มต้นเลยก็คือว่าน้องๆ ก็พอมาคุยกันเราก็ให้ทำข้อสอบก่อนที่เรียกว่าเป็น Online Test ภาษาอังกฤษนะครับนักเรียนไทยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยจะอยู่ในระดับที่เรียกว่า Lower Intermediate หรือว่า Intermediate เพราะงั้นการที่ว่าเราจะเรียนจนจบ Higher Intermediate  เนี่ยเราก็ดูได้เลยว่าแต่ละ Level เนี่ยใช้เวลา 10 สัปดาห์ในการเรียนนะครับ เรามีอยู่ 6 Level นะครับสมมุติว่าน้องสอบ Test มาได้ Lower Intermediate ที่จะจบ Intermediate ก็ใช้เวลา 10 สัปดาห์ Higher Intermediate 10 สัปดาห์ ก็คือเป็น 30 สัปดาห์ แล้วก็สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าจะบรรลุคะแนน IELTS ที่ตั้งใจไว้นะครับก็คือดูแบบนี้ครับดูได้ง่ายๆ เลยเราสามารถวัดผลได้ง่ายมาก

Kaplan: ทีนี้ในการเรียนเนี่ยเราต้องการให้นักเรียนนั้นได้มีประสบการณ์จริงในการใช้ภาษาอังกฤษนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็เอาในส่วนที่เราเรียกว่าเป็น Project designing มาให้นักเรียนได้ทำกันโดยจะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มครับ โดยในแต่ละกลุ่มเนี่ยก็จะมีนักเรียนจากหลายชาติด้วยกัน แล้วอาจารย์ก็จะให้โจทย์นักเรียนว่า โอเคสัปดาห์นี้โจทย์ก็คือว่าให้เขียนเป็น Article หนังสือพิมพ์สำหรับโรงเรียนหรือว่าทำหนังสั้นนะครับ นักเรียนก็จะต้องคุยกันนะครับแล้วก็ใช้ความคิดสร้างสรรค์ดูกันว่า เอ่อเรามีโจทย์แบบนี้เราจะตีโจทย์ยังไงนะครับแล้วก็ต้องทำ Research ว่าว่าจะทำยังไงให้มันออกมาเป็นผลงานที่ดีนะครับ เพราะฉะนั้นภายใน 1 สัปดาห์เขาก็จะมีผลงานออกมาไม่ว่าจะเป็นการเขียน Article หนังสือพิมพ์หรือว่าทำหนังสั้นเนี่ยแล้วก็งานเขาก็จะได้แชร์กับนักเรียนทุกคนในโรงเรียนเดียวกันนะครับซึ่งวันนี้ Kaplan: พี่ก็มีผลงานของน้องๆ ที่ Kaplan มาให้ดูนะครับเป็นหนังสั้นนะครับก็เดี๋ยวเราไปดูด้วยกันนะครับ

York: ค่ะ

Kaplan: ดีมั้ยครับ

York: 😀 ดีค่ะ

Kaplan: เอ่อซุปเปอร์ฮีโร่ก็ยังต้องเรียนหนังสือ

York: 😀

Kaplan: จะบอกว่าน้องๆ ไปเรียนแล้วเจอสไปเดอร์แมนหรือเจอแบทแมนก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ

York: นั่นเป็นผลงานของนักเรียนใช่มั้ยคะค่อนข้างดูดีมากเลยค่ะ

Kaplan: ใช่ครับ เป็นผลงานที่นักเรียนทำเองเลยแล้วก็เรามีความมั่นใจนะครับด้วยการเรียนการสอนของเรานักเรียนสามารถที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษได้รวดเร็วเพราะฉะนั้นเนี่ยในทุกๆ 10 weeks เนี่ยเราจะมีการสอบเพื่อวัดแล้วก็เลื่อนระดับ Level ของนักเรียนนะครับเราก็เลยมีกรณีว่านักเรียนที่ไปเรียนกับเราไม่ว่าที่ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดาเนี่ยถ้าเผื่อว่าเขาไม่ได้บรรลุเป้าหมายเขาเนี่ย เราจะให้เรียนฟรี 4 สัปดาห์ หลังจากที่จบหลักสูตรนะครับอันนี้คือเพื่อที่ว่านักเรียนที่เขาเรียนกับเราเต็มที่เขาจะได้มั่นใจได้ว่าเขาจะต้องบรรลุเป้าหมายเขาแน่นอน

York: ค่ะ

Kaplan: ทีนี้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับว่าโรงเรียนของเราที่ไหนที่เปิดแล้วนะครับแล้วก็มีวีดีโอสั้นๆ ให้ดูครับ

York: ได้ค่ะ

Kaplan: ก็โรงเรียนเราเปิดแล้วทุกประเทศนะครับเดี๋ยวเรามาดูกันว่าที่ไหนบ้างนะครับ

York: ค่ะ

Kaplan: ที่ออสเตรเลียเนี่ยเรามีอยู่ 5 เมือง เรามีอยู่ 5 โรงเรียนนะครับเราเปิดทุกโรงเรียนแล้วยกเว้น Melbourne นะครับ Melbourne เนี่ยอย่างที่ทุกคนทราบว่าอยู่ในช่วง Lockdown นะครับ เพราะว่ามีช่วงที่จำนวนเคสของ Covid ก็เพิ่มขึ้นนะครับ ทีนี้ล่าสุดเนี่ยได้ดูข่าวตอนนี้เคส Covid เนี่ยเขาอยู่ที่ประมาณ 35 เคสต่อวันนะครับ ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมากเลยตอนช่วงพีคเนี่ยเขาอยู่ที่ประมาณ 100 เคสต่อวันนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ดูว่าดีขึ้นมากๆ เลยนะครับ คือสมมุติว่าถ้าไปเรื่อยๆ แบบนี้ Melbourne ก็น่าจะเปิดได้ในอีกไม่นานนะครับ แต่ว่าในสาขาอื่นๆ ที่ออสเตรเลียเนี่ยเช่น Perth Adelaide Brisbane เนี่ยเรียกว่าศูนย์แล้วนะครับแล้วก็จะคล้ายๆ เมืองไทยตรงที่ว่าถ้าเกิดมันมีเคสเนี่ยก็คือคนที่กลับมาจากต่างประเทศแล้วก็อยู่ใน Quarantine นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ย  feedback จากนักเรียนใน 3 เมืองนี้ค่อนข้างจะดีมากๆ

Kaplan: ที่ Sydney เนี่ยจำนวนเคสตอนนี้ก็ถือว่าน้อยมากๆ ที่เราดูล่าสุดก็อยู่ประมาณ 7 เคสนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ แล้วโรงเรียนใน 4 โรงเรียนเราเนี่ยเราก็มีการเว้นระยะห่างปกติ มีการใส่หน้ากากก็ดูว่าชีวิตเริ่มกลับมาปกตินักเรียนแฮปปี้ครับ

Kaplan: เอ่อที่นิวซีแลนด์เนี่ยตอนนี้เราเปิดแล้วจริงๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภานะครับแล้วก็ปิดไปสั้นๆ ช่วงนึงตอนที่มีช่วง Covid ที่ Auckland แต่ว่าตอนนี้กลับมาเปิดปกติครับ

Kaplan: ในส่วนแคนาดาเราเปิดมาสักพักนึงแล้วนะครับ เอ่อแต่ว่าแคนาดา Boarder เขายังไม่ได้ให้ทุกคนเข้าตามที่กฏตอนนี้คือนักเรียนที่มี Study permit ก่อนวันที่ 18 มีนา ถึงจะเข้าได้นะครับ แต่แคนาดาเองเนี่ยเรืองไวรัสเขาก็ถือว่า Under Control อยู่เพราะฉะนั้นก็น่าจะโอเคคิดว่าเราก็ลุ้นเกี่ยวกับเรื่องการเปิด Border เร็วๆ นี้นะครับ

York: ค่ะ

Kaplan: เอ่อที่อังกฤษเนี่ยโรงเรียนเราเปิดแล้วนะครับทุกโรงเรียนแล้วก็ Boarder ก็เปิดด้วยเพราะฉะนั้นอังกฤษเนี่ยเป็นประเทศที่พร้อมที่นักเรียนสามารถเดินทางได้นะครับแล้ววันนี้ก็เล่าให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้าง ไอร์แลนด์ก็เปิดแล้วนะครับ

Kaplan: แล้วก็ที่อเมริกาเนี่ยตอนนี้เราเปิดที่ Boston โรงเรียนเราอยู่ที่ Harvard Square คืออยู่ติดกับมหาวิทยาลัย Harvard เลยนะครับแล้วก็ Chicago New York อยู่ที่ Central Park นะครับแล้วก็ Seattle อันนี้นักเรียนก็เดินทางไปได้เหมือนกันตอนนี้ประเทศก็เปิดก็สามารถเดินทางได้ครับ

Kaplan: อันนี้คือ 5 โลเคชั่นที่ออสเตรเลียนะครับ Sydney Melbourne Brisbane Adelaide Perth ก็เมื่อสักครู่นักเรียนก็ได้ทราบรายละเอียดไปแล้วเมื่อสักครู่ เกลมีคำถามอะไรอยากถามมั้ยครับ

York: ค่ะ ก็อยากจะให้พี่เอกช่วยอธิบายแต่ละโลเคชั่นนิดนึงค่ะ เนื่องจากว่าต้องบอกว่าจริงๆ ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่นักเรียนไทยสนใจค่อนข้างเยอะมากๆ นะคะก็เลยอยากจะให้พี่เอกช่วยบอกนิดนึงว่าแต่ละ Campus อ่ะค่ะมีจุดเด่นยังไงแล้วก็เหมาะกับน้องๆ กลุ่มไหนอ่ะค่ะ เผื่อบางคนไม่มีไอเดียในเรื่องของว่าจะไปเรียนเมืองไหนดีอย่างนี้ค่ะ

Kaplan: ได้ครับเดี๋ยวพี่จะไล่ไปตั้งแต่ Perth ก่อนละกันนะครับ เมืองแรก คือ Perth เนี่ยเป็นเมืองที่โดยปกติคนไทยไม่เยอะนะครับ แล้วก็เป็นเมืองเล็กๆ นะครับเมืองนี้ถ้า feedback ที่เราได้มาถือว่าดีมากๆ ครับเพราะว่าเป็นเมืองที่เดินทางสะดวกแล้วก็ปลอดภัยมากๆ แล้วก็จริงๆ ในช่วงนี้ก็แนะนำเลย Perth นะครับ แล้วก็มี Adelaide ก้เป็นอีกเมืองนึงที่น่าสนใจนะครับคนไทยก็น้อยเหมือนกันนะครับอีกเมืองนึงเนี่ยคือ Brisbane อยู่ใกล้ๆ กับ Gold Coast ถ้าชอบทะเล อากาศไม่หนาวก็เหมาะมากเลยนะครับ Brisbane ชายหาดอยู่ใกล้ๆเป็นเมืองที่มีสีสันแล้วก็ตอนนี้ก็ถือว่าปลอดภัยมากๆ เลยนะครับทั้ง Brisbane Adelaide และ Perth นะครับ

Kaplan: เอ่อ Sydney เป็นเมืองที่เป็นเมืองใหญ่และคิดว่าน้องๆ คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วนะครับและแน่นอน landmark ของ Sydney ไม่ว่าจะเป็น Opera House หรืออะไรต่างๆ พวกนี้เราก็คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว Sydney ก็เป็นเมืองนึงอย่างที่เล่ามันก็จะมีเคสบ้างแต่ก็จะมีมาตราการรักษาความปลอดภัยที่ดีนะครับ เอ่อ Melbourne เป็นเมืองที่เมื่อก่อนพี่ก็เรียนอยู่ใกล้ๆ Melbourne ก็เป็นเมืองที่สวยมากแล้วก็ชอบมากๆ เลยนะครับ โรงเรียนเรานี่อยู่ใกล้ๆ Downtown นะครับเป็นที่ ที่เป็น Marina จอดเรือ แล้วก้มีแทรม (รถราง) ให้นั่งฟรี เข้าไปในเมืองก็เป็นเมืองที่น่าสนใจแต่เดี๋ยวรอให้เคสลดลงก่อนเนอะ

York: ค่ะได้ค่ะ เอ่อแล้วส่วนพวกค่าครองชีพล่ะคะเมืองไหนค่าครองชีพเป็นยังไงบ้างเอ่ย

Kaplan: ค่าครองชีพเนี่ยถ้าเราอยู่ Sydney Melbourne เนี่ยค่าครองชีพจะสูงกว่า Brisbane Adelaide Perth นะครับ Sydney Melbourne เนี่ยจะอยูที่ประมาณ 32,000 บาทต่อเดือนนะครับสำหรับค่าที่พัก, ค่าอาหารก็จะประมาณนั้น ส่วน Brisbane Adelaide Perth เราก็ดูค่าใช้จ่ายประมาณ 28,000 สำหรับค่าที่พักกับค่าอาหารครับ

York: ก็ถือว่าไม่ได้สูงมากเนอะถ้าน้องๆ คนไหนอยากได้เมืองที่ค่าครองชีพถูกลงอย่างเช่น Brisbane Adelaide แล้วก็ Perth ค่ะ แล้วก็อยากจะถามว่าตอนนี้ที่ออสเตรเลียอ่ะค่ะสถานการณ์ของออสเตรเลียเป็นยังไงบ้างซึ่งตอนนี้มีน้องๆ สนใจค่อนข้างเยอะเลย ซึ่งน้องๆ ควรจะสมัครเพื่อไปเรียนประมาณช่วงเดือนไหนถ้าน้องๆ สนใจจะไปเรียนออสเตรเลียอ่ะค่ะ

Kaplan: ก็สถานการณ์ออสเตรเลียในตอนนี้ครับก็อย่างที่เล่าให้ฟังนะครับว่าสถานการณ์ไวรัส ใน Brisbane Adelaide Perth เนี่ยเรียกว่าเคสก็เอ่อเป็นศูนย์ก็จะเหมือนเมืองไทยตรงที่ว่าถ้าเขามีเคสเพิ่มก็จะเป็นคนที่เดินทางจากต่างประเทศนะครับแล้วก็อยุ่ใน Quarantine เพราะฉะนั้นก็ safe มากๆ นะครับ ทีนี่ประเด็นของออสเตรเลียคือตอนนี้ไม่ยังไม่เปิด Boarder ให้คนต่างชาติเดินทางเข้าไปได้ แล้วก็คิดว่าประเด็นหลักๆ อย่างรัฐ Victoria ซึ่งเป็นรัฐของ Melbourne นี่เค้าก็คงต้อง under control ก่อนให้เคสเค้าลงมาก่อน ถ้าเกิดเรามอง Timing ตอนนี้เราก็ลุ้นว่าอยากจะให้ Boarder เปิดปลายปีหรือว่าต้นปีหน้า ถ้าเรามอง situation ณ ปัจจุบันนะครับ ทีนี่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือว่าเรามีโปรโมชั่นสำหรับออสเตรเลียที่ดีมากๆ เลย ที่เมื่อก่อนเราไม่เคยมีนะครับ แล้วก็น้องๆ สามารถสมัครเรียนได้เพื่อที่จะไปเรียนปีหน้า ถือเป็นโอกาสที่จะจองคอร์สก่อนแล้วก็ค่อยไปเรียนตอน Boarder เปิดครับ

York: อ่อ โอเคค่ะ ส่วนเรื่องของราคาโปรโมชั่น เดี๋ยวเรามีบอกให้ท้ายคลิปแน่นอนค่ะ ได้ค่ะอันนี้ก็เป็น slide ในเรื่องของมาตรการดูแลที่ออสเตรเลียใช่ไหมคะ

Kaplan: ใช่ครับ แน่นอนว่าเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนต้องมาเป็นอันดับ 1 น่ะครับ แล้วก็เรื่อง Social distancing การล้างมือ การใส่หน้ากาก และอื่นๆ เราถือเป็นอันดับ 1 เลย ต้องให้น้องๆ ปลอดภัยครับ มีคำถามเรื่องออสเตรเลียเพิ่มไหมคะ เดี๋ยวพี่จะเข้าไปพุดถึงเรื่องของอังกฤษแล้วครับ

York: ยังไม่มีค่ะ งั้นเราไปพูดถึงเรื่องของอังกฤษดีกว่าค่ะ

Kaplan: ก็ที่อังกฤษ ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้ว Boarder ก็เปิดแล้ว ตอนนี้น้องๆ สามารถเข้าไปเรียนได้ ตอนนี้ที่อังกฤษเค้ามีกฎสำหรับนักเรียนที่เดินทางไปเรียนจากเมืองไทยว่าต้อง Quarantine 14 วัน ซึ่งการ Quarantine หมายถึงว่าเวลาเดินทางเข้าไปไปพักที่ Homestay หรือพักที่หอพัก โดยที่ช่วงที่เขาเข้าพัก เขาสามารถที่จะเรียนหลักสูตรของ Kaplan ทาง online ได้ เรามีหลักสูตรให้เรียนฟรีด้วยนะครับ ตอนนี้ช่วง Quarantine ถ้านักเรียนจะเลือกอยู่แบบ Residence เราให้อยู่ฟรี 2 อาทิตย์ ช่วง 2 อาทิตย์แรกไม่ต้องจ่ายตังค์ครับ คืออยู่ฟรีได้เลย

โรงเรียนที่เราเปิดตอนนี้มีอยู่ 9 แห่งนะครับมีที่ London, Oxford, Cambridge, Bath, Manchester, Liverpool, Bournemouth, Torquay, Edinburgh Scotland นะครับ อันนี้เป็นบรรยากาศของ London นะครับ โรงเรียนจะอยุ่ที่ Covent Garden ก็คือกลางเมือง เวลาที่เดินเข้ามาก็มีเจลล้างมือให้ก่อนเลยนะครับ แล้วก็ตรงเคาน์เตอร์ตรงที่เป็น student service ไม่แน่ใจว่ามองเห็นหรือเปล่าว่าเราจะมีพลาสติกใส จะมีพลาสติกใสน่ะครับที่กัน นอกจากนั้นเราก็จะมีป้ายที่เกี่ยวกับ social distancing ที่เตือนนักเรียนแบบว่าให้อยู่เว้นระยะห่างน่ะครับ แล้วก็มีการวัดอุณหภูมิทุกครั้งเวลาที่เข้ามาในโรงเรียน

ในห้องเรียนนี่ อันนี้เรายกตัวอย่างใน Oxford นะครับ ในที่ London ก็เหมือนกัน ก็คือในห้องเรียนนี่อาจารย์ก็จะใส่ face shield หรือว่าใส่ mask เวลาสอนนะครับ แล้วก็การวางโต๊ะเรียนเราก็จะวางห่างกันนะครับ เราก็ดู size ของห้องว่าเป็นอย่างไร แล้วเราก็วางโต๊ะ ห่างกัน อย่างเมื่อก่อนนี้เราอาจจะบอกว่านักเรียนในห้องมี 15 คน ตอนนี้พอเราวางโต๊ะแล้ว อาจจะเหลือ 6 คนต่อห้อง เอ่อขึ้นอยู่กับ size ของห้อง อาจจะอยู่ที่ 6-12 คนต่อห้อง

ที่ Oxford ที่มีสนามคือแบบอยู่ที่โรงเรียนเลยนะครับซึ่งนักเรียนสามารถที่จะนั่งเล่น หรือปิ้งบาร์บีคิว หรือเล่นปิงปองอะไรอย่างงี้ได้ แล้วก็ในช่วงอากาศดีๆ นักเรียนเค้าก็จะมานั่งอ่านหนังสือกัน หรือมานั่งเรียนกันข้างนอกด้วยนะครับ ทีนี้โปรโมชั่นของออสเตรเลียนะครับ ตอนนี้เป็นช่วงที่เราลดราคาพิเศษสุดเลยครับ แล้วก็สำหรับ intensive English นี้ ปกติแล้วคือ AU$405 ต่อสัปดาห์นะครับ ปัจจุบันเนี้ย เราลดเหลือ AU$258 ต่อสัปดาห์ ซึ่งถูกมากเราไม่เคยลดแบบนี้มาก่อนนะครับ แล้วก็อันนี้เป็นโปรโมชั่นที่หมดเขตเดือนกันยา น้องๆ สามารถที่จะจองตอนนี้เพื่อเดินทางปีหน้าได้ครับ

York: ก็คือว่าน้องต้องสมัครเรียนภายในเดือนกันยานี้ ถึงจะได้รับราคา AU$258 / week

Kaplan: ใช่ครับ ก็สมัครเรียนภายใน 30 กันยา

York: ค่ะ โอเคค่ะ

Kaplan: แล้วก็ของที่อังกฤษน่ะครับ โปรโมชั่นก็ดีมากๆ เลย เราเริ่มต้นที่ 150 GBP / สัปดาห์ นะครับ ราคาเต็มอยู่ที่ 335 GBP / สัปดาห์ อันนี้คือถูกกว่า 50% นะครับลดมากกว่า 50% นะครับ โดยที่ว่าในช่วงที่ Quarantine เนี้ย เราให้นักเรียนพักฟรีที่ Residence  2 weeks เลย

แล้วก็มีคอร์สออนไลน์ที่เรียกว่า K+ Live Express ให้นักเรียนได้เรียนฟรีด้วยในระหว่างที่ Quarantine อยู่ครับ นอกจากนั้นนักเรียนที่พักที่ Residence เรายังมีลดค่าที่พัก Residence ให้อีก 10% ด้วย นอกจากที่เราลดค่าเล่าเรียนแล้วครับ ก็ถือว่ามีช้อยส์ที่ดีมากๆ เลยเพราะนักเรียนเลือกได้ว่าจะอยู่ที่ Residence หรือว่า host family

York: ใช่ค่ะ ถือว่าเป็นโปรโมชั่นที่คุ้มค่ามากเลยนะคะ ถ้าเกิดน้องคนไหนสนใจก็อย่าลืมติดต่อเข้ามาจองโปรโมชั่นกับทาง York ได้นะคะ

Kaplan: ครับ แล้วก็ ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวจะ พูดเรื่องเกี่ยวกับออนไลน์คอร์สด้วย ดีไหมครับ เพราะว่าเผื่อน้องคนไหนที่ยังไม่ได้เดินทางก็สามารถเรียนที่บ้านได้เลย เป็นออนไลน์ก่อน

York: ได้เลยค่ะ

อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ

(ตอน 2) live สดกับพี่เอก Thailand Manager จากสถาบันภาษาระดับโลก Kaplan ที่มีกว่า 36 แคมปัสทั่วโลก