Blogs
(ตอน 1) live สดกับคุณพริม International Recruitment จาก University of the West of England เมือง Bristol, UK
วันนี้คุณพริม มาให้ข้อมูลแบบละเอียดยิบทั้งแนะนำเมือง Bristol, แนะนำมหาวิทยาลัย, หลักสูตรต่างๆ ,พาชม facility ต่างๆ ที่ล้วนทันสมัยทั้งอาคารเรียน, อุปกรณ์การเรียนการสอน, ห้องสมุด, หอพัก ฯลฯ การใช้ชีวิต และทำงาน part-time ใน Bristol และอัพเดตค่าเรียน, ค่าที่พัก, และที่พลาดไม่ได้คือทุนการศึกษา และตอบทุกคำถามยอดฮิตที่พี่ๆ York Institute ได้รับจากน้องๆ คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)
University of the West of England (UWE) เมือง Bristol ประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่และทันสมัย และได้รับอันดับสูงสุด Gold จาก Teaching Excellence Framework (TEF) ซึ่งคือ ตัววัดคุณภาพการเรียนการสอนที่ทำขึ้นโดยรัฐบาลอังกฤษ
York: สวัสดีค่ะพี่เกลจาก York นะคะวันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษนะคะ กับ UWE Bristol และขอต้อนรับแขกรับเชิญของเราคุณพริมค่ะ
UWE: สวัสดีค่ะ
York: เดี๋ยวให้คุณพริมแนะนำตัวให้น้องๆ ฟังก่อนเลยนะคะ
UWE: ค่ะ ชื่อพริมนะคะ เป็นเจ้าหน้าของมหาวิทยาลัย UWE Bristol ที่เบสอยู่ในเมืองไทยค่ะ ปกติก็จะทำในส่วนของ Recruitment โดยตรงก็จะประสานงานกับทาง Agency และนักเรียนที่จะไปเรียนต่อที่ UWE Bristol ประเทศอังกฤษค่ะ
York: ค่ะ ทีนี้น้องๆ บางคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า UWE Bristol คือที่ไหนมหาวิทยาลัยมีสอนหลักสูตรอะไรบ้าง เดี๋ยวขอมอบหน้าที่ให้กับคุณพริมนะคะได้แนะนำมหาวิยาลัยให้น้องๆ รู้จักกันเลยค่ะ
UWE: ค่ะ คุณเกลขอบคุณมากค่ะ เริ่มต้นด้วยชื่อก่อนนะคะปกติเนี่ยตอนนี้ที่เราจะรู้จักกันในชื่อสั้นๆ ของ UWE Bristol เนี่ยส่วนใหญ่เราจะเรียกว่า UWE เลยแต่ว่าจริงๆ แล้วชื่อเต็มๆ ของมหาวิทยาลัยคือ University of the West of England นะคะถ้าจากชื่อเนี่ยเราก็จะทราบเลยว่าอยู่ทางตอน West ของอังกฤษแต่โลเคชั่นจริงๆ เลยมันจะอยู่ตรง South West ห่างจาก London ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยรถไฟ ถือเป็นโลเคชั่นที่ค่อนข้างดีได้รับความนิยมของนักเรียนไทยในการเลือกที่จะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษเหตุผลแรกเลยก็คือว่าทางตอนใต้เนี่ยเมืองจะใกล้ London ด้วยนักเรียนหลายๆ คนเนี่ยพอวันเสาร์ อาทิตย์ ก็อยากนั่งรถไฟเข้าไปเที่ยวใน London หรือหางานพิเศษทำใน London หรือไปหาที่ฝึกงานใน London ก็จะค่อนข้างตอบโจทย์
ข้อสองก็คือว่าทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษอ่ะค่ะ มันจะมีบรรยากาศที่ค่อนข้างคล้ายประเทศไทยมากที่สุดทั้งเกาะอังกฤษแล้วเนี่ยมันยังมีความเป็นแดด อาจจะไม่ได้อากาศที่หนาวจัดมากเท่าตอนเหนือนักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกที่จะอยู่ทางใต้มากกว่า และอีกเหตุผลนึงก็คือว่าอย่างเมือง Bristol เองเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ค่าครองชีพไม่สูงแล้วก็หางานพิเศษทำง่าย ก็เลยเป็นอีกเหตุปัจจัยนึงที่นักเรียนเลือกที่อยู่ทางตอนใต้และก็เรียนที่เมือง Bristol
UWE: ต่อไปเนี่ยในเรื่องของเมืองเมื่อกี้ที่เกริ่นไปแล้วนะคะเมืองของเราเองจริงๆ แล้วได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในประเทศอังกฤษด้วยในปี 2017 นะคะ เหตุผลก็คือหลายๆ อย่างเลยก็คือเมืองค่อนข้างสะอาดแล้วก็ปลอดภัย สองคือเหมาะกับนักเรียนมากถ้ายิ่งเป็นนักเรียนที่มาจากต่างประเทศค่ะถ้ามาจากโซนเอเชีย ถ้าพูดกันตามจริงเด็กส่วนใหญ่ก็ต้องการจะทำงานพิเศษเพื่อซัพพอร์ตค่ากินอยู่อาศัยของตัวเองช่วยคุณพ่อคุณแม่แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่ะ บางคนอย่างน้องผู้ชายที่พริมรู้จักก็อยากจะหาค่าตั๋วฟุตบอลเอง บางคนน้องผู้หญิงก็อยากจะหาค่ากระเป๋าเอง ก็จะเลือกไปอยู่ในเมืองที่ใหญ่หน่อยแล้วก็ทำงานพิเศษง่ายซึ่ง Bristol ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้น
UWE: ต่อมาก็คือ จริงๆ ถ้าน้องนักเรียนที่ไปจากเมืองไทยแล้วอยากไปอาศัยอยู่ในเมืองที่คนอังกฤษอาศัยอยู่เยอะมีคน Local อยู่เยอะจริงๆ Bristol เป็นเมืองที่ค่อนข้างตอบโจทย์มาก เพราะหนึ่งคือเราไม่ได้เป็นเมืองที่ใหญ่มากถ้าเทียบกับ London และคนอังกฤษเองเลือกที่จะอยู่ที่นี่เพราะว่าเมืองน่าอยู่และก็เรื่องของเศรษฐกิจในเมืองค่อนข้างดี แล้วยังเป็นเมืองที่เด่นในเรื่องของ Finance ด้วยค่ะ
UWE: อันนี้เดี๋ยวให้พริมรันยาวเลยเนอะคุณเกล
York: ค่ะ ได้เลยค่ะ
UWE: ทีนี้ถ้าเราดูกันจากรูปภาพเราก็จะเห็นว่าเมือง Bristol เนี่ยจะมีตัว Harbour นะคะเหมือนเป็น Landmark ว่าถ้าพูดถึง Bristol แล้วจะนึกถึงอะไรก็จะเห็นจากภาพเลยและในช่วง Summer ค่ะก็จะมี Festival ต่างๆ ที่จัดกัน และตรงนี้อ่ะค่ะจะเป็นในส่วนที่เรียกว่า City Centre เลย นักเรียนที่ไปเรียนที่ Bristol เนี่ยเขาก็จะได้ Benefit จากตรงนี้ด้วยอาจจะได้ฝึกงานทำ Placement สั้นๆ ดูงานหรือว่าอาจจะได้ทำงานพิเศษที่ได้เงินค่อนข้างดีในช่วงนั้นด้วยเหมือนกัน
ส่วนในเรื่องของจุดเด่นของ UWE หลักๆ เนี่ยถ้าน้องๆ ที่มองหามหาวิทยาลัยที่เรียนแล้วจะได้ฝึกปฏิบัติค่อนข้างเยอะมีโอกาสในการดูงานหรือฝึกงานกับบริษัทชั้นนำในประเทศอังกฤษเนี่ยก็ของเราจะมี Option ตัวนี้ที่ให้กับนักเรียนด้วยคือเรามีบริษัทที่ค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงระดับสากลที่เป็น HUB อยู่ในเมือง Bristol โดยตรงค่ะ อันนี้เป็นตัวอย่างที่เราดึงมาก็จะมีอย่างเช่น บริษัท AIRBUS สำหรับคนที่สนใจในเรื่อง Aviation หรือ Aerospace อย่างนี้นะคะเราก็จะมีคอร์สเปิดสอนที่ UWE แล้วน้องเรียนจบแล้วก็มีโอกาสจะได้ทำงานที่ บริษัท AIRBUS ต่อได้ด้วยนะคะหรือว่า Rolls Royce หรือจะเป็น LLOYDS BANK BBC เป็นต้นนะคะ
UWE: และอันนี้จะเป็น Project ที่คณะของเราเคยทำร่วมกับ BBC นะคะซึ่งจริงๆ เราก็จะมี Project ที่ทำร่วมกันเรื่อยๆนะคะ ซึ่งอันนี้ก็เป็นอีกเหตุผลนึงของนักเรียนที่เลือกไปเรียนที่ UWE เพราะว่าไปเรียนแล้วเนี่ยน้องจะไม่ใช่แค่เรียนแค่เฉพาะในห้องเรียนหรือว่าทำแค่ Dissertation หรือว่าเน้น Research แต่ของเราจะเน้นปฏิบัติเป็นหลักเลยเลยและเหมาะสำหรับคนที่เรียนจบแล้วมองหางานทำต่อในประเทศอังกฤษเพราะว่ายิ่่งตอนนี้เนี่ยถ้ามีในเรื่องของ Post study work visa ออกมาเนี่ยก็เป็น Option ที่ทำให้นักเรียนสามารถอยู่ต่อได้ซึ่ง UWE ก็จะ Provide เด็กตั้งแต่เด็กนักเรียนที่เริ่มเข้าเรียนแล้ว ว่าโอเคนักเรียนเริ่มเข้าเรียนไปเราก็จะเหมือนวางแนวทางไว้ให้ว่าคุณจะต้องเตรียมพร้อมยังไงถ้าอยากที่จะฝึกงานและทำงานต่อในระยะยาวค่ะ
UWE: ส่วนอันนี้จะเป็นรูปของเมืองก็จะให้ดูกันคร่าวๆ ค่ะจริงๆ การเลือกไปเรียนที่ประเทศอังกฤษเนี่ยพริมว่าส่วนนึงการเลือกเมืองก็สำคัญ นอกจากชื่อเสียงหรือว่าความเด่นดังในสาขานั้นๆ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ คือเนื่องจากว่านักเรียนจะต้องอยู่กันนานเลยอย่างน้อยก็ 1 ปีเนอะถึง 1 ปีครึ่งสำหรับกรณีที่เรียน Presesional ด้วย เมือง Bristol เป็นเมืองที่น่าจะติด Top 3 ในประเทศอังกฤษเลยที่เป็น Destination ของคนยุโรปเอง หรือคนเอเชียที่ไม่ใช่อยากแต่เฉพาะไปเรียนต่ออย่างเดียวแต่อยากจะไปตั้งรกรากหรือไปอยู่ในระยะยาวด้วยเมือง Bristol ก็เป็นเมืองที่ดดี ถ้านึกภาพให้เปรียบเทียบกับในประเทศไทยก็อาจจะเป็นคล้ายๆ หเชียงใหม่ที่เป็นเมืองที่เจริญเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองใหญ่แต่ไม่ได้วุ่นวายเท่ากับกรุงเทพประมาณนั้นค่ะ
UWE: นอกจากนี้เนี่ยเมือง Bristol ก็จะมี Landmark ที่ชื่อว่า Suspension Bridge ถ้านักเรียนมีโอกาสได้ไปหรือไปถ่ายรูปตรงนั้นจะเห็นว่ามันสวยมากซึ่งตรงนี้ทำให้ในช่วง Summer ก็จะนักท่องเที่ยวจากยุโรปเขาก็จะมาเที่ยวกันค่อนข้างบ่อยก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เศรษฐกิจในเมืองค่อนข้างดีตรงนี้นักเรียนบางคนถามพริมว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับตัวเขาเพราะเขาไปเรียนในช่วงเวลาสั้นๆ จริงๆ คือมันก็จะเกี่ยวเนื่องกันหมดคือพอเศรษฐกิจในเมืองดีเนี่ยน้องก็จะมีโอกาสในการทำงานพิเศษหรือโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบต่อไปค่อนข้างง่ายขึ้นค่ะ
UWE: อันนี้เดี๋ยวให้ดูรูปกันสั้นๆ เนอะเป็นรูปในเมืองแล้วก็ใน Bristol อ่ะค่ะ จริงๆ จะมีทุกอย่างครบเลยทั้งเรื่องอาหารการกิน ช้อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ดูหนัง ฟังเพลงต่างๆ มีหมดเลย ก็คือน้องไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟไป London เลยเพื่อที่จะไปซื้อ อย่างสมมุติน้องอยากได้ผงมาม่าผงทำอาหารเนี่ยที่เมือง Bristol ก็จะมีขายหมดเลยนะคะ
UWE: และในช่วง Summer ของเราเนี่ยก็จะมี Festival ที่ดังๆ จริงๆ มันมีเยอะมากเริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณ June July August ประมาณนี้อ่ะค่ะสามเดือนช่วงหน้าร้อนเนี่ย ก็จะมีอย่างเช่นอาจจะเป็น Music เทศกาลดนตรีค่ะ จริงๆ แล้วหลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า Bristol เองเป็นเมือง Art ด้วยนะคะก็คือถ้าน้องรู้จักหรือติดตามในเรื่องของศิลปะเนี่ยของเราก็จะเป็นเมืองที่ Banksy เนี่ยวาดรูปเป็น Street Art ด้วยก็คือคล้ายภูเก็ตหรือที่มาเลเซียที่เขามี Street Art ด้วย Bristol ก็จะมีเหมือนกัน ในช่วงหน้าร้อนนอกจากพวก Art Festival หรือ Music Festival
แล้วเนี่ยก็จะมีอันที่ดังอีกอันนึงเป็น Bristol Harbour Festival อันนี้ ซึ่งเด็กที่เรียนคณะของเราจะมี Event Management หรือพวกเกี่ยวกับ Marketing ต่างๆ ก็จะมีโอกาส Join ในกาจัดกิจกรรมหรือจัด Festival ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองด้วยนะคะ แล้วก็ในช่วง August ก็จะมีเทศกาลที่ดังมากๆ เลยเด็กไทยทุกคนที่เรียนเนี่ยจะไป Join เทศกาลนี้ค่ะ เรียกว่า Balloon Festival ค่ะจะเป็นเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ซึ่งจะมีบอลลูนของจากทั่วโลกเนี่ยขึ้นซึ่งก็จะมีของไทยด้วยนะ และก็มีของ UWE Bristol ด้วยเหมือนกันซึ่งเทศกาลนี้นะคะเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากทั้งคนต่างชาติและคนอังกฤษเองเขาก็จะมาเที่ยวงานนี้กัน เป็นช่วงตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เราจัดค่ะ
UWE: ทีนี้เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงในเรื่อง Ranking กันบ้างคืออย่างถ้าเป็นมหาวิทยาลัยในไทยนี่น้องๆ อาจจะพอทราบว่าการที่เราจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยเนี่ยเราดูจากปัจจัยอะไรบ้างแต่พอจะไปที่อังกฤษเนี่ยจะให้เป็นข้อมูลไว้ว่าเวลาที่เราจะเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแต่ละที่เนี่ยนักเรียนควรใช้ปัจจัยอะไรในการเลือกค่ะ
อันดับแรกเลยอยากจะให้น้องๆ ดูจากตัว TEF จริงๆ ชื่อเต็มคือ Teaching Excellence Framework ก็คือเหมือนเป็นตัววัดคุณภาพการเรียนการสอนที่ทำโดยรัฐบาลอังกฤษเลยเพราะฉนั้นเรื่องของ Standard ก็เป็นมาตราฐานอยู่แล้วก็คือถ้ามหาวิทยาลัยไหนที่ได้ TEF ซึ่งตอนนี้มี 3 ระดับ มี Gold Silver bronze
ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทุกที่จะได้ตัวนี้บางที่อาจจะไม่ได้เลยก็ใช้เป็นตัววัดได้ว่าถ้าจะเลือกเรียนมหาวิทยาลัยในอังกฤษเนี่ยควรดูอะไรก็คืออันดับแรกแนะนำตัวนี้ค่ะ
อย่าง UWE เราได้ Gold ซึ่งเป็นมาตราฐานสูงที่สุดละที่รัฐบาลอังกฤษออกให้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังไม่มั่นใจว่ามหาวิทยาลัยนี้สอนดีจริงไหมส่งนักเรียนไปแล้วเนี่ยน้องเรียนจบกลับมาจะได้คุณภาพแบบที่บริษัทดังๆ ในไทยต้องการหรือเปล่าสามารถใช้ Standard ตัวนี้เป็นตัววัดได้นะคะ
ต่อมาก็จะเป็นในเรื่องของ Ranking นะคะอันนี้ที่พริมเอามาให้ดูนี่เป็น Over all ranking นะคะ
UWE ตอนนี้อยู่อันดับที่ 28 จากมหาวิทยาลัยทั้งหมด 120 กว่า ก็เรียกว่าอยู่ใน Top 30 ถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยในไทยเนี่ยก็ถือเป็นมหาวิทยาลัยต้นๆ เหมือนกันที่เป็นจุดที่นักเรียนไปเรียนแล้วจบกลับมาเนี่ยสามารถที่จะหางานในบริษัทดังๆ ได้นะคะ
ส่วน Ranking ที่แยกออกมาจาก Over all เป็น Ranking ย่อยๆ ว่า UWE ดังทางด้านในบ้างถ้าเอาคณะสาขาวิชาของเราที่ดังมากเลยติด Top 10 ก็จะเป็นพวก Film Photography พวก Architecture พวก Art
พวกนี้เราก็ติดอยู่ในอันดับต้นๆ แต่สาขาที่นักเรียนไทยนิยมไปเรียนกันและไปกันทุกปีเลยก็จะเป็นพวก Business Management และก็ Marketing ซึ่ง2อันนี้จะอยู่ในอันดับที่ 26 ก็ถือว่ายังสูงอยู่นะคะ
น้องไปเรียนจบกลับมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้ TEF GOLD ด้วยและในด้าน Business ก็อยู่ใน Top 30 เหมือนกันตรงนี้ก็สามารถสมัครงานบริษัทดีๆ ได้แน่นอนนะคะ
UWE: ส่วนในเรื่อง Student satisfaction นะคะอันนี้เราขึ้นมาสูงมากๆ เลย จริงๆ แล้วทุกปีเนี่ยทาง UWE จะอยู่ Top 10 ทางด้านนี้มาตลอดเลยเกือบทุกปีแต่ว่าในปีนี้ก็พึ่งจะมีการประกาศออกมาเลยจาก NSS ซึ่งเขาจะเป็นตัวที่เข้ามา Survey ความพึงพอใจของนักเรียน ซึ่งเขาก็จะสอบถามนักเรียนว่าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้มีความสุขมั้ย ได้รับความรู้อย่างที่ต้องการหรือเปล่า หรือว่าทางมหาวิทยาลัยดูแลดีมั้ย และนักเรียนอยู่ตรงนั้นแล้วเนี่ยได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาวางแผนไว้มั้ย อันนี้ของ UWE ก็ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากทั้งหมดประมาณ 120 กว่ามหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มหาวิทยาลัยไหนเป็นที่ 1 นะคะแต่คาดว่าปีหน้า UWE ก็อาจจะขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกปัจจัยที่นึงที่สามารถเอาไปเลือกใช้ในการตัดสินใจได้ว่าถ้าเราจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไหนเนี่ยเราควรจะเลือกจากอะไรบ้างอย่างตัวนี้มันเป็นเรื่องของ Student satisfaction โดยตรงว่านักเรียนพึงพอใจมากมีความสุขมากเพราะฉนั้นถ้าหากว่ามหาวิทยาลัยดูแลนักเรียนไม่ดีหรือนักเรียนไปเรียนแล้วไม่มีความสุขอันนี้ก็จะไม่ขึ้นมาสูงขนาดนี้ อันนี้ก็สามารถเป็นตัวการันตีได้อีกอันนึงนะะคะ
UWE: โอเคเดี๋ยวเราจะ Move กันมาในเรื่องของคอร์สเรียนบ้างนะคะ อันนี้จะเป็นคอร์สเรียนที่ UWE Bristol มีเปิดสอนทั้งหมด 600 กว่าสาขานะคะก็คือจริงๆ ทั้งระดับปริญญาตรี โท และปริญญาเอก ของเราก็มีค่ะ
จริงๆ การเข้าปริญญาเอกที่ UWE อ่ะค่ะมันอาจจะยากนิดนึงเพราะว่าเรา Require IELTS ค่อนข้างสูงก็เลยทำให้นักเรียนปริญญาเอกของเราไม่ได้เยอะมาก หลักๆ เลยก็จะเป็นนักเรียนปริญญาโทที่เยอะและก็จะเป็นปริญญาตรี 10-20% ต่อปี
UWE: โอเคอันนี้จะเป็นเรื่องของ Academic Year ของปีนี้ที่จะเอามาให้ดูกันเนื่องจากปีนี้เป็นปีที่พิเศษหน่อยเนื่องมาจากเหตุการณ์ Covid 19 เราก็เลยต้องมีการเปลี่ยนในเรื่องของรูปแบบการเรียนการสอนและไทม์ไลน์นิดนึงคือปกติเนี่ย Intake หลักของเราจะเป็น September เหมือนกันทุกมหาวิทยาลัยในอังกฤษแล้วก็ January เป็น Intake รอง ซึ่ง UWE เนี่ยมีเปิดสอนทั้ง 2 Intake แต่โดยปกติแล้วของรอบมกราคมเราจะเปิดอยู่ประมาณ 30% ของราบวิชาทั้งหมด
แต่ปีนี้มันจะสลับกันเลยค่ะคุณเกล ก็คือจะเหมือนคณะที่เปิดในรอบมกราคมทั้งหมดก็จะมาเปิดในรอบกันยาซึ่งเปิดเรียนจริงๆ ก็จะเป็น Late October ละนะคะ ส่วนคณะที่เราเคยเปิดในรอบกันยาเนี่ยก็จะขอเลื่อนไปเปิดในรอบมกราคม ก็แปลว่าถ้าตอนนี้นักเรียนคนไหนยังตัดสินใจว่าจะไปเรียนดีมั้ยสนใจจะไปเรียน ก็จะเป็นรอบมกราคมทั้งหมดเลย ก็จะมีทุกคณะที่เราเปิดสอนเนี่ยเปิดในรอบมกราคม ซึ่งเราเปิดเรียนจริงๆ ก็จะไม่ใช่ช่วงมกราด้วยก็จะเลทออกไปเป็นช่วงกุมภาเลยถ้าดูจากในสไลด์ก็จะเป็น Teaching block one เนี่ยจะเป็น 8 กุมภาพันธ์ ส่วนช่วง 18 January เนี่ยจะเป็นช่วง Induction ซึ่งเป็นออนไลน์อันนี้เนี่ยน้องไม่จำเป็นต้องไปถึง UWE ก่อนแล้วไปทำน้องสามารถที่จะอยู่ไทยก่อนก็ได้
แล้วก็เข้าคลาสที่เป็นออนไลน์ และอาจจะเดินทางไปถึงสักช่วงต้นเดือนกุมภา แล้วเริ่มเรียนจริงๆ 8 กุมภาพันธ์
ซึ่งตอนนี้นักเรียนก็ยังมีเวลาตัดสินใจบวกกับตอนนี้ของ UWE เนี่ยนอกจากที่เรามี Scholarship ให้ปกติแล้วเนี่ยสำหรับรอบมกราคม ถ้าในปีนี้เนี่ย โดยปกติการไปเรียนที่อังกฤษมันจะต้องมีการชำระค่าประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 300กว่านิดๆ พริมไม่แน่ใจราคาในปีนี้ซึ่งที่ UWE เนี่ยถ้านักเรียนคนไหนตัดสินใจไป
เรียนปีนี้ช่วงมกราคมแล้วน้องตัดสินใจแล้วจ่าย Deposit ภายในสิ้นเดือนกันยานี้เราจะออกค่าประกันให้ด้วย 300 ปอนด์ ตรงนี้มันก็จะไปรวมเหมือนน้องได้ทุนเพิ่มไปอีกอ่ะค่ะก็จะพิเศษขึ้นมาหน่อยกว่าปีอื่นๆ
UWE: โอเคส่วนอันนี้ก็เป็นในเรื่องของ Campus ที่ UWE ของเราเนี่ยจะมีทั้งหมด 3 Campus หลักๆ
ตัว Main Campus จะเรียกว่า Frenchay จะไม่ได้อยู่ใน City Centre โดยตรงจะอยู่ห่างจาก City Centre ออกไปประมาณ 15 นาทีโดยรถบัสนะคะ ซึ่งคณะสาขาวิชาประมาณ 90% ที่เราเปิดสอนจะอยู่ที่ Campus นี้ค่ะ ส่วน Glenside อันที่ 2 นี้ก็จะห่างจาก Frenchay ไปอีประมาณ 15 นาที ไม่ได้อยู่ในเมืองเหมือนกัน Campus นี้จะเปิดสอนสำหรับนักเรียนที่เรียนพวก Nursing พวก Public health ต่างๆ จะอยู่ที่นี่ก็คือเกี่ยวกับพวกสาธารณสุขต่างๆ พยาบาล หรือเป็นพวกกายภาพบำบัดต่างๆ ก็จะอยู่ที่นี่ Campus ที่ Glenside เนี่ยสวยมากๆ ก็คือถ้านักเรียนไปเรียนมีโอกาสก็อยากให้ไปถ่ายรูปกันนะคะ ที่สุดท้าย City Campus เลยจะเป็นสำหรับเด็กที่เรียน Art & Design นะคะแล้วก็พวก Media ต่างๆ ก็จะเรียนที่ Campus นี้ คือเราจำเป็ฯจะต้องแยกออกเป็น 3 Campus เพราะว่าในแต่ละที่เนี่ยก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ในการเรียนสาขาวิชานั้นๆ ที่ต่างกันออกไปค่ะ
UWE: โอเคอันนี้ให้ดูภาพมุมสูงของ Frenchay Campus นิดนึงก็ Campus นี้จะเป็น Campus ที่ใหญ่ที่สุดนะคะแล้วก็นักเรียนเนี่ยจะใช้ห้องสมุดที่นี่กันมากที่สุดซึ่งจริงๆ ห่างจากตัวเมือง 15 นาทีน้องสามารถเลือกได้ว่าโอเคถ้าอย่างเด็กเรียน ป.โท เนี่ยจะอยู่หอ On Campus เลยก็ได้แล้วเดินไปเรียนหรือว่าจะไปอยู่หอที่เป็น
City Centre เพื่อสะดวกต่อการทำงานพิเศษก็ได้อันนี้ก็แล้วแต่น้องๆ เพราะค่าหอพักก็ไม่ต่างกันมากแล้วก็ UWE มี Option หอพักให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยตั้งแต่ที่เป็นแบบแชร์ห้องน้ำ หรือว่าน้องบางคนต้องการความเป็นส่วนตัวเนี่ยก็จะเป็นแบบ Suite หรือ Studio ประมาณนี้นะคะ
UWE: โอเคเดี๋ยวเรา Move กันมาที่ Business School ของ UWE กันนิดนึงเนอะ เพราะว่าจริงๆ แล้วเนี่ย 90% ของนักเรียนไทยก็เลือกที่จะไปเรียนสาขาวิชาที่อยู่ใน Business School กับเราก็จะให้ดูว่า Business School ของ UWE เนี่ยดียังไงบ้างแล้วก็ทำไมถึงควรจะต้องเลือกเรียนที่นี่นะคะ
อันดับแรกเลยก็คือว่า UWE เนี่ยได้ทั้ง Business School of the Year และก็ได้ Shortlist ก็คือมีชื่อเข้าชิงเป็น Business School of the Year เนี่ยตั้งแต่ปี 2017 ยาวมา 2018 2019 เนี่ย 3 ปีติดกันเลย แล้วก็ของเราเนี่ยพึ่งมีตึกที่เปิดใหม่เปิดใช้ในปี 2017 โดยที่รัฐบาลอังกฤษเนี่ยเป็นคนลงทุนตึกนี้ให้จริงๆ คือมันดีตรงที่ว่าทุกอย่างที่อยู่ในตึกที่เหมาะกับการสอนนักเรียนเนี่ยมันจะใหม่หมดเลยก็คือของเราก็จะตอบโจทย์ว่าเป็น Modern University ที่รองรับการเรียนที่เน้นการปฏิบัติที่นักเรียนจบออกไปแล้วทำงานเก่งแน่นอนนะคะอย่างเด็กที่เรียน
Finance เนี่ยตอนนี้ก็จะได้ใช้ห้อง Boomberg เป็นห้องเรียนหุ้นเรียลไทม์สต็อกมาร์เก็ตที่เหมือนเอาเวลาในตลาดหุ้นจริงๆ หรือว่าเป็น Trend ของตลาดหุ้นจริงๆในตลาดขนาดนี้เข้ามาสอนนักเรียนในการวิเคราะห์หุ้น คือนักเรียนที่ไม่ได้เรียน Finance สมมุติว่าลงเรียนอาจจะเป็น Business MBA แล้วสนใจก็สามารถที่จะขอเข้าไปเรียนได้เหมือนกัน
แล้วก็อีกอันนึงที่เป็นจุดเด่นของ Business School ของเราก็คือ Placement เนื่องจากเมื่อกี้ที่พริมเกริ่นไปแล้วตอนต้นว่า UWE เนี่ยเราจะมีบริษัทที่เรา Co เยอะมากจริงๆ มากกว่า 500 บริษัทเลยอย่างในสไลด์ก็จะเห็น อาจจะมี Microsoft, IBM, PWC หรือว่าเป็น Nike, Intel อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะอันนี้ยกตัวอย่างเนอะเด็กของ UWE เนี่ยสามารถที่จะยื่นเรื่องว่าระหว่างเรียนหรือเรียนจบแล้วเนี่ยเราอยากจะทำงานหรือฝึกงานอาจจะเป็น 3เดือน 6เดือน หรือ 1ปี ซึ่งก็สามารถคุยกับ Team ที่มหาวิทยาลัยมี Provide ไว้ให้ได้นะคะอันนี้ก็จะเป็นจุดเด่นของนักเรียนที่รู้สึกว่าไม่ได้อยากที่จะไปเรียนอย่างเดียวอยากที่จะฝึกงานหรือทำงานด้วยจบกลับมาก็อาจจะมีประสบการณ์มากขึ้น หรือว่าอาจจะมีโอกาสในการต่อยอดและทำงานที่อังกฤษต่อหลังจากเรียนจบก็ได้นะคะ
อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ