Blogs
(ตอน 2) คุณนุ๊ก เจ้าหน้าที่จาก ES Dubai ไลฟ์สด พาทัวร์โรงเรียนและตอบทุกคำถามเรื่องการเรียนภาษาที่ดูไบ
(ต่อจากตอน 1)
ES Dubai: จริงๆ แล้วก็ไม่แพงอย่างที่คิดนะครับ อย่างค่าที่พักต่อเดือนประมาณหมื่นต้นๆ ครับ แล้วก็ค่าอยู่ค่ากินถ้าทำอาหารทานเองก็ประมาณหมื่นเหมือนกันครับ แต่อาจจะถูกกว่านั้นหรือแพงกว่านั้นก็อยู่ที่เราบริหารจัดการเรื่องค่าอาหาร แต่ถ้าเราซื้อทานทุกมื้อ มื้อนึงก็ตกประมาณ 200 – 400 บาทก็แล้วแต่ว่าเราจะทานอาหารแบบไหนเนอะ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละคนทานวันนึงกี่มื้อก็ลองคำนวณตรงนั้นดูนะครับสำหรับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารทานเอง
ผมก็เหมือนกันครับ มาตอนแรกก็ไม่ค่อยทำอาหารทานเอง แต่พออยู่ๆ ไปตอนนี้ก็ไปสมัครเชฟกระทะเหล็กเรียบร้อยแล้วครับ ฮ่าๆ ไม่ใช่หยอกๆๆ ก็เปิดดู YouTube เอาน่ะค่ะ ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันก็ก้าวไกลแล้วเราก็สามารถเรียนทำจาก YouTube ได้ ถ้าคิดอะไรไม่ออกถาม Gu ครับ Google เลย ฮ่าๆ ก็มีคำตอบทุกอย่าง
จริงๆ แล้วมันไม่ได้แพงครับ ที่ดูไบมีกิจกรรมหลายอย่าง กิจกรรมฟรีก็เยอะมีอย่างไปชายหาดเราก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไร เราไปเดินดูรอบๆ เมือง หรือไปเที่ยว Dubai Mall อะไรอย่างงี้ ไม่ซื้ออะไรก็ไปเที่ยวได้ก็เสียแค่ค่ารถไฟไม่กี่บาท ซึ่งมันไม่ได้จำเป็นต้องใช้อะไรขนาดนั้น แต่ถ้าเกิดว่าคนที่ชอบช้อปปิ้งอะไรงี้ ก็ไม่ต่างกับที่ไทยหรอกครับราคาของ แต่เผลอๆ ถูกกว่าที่ไทยอีกด้วย พวกเทคโนโลยีพวกไอทีต่างๆ ส่วนใหญ่จะราคาถูกกว่าที่ไทย
York Institute: ก็เรียกได้ว่าจริงๆ มันก็ไม่ได้แพงอย่างที่เราคิดไว้นะ คนก็คิดว่าดูไบจะต้องมีแต่เศรษฐีทุกอย่างมันจะต้องแพง over แน่ๆ เลย จริงๆ แล้วมันก็ อาจจะสูงกว่าเมืองไทยนิดนึงนะ ไม่ได้แบบว่าเยอะเท่าไรนะคะ แล้วถามเรื่องที่พักนิดนึงปกตินักเรียนไทยที่นั่น เวลาเค้าหาที่พัก ส่วนมากจะพักแบบไหน ราคาประมาณเท่าไรเอ่ย
ES Dubai : ที่พักถ้านักเรียนที่มาตอนแรก หลายๆ คนจะซื้อมากับแพคเกจอย่างงี้ ก็จะเป็นที่พักของทางมหาวิทยาลัย Middlesex หรือของหอพัก Uninest ซึ่งตรงนั้นจะเป็นที่พักสำหรับนักเรียนนักศึกษาอย่างเดียว ถ้าที่ Uninest มันก็จะแพงหน่อย ค่าห้องถ้าอยู่กัน 2 สองคนก็จะประมาณ US$ 200 / สัปดาห์ ส่วนที่ Middlesex จะอยู่ห้องนึง 3 คนก็จะ อยู่ที่ประมาณ US$ 110 หรือ US$ 120 ต่อสัปดาห์นี่ครับ ตกเดือนนึงก็ประมาณ หมื่นกว่าบาท หมื่นสอง หมื่นสาม ซึ่งก็ถามว่าแพงไหมก็ถือว่าไม่ได้แพงครับ แต่ถ้า Uninest ก็ค่อนข้างแพงหน่อย
แต่ส่วนใหญ่นักเรียนอยู่กันได้ 2 อาทิตย์แรก ก็จะย้ายเข้ามาพักอยู่ในเมือง ซึ่งแถวๆ ในเมืองก็จะอยู่ที่ประมาณหมื่นต้นๆ เหมือนกันแต่ก็จะห้องนึงสามคน ห้องนึงห้าคนอย่างงี้ แล้วแต่ว่า เราหาแบบไหนไหน ผมก็ลืมให้ดูบรรยากาศด้านนอกโรงเรียนด้วย เดี๋ยวให้ดูบรรยากาศด้านนอกโรงเรียนนิดนึง (พาเดินไปดูบรรยากาศด้านนอก) ค่าใช้จ่ายจะประมาณนั้นนะ ถือว่าไม่แพงครับ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วคนก็จะอยู่เป็นห้องรวมๆ กันอย่างงี้ใช่มั้ยครับ มันก็จะราคาไม่สูงมาก
อันนี้เป็นบรรยกาศด้านนอกอันนี้อีกฝั่งนึงนะ ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นตึกทั้งหมดเลย พาไปดู โรงเรียนเราก็จะอยู่ในตึกออฟฟิศนะ ชั้นนี้เกือบทั้งชั้นก็เป็นของโรงเรียนเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือแค่สองออฟฟิศฝั่งตรงข้ามที่เป็นของคนอื่น นี่ประมาณนี้จะเป็นตึกสูงๆ หมดเลย วิวก็จะประมาณนี้ ผลก็พักอยู่แถวนี้ฝั่งตรงข้างนี้ครับ นักเรียนส่วนมากก็พักอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้แหละ
York Institute: แสดงว่านักเรียนส่วนมากก็เลือกพักเป็นห้องรวมมากกว่าเนอะ
ES Dubai : ส่วนใหญ่เค้าก็จะหาเพื่อนไปเช่าอยู่ด้วยกัน หรือไม่ก็เป็น bed space อยู่ด้วยกัน คือมันจะมีเป็นสองแบบคือเช่าเป็นห้องนอนหรือเช่าเตียงนอน ถ้าเช่าเตียงนอนเราก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่กับใครบ้าง แต่ถ้าเป็นห้องนอนมีเพื่อนไปด้วยก็ได้อยู่ด้วยกัน แต่ขอเค้าว่าเช่าเป็นเตียงไป มันก็จะเชฟหน่อยตรงที่ว่าถ้าเพื่อนเรากลับก่อน เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบค่าห้องไง เราจะรับผิดชอบแค่ค่าเตียงของเรา
York Institute: ทีนี่เรามาถามเรื่องการเดินทางบ้างดีกว่า ว่าปกติคนส่วนใหญ่ที่ดูไบเค้ามักจะเดินทางแบบไหนกันแล้วก็ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณเท่าไร
ES Dubai : ส่วนใหญ่แล้วก็ใช้ ถ้าเป็นที่พักของทางโรงเรียนจัดหาให้จะมีรถรับส่งให้อยู่แล้ว ถ้าอยู่ด้านนอกเองส่วนใหญ่เค้าจะใช้เป็นรถไฟฟ้ากัน ซึ่งรถไฟฟ้ามันจะสะดวกอย่างนึง บัตรที่เราใช้สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ รถรางได้ รถเมล์ได้ เราแค่เติมเงินเข้าไปในบัตรเฉยๆ ก็ค่อนข้างสะดวกครับในการเดินทาง เพราะจุดหลักๆ จะมีรถไฟฟ้า รถเมล์เข้าถึงหมด
York Institute : ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยนะ ระบบการขนส่งสาธารณะของดูไบค่อนข้างดีเลย แล้วก็สะดวกสบาย นักเรียนถ้าไปก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ไม่ลำบากแน่นอน แล้วเรื่องอาหารการกินล่ะคะ ที่นี่เค้ามีอาหารอะไร มีอาหารไทยไหม
ES Dubai : อาหารการกินหลายคนถามผมมาเยอะเหมือนกันว่าถ้าหนูมาอยู่นี่ หนูจะมีหมูกินไหม ความที่เป็นเมืองอิสลามอ่ะนะ หนูจะมีหมูกินไหม มีครับมีขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ครับ เค้าจะมี Zone Non-Muslim สำหรับคนที่ไม่ใช่มุสลิมถึงจะซื้อทานได้ ก็อาหารการกินโดยส่วนใหญ่ทั่วไปก็จะหลากหลายด้วยความที่ตัวดูไบเองเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้วนะ เราก็จะหาอาหารทานได้หลากหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์ยุโรป อาหารบ้านเรา หรืออาหารอาหรับเองนะก็มีหมดทุกแบบ หรือพวกฟาสต์ฟู้ดทั่วไปพวก KFC , McDonald มีหมดครับ ซึ่งไม่ลำบากกับการทานเท่าไรเพราะว่าของกินมีให้เลือกเยอะหลากหลาย
York Institute : เรียกว่าหลากหลายมา มาไม่อดตายแน่นอน มีกินแน่นอนนะคะ มาถึงเรื่องการทำงานกัน น้องๆ ถามกันมาเยอะมากถึงเรื่องการทำงาน เพราะว่าที่ดูไบตามกฎหมายแล้วนักเรียนสามารถทำงาน part-time ได้ ทีนี่อยากถามนิดนึงว่าส่วนใหญ่น้องๆ ที่ไปกันเค้าทำงานอะไรกันคะ ส่วนใหญ่มีงานอะไรพวกงาน part-time
ES Dubai: ส่วนใหญ่แล้วนี่ งาน part-time ที่นี่จะหางานยากกว่า full time ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องบอกนักเรียนทุกคนว่า หลายๆ คนคิดว่ามาทำงาน part-time แล้วก็กลับบ้าน จริงๆ แล้วดูไบนี่อยากให้มองภาพไกลนิดนึงคือ มันแตกต่างจากที่อื่น เพราะว่าเราทำงานประจำได้ อย่างตัวผมนี่ ผมก็มาเรียนแล้วก็ได้งานประจำทำ แล้วก็เพื่อนผมที่มาเรียนพร้อมๆ กันก็ได้งานประจำทำ แล้วก็น้องอีกหลายๆคนที่มาเรียนที่นี่ก็ได้งานประจำทำกัน
ส่วนงาน part-time ถามผมว่าได้ชั่วโมงเท่าไร ก็อาจจะไม่เยอะมากครับ 200 – 400 บาท ประมาณนั้นครับ โดยพื้นฐานเนอะ งานก็อาจจะเป็นร้านอาหารไทยที่ผลพอติดต่อได้ หรือว่า shop ที่เค้าเปิดอยู่ที่ Beach ที่ชายนะครับ ซึ่งตรงนั้นก็เป็นช่วงเวลาจำกัด ช่วง High season น่ะครับเค้าถึงจะรับนักเรียนหรือพนักงาน part-time น่ะครับ
ส่วนงาน Full-time อย่างน้องหลายๆ คนที่มาเรียน ก็ได้เป็นงานโรงแรมซะส่วนใหญ่อะนะ งานโรงแรมเครดิตมันจะดีอย่างนึง ถ้าเกิดว่าเราทำงานที่ดูไบ อย่างน้อยเราก็ไปอัพเกรดโปรไฟล์ตัวเองได้ว่าเคยมาทำงานที่นี่นะ เพราะสัญญาต่ำๆ ที่ดูไบอย่างน้อยก็ 2 ปี ซึ่งสวัสดิการ เค้ามีอาหารให้ มีรถรับส่ง มีที่พักให้ ทำวีซ่าให้ แล้วก็มีส่วนลดต่างๆ ของทางโรงแรมให้ ซึ่งเงินเดือนอาจจะไม่ได้เยอะมาก อาจจะสองหมื่นกว่าถึงสามหมื่นกว่า ในระดับเริ่มต้น แต่ว่าเค้าให้ทุกอย่างแล้วนะครับเราจะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรอีกถูกมั้ยอ่ะ ซึ่งสองสามหมื่นบาทเราก็ก็เก็บไว้ได้เลย ที่พูดถึงนี่คือระดับเริ่มต้นนะครับ แล้วเราสามารถต่อยอดเพิ่มขึ้นไปได้อีก บางคนมาก็เป็นพนักงานเสิร์ฟบ้างเป็นเชฟบ้าง พ่อครัวบ้าง รีเซฟชั่นบ้าง หลายๆ คนก็ได้งานทำ
York Institute : แล้วปกติงาน full time นี่ งานหายากไหมคะ
ES Dubai: งานหายากไหม ผมว่ามันอยู่ที่ความตั้งใจของเรามากกว่า คำว่าหายากของเรามันระดับไหน ถ้าเกิดบางคนมาหาสองสามที่ไม่ได้ ไม่เอาแระ ไม่เรียกว่าหายากครับ มันเรียกว่าไม่เอาแล้วไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าเกิดว่าลองหาสักมากว่าสามสี่ที่ขึ้นไป มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถหรอก เท่าที่ผมเห็นมานะ น้องนักเรียนหลายๆ คนที่ตั้งใจหาจริงๆ นะครับ ส่วนมากก็จะได้งานทำกันทั้งนั้น ซึ่งผมมองว่าก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น ก็เหมือน หางานที่บ้านเรานะครับ ถามว่ายากไหม มันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้นอยู่ที่เราตั้งใจหาขนาดไหน
York Institute : ก็ถือว่าความยากงาน คือปกติถูกมะ ก็เหมือนเวลาที่เราหางานทำที่ไทยนี่แหละนะ
ES Dubai: ใช่ ถามว่ายากไหม มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น ถามว่าง่ายมั้ย มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเนอะ เราก็ต้องพยายามนิดนึง แต่ว่าโดยตัวโรงเรียนเอง ก็มีส่วนช่วยในการให้นักเรียนหางาน เราจะมีเจ้าหน้าที่คนนึงที่คอยดูว่ามีตรงไหนที่เค้ารับพนักงานไหม หรือว่าที่เปิดรับสมัครบ้าง เค้าก็จะเอาตรงนี้ลงในกลุ่มของนักเรียนที่เรียนที่ ES Dubai แล้วก็จะให้นักเรียนไปสัมภาษณ์เอง เราก็จะไกด์ไลน์ให้ว่าตรงนั้นมีเปิดนะ ตรงนี้มีนะ หรือบางที่โรงแรมเค้าก็มารับสมัครที่โรงเรียนเองเลย ก็มี คือบริษัทเราติดต่อไป เค้าก็มาสัมภาษณ์ที่โรงเรียน ถ้าถูกใจใครเค้าก็รับทำงานกับบริษัท
York Institute : ถือว่าโรงเรียนเองก็มีส่วนในการ support นักเรียนอีกทีนึงนะคะ ไม่ได้แบบว่าให้ไปหาเองอย่างเดียว อย่างน้อยก็มีช่วยเหลือ
ES Dubai: ใช่ครับ ผมมั่นใจว่าหลายๆ โรงเรียนคงไม่ทำเหมือนโรงเรียนเรา เพราะมันเป็นเรื่องของนักเรียนแล้ว แต่เราก็พยายาม support ให้นักเรียนเราอย่างเต็มที่ครับ ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าเราไม่ได้เป็นแค่โรงเรียนเฉยๆ เราเป็นเหมือนครอบครัวกันมากกว่า คือเราพยายาม support ทุกคนเท่าที่เราทำได้นะครับ
York Institute : โอเค ที่นี่ก็มีอีกคำถามนึงเหมือนกันที่น้องถามมาเยอะมาก ด้วยความที่ดูไบเป็นประเทศแขกอ่ะนะ มีกฎหมายค่อนข้างแรง น้องบางคนก็ถามมาว่าเค้ามีห้ามในเรื่องของการแต่งตัวไหมว่าแต่งได้ประมาณไหน อะไรที่ไม่ควรใส่เลย
ES Dubai: จริงๆ มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเรื่องการแต่งตัว เราแต่งตัวธรรมดาเหมือนอยู่บ้านเราได้ แต่ว่าไม่ต้องถึงกับโป๊เกินไป ถามว่าแต่งได้ไหม มันก็แต่งได้แหละแต่มันก็ไม่เหมาะเท่าไร คนก็จะมองเราเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าน้องไปชายหาดไปทะเล โอเคเต็มที่เลยบีกินนี่ได้หมด ไม่เป็นไรมันเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ว่าเค้าก็จะมีโซนน่ะครับ เค้าจะไม่ให้ใส่บีกินนี่ขึ้นเกินหาดขึ้นไปเค้าจะห้าม จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูอยู่ ถ้าเกินใส่อยู่ในหาดไม่เป็นไรตรงนั้นเป็นพื้นที่ของคุณ ส่วนการแต่งตัวด้านนอกก็แต่งตัวตามปกติ เค้าก็ไม่ได้ฟิกอะไรมากมาย
York Institute : คือจะใส่อะไรมันก็ต้องอยู่ในขอบเขตอยู่ในกาละเทศะนะคะ ก็เราก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะผิดกฎหมายอะไรมั้ย เพราะเค้าก็ค่อนข้างเสรี เหมือนกันบ้านเรา แต่เราก็ต้องดูเรื่องของความเหมาะสมเป็นหลักนะคะ
ES Dubai : ใช่ๆ ต้องมีความเหมาะสมดีกว่า
York Institute : เคยได้ยินว่าที่ดูไบ 80% ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ อันนี้จริงไหมคะ
ES Dubai : ใช่ครับ จริงๆ แล้วเกิน 80% ครับ ที่เคยได้ยินมาคน Local น่ะครับมีแค่ 8% เฉพาะในตัวดูไบนะครับ ส่วนที่เหลือจะเป็นชาวต่างชาติ
York Institute : ส่วนมากมาจากประเทศอะไรน่ะคะ
ES Dubai : ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเองก็มาจากทางยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ทางอังกฤษ ทางฝรั่งเศส อิตาลี ประมาณนั้น นักท่องเที่ยวอ่ะนะ แต่ถ้าเกิดคนที่มาทำงานจะเป็นอินเดียค่อนข้างเยอะ แต่ก็มี อย่างโรงเรียนเองเชื้อชาติจะหลากหลายมากมีตุรกี โคลัมเบีย บราซิล มีคาชัคสถาน มีปาเลนสไตล์ เราก็จะแยกกันไปแต่ละคนก็จะรับผิดชอบดูแลแต่ละประเทศของตนเอง มั่นใจได้เลยว่าโรงเรียนเราพูดได้หลายภาษามาก เพราะมีสตาฟหลายภาษา
York Institute : ใช่มะ ด้วยความว่ามีต่างชาติเยอะ ก็ถือว่าดีเหมือนกันนะ ที่มีคนคอย support นักเรียนของชาตินั้นๆ อยู่
ES Dubai : ใช่ครับ
York Institute : ทีนี่มาถามเรื่องอากาศดีกว่า จะบอกว่าอากาศเป็นเรื่องที่เด็กไทยทุกคนกังวลมากว่า จริงๆ ดูไบ มันร้อนขนาดไหน ร้อนทั้งปีเลยหรือเปล่าคะ
ES Dubai : จริงๆ แล้ว มันก็ร้อนพอๆ กับที่ไทยอ่ะนะ ก็ร้อนอ่ะนะ ฮ่าๆๆ ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ร้อนแบบนั้นทั้งปีน่ะค่ะ ปีนึงจะร้อนแบบนั้นแค่ 3 เดือน เต็มที่เลย 3 เดือน แล้วก็หลังจากนั้นก็จะเป็นอากาศธรรมดา แล้วก็อากาศหน้าหนาว หน้าหนาวก็ช่วงตุลา เป็นต้นไปครับ ปีนี้ถึงพฤษภาก็ยังเย็นๆ อยู่นะครับ ก็ค่อนข้างนาน ก็ประมาณ หนาว 6 เดือน ร้อน 6 เดือน ร้อนก็อย่างที่บอกว่าจะมีช่วงพีคๆ แค่ 3 เดือน เราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้านนอกอยู่แล้วนะครับ โดยปกติทั่วไปก็อยู่ในออฟฟิศ ในโรงเรียน หรือว่าไปห้างก็เดินตากแดดนิดหน่อยก็ขึ้นรถไฟฟ้าแระ พอขึ้นรถไฟฟ้า ทางเชื่อมเค้าก็เชื่อมจากสถานีเข้าห้างเลย ก็ไม่ต้องเดินตากแดดอีก มันไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กลางแดดทุกวันขนาดนั้นนะครับ จริงๆ แล้วมันก็ข้างนอกมันร้อน แต่เราก็ไม่ได้อยู่ข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าให้แนะนำก็มาหน้าหนาวอากาศดีมากช่วงหน้าหนาว ก็ช่วงกันยาไป ตุลาก็ ควรจะลงทะเบียนไว้ตอนนี้ได้แล้วครับ ฮ่าๆๆแล้วก็รอเรียนเลย รอไปเที่ยวเลย
York Institute : หน้าหนาวอากาศเย็นนี่สักประมาณกี่องศาน่ะค่ะ
ES Dubai : ถ้ากลางวันก็ 20 ต้นๆ ประมาณ 20 – 25 ประมาณนี้ครับแต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืนบางวันอาจจะมีถึง 10 หน่อยๆ ที่ผมเคยเจอมาก็ 11 เพราะว่าที่ดูไบจะไม่ได้หนาวอย่างเดียว มันจะมีลมด้วย ก็จะหนาวลม
York Institute : ก็หนาวกว่าเมืองไทยอีกนะคะ
ES Dubai : ครับก็พอสมควร ก็จะเป็นอยู่อย่างนั้นพีคๆ ก็ 3 เดือนเหมือนหน้าร้อน แต่ที่เหลือก็จะเป็นอากาศสบายๆ ไม่ร้อนไม่หนาว
York Institute : เพราะฉะนั้น น้องๆ คะ ดูไบไม่ได้ร้อนอย่างเดียวนะคะ เค้าก็จะมีหน้าหนาวด้วย มีช่วงอากาศสบายบ้าง
ES Dubai : ใช่ ช่วงหนาว หนาวมากด้วยครับ
York Institute : เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องอากาศร้อนนะ ก็จะมี option เสริมให้ ไม่ได้เดินตากแดดตลอดเวลา ทีนี่ก็อยากให้นุ๊กฝากถึงน้องๆ ที่กำลังดูอยู่ว่าเอ จะมาดูไบดีไหม ไหนช่วยพูดอะไรนิดนึง
ES Dubai : คือหลายๆ คนจะมีปัญหาเรื่องการไปต่างประเทศเรื่อง statement ถูกมั้ยครับ แต่ของเราไม่ใช้ statement แล้วก็วีซ่ารับรองว่าผ่าน 100% ตั้งแต่เปิดเรียนมานักเรียนมาเป็นพันๆ คนแล้วก็โดน Reject แค่ 2 คนเท่านั้นเองเพราะว่าเค้าติดแบล็คลิสที่ดูไบทำให้วีซ่าโดน Reject แต่ก็ไม่ใช่นักเรียนไทยเป็นนักเรียนต่างชาติ แต่ถ้าถามว่าทำไมต้องมาเรียนที่นี่เหรอ ที่ดูไบใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้วครับ ภาษาอารบิก คือเป็นทางราชการ แต่ทางราชการเค้าก็จะมีภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย ก็คือในหนังสือเล่มนึงจะมีทั้งสองเวอร์ชั่นอังกฤษ กับอารบิก แล้วก็การสื่อสารการเดินไปเที่ยวต่างๆ ในดูไบจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักครับ รับรองได้ว่าได้ใช้ภาษาอังกฤษแน่นอน
แล้วก็ดูไบเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวอย่างอย่างนึงด้วยคือที่อื่นอาจจะไม่สามารถทำ full time ได้ อาจจะไม่ได้ลงไปในลายลักษณ์อักษรลงไปในคอมได้ว่าเราเคยทำงานมา แต่ที่ดูไบสามารถทำงานประจำที่นี่ได้แล้วก็เอาไปอัพเกรดให้กับตัวเองว่าเราเคยไปทำงานต่างประเทศมา หรือใครจะเอาไปต่อยอดก็ได้หรือบางคนพอได้ทำงานรู้จักคนเยอะขึ้นเค้าก็เปลี่ยนงานไปจากพนักงานโรงแรม ไปเป็นเซลล์ขายพรอพเพอร์ตี้ ขายอสังหาฯ เงินมันก็เพิ่มขึ้นไปอีก อันนี้จะเป็นการต่อยอดแต่ของแต่ละคนเค้าก็อาจจะไม่เหมือนกัน อันนี้ผมยกตัวอย่างให้ฟังจากเคสที่เจอ
York Institute : ถือว่าเป็นโรงเรียนที่น่าไปเรียนเนอะ ทั้งคุณภาพการเรียนการสอนก็ดี ค่าใช้จ่ายไม่แพง ไม่ต้องกังวลเรื่องของ statement ด้วย
ES Dubai : ใช่ครับ อย่างน้องป๊อปที่มาจากทาง York น้องป๊อปก็ยังไปๆ มาๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้น่ะครับ น้องเรียนจบก็ยังกลับไปกลับมาดูไบบ้างตลอดเลย
York Institute : ใช่ๆ คือเรามี feedback จากน้องๆ ที่ไปค่อนข้างดี ว่าโรงเรียนดี โรงเรียนสวย
ES Dubai : อีกคนน้องต่อ ทุกวันนี้ก็ทักมาหาพี่นุ๊กเป็นไงบ้าง คิดถึงดูไบอยากกลับมาแล้ว ฮ่าๆ
York Institute : เป็นประเทศที่ใครไป แล้วก็ประทับใจอยากกลับไปอีกทั้งนั้นเลย จาก Feedback ของน้องๆ ที่ทาง York ส่งไป
ES Dubai : สำหรับใครที่จะมาเรียน อย่าลืมนะ ติดต่อ York ได้เลย ลงทะเบียนไว้ก่อนเลย ช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่ ติดต่อสอบถามกับทาง York ได้เลย ว่ามีโปรอะไรบ้าง
York Institute : อันนี้คือถ้าน้องๆ คนไหนสนใจพี่ทำราคาส่งให้เลย ตอนนี้มีโปรโมชั่นเป็นแพคเกจอยู่สามารถทำราคาส่งให้ได้เลยค่ะ ทีนี่ก็ต้องขอบคุณนุ๊กมากเลยที่พาทัวร์โรงเรียน แล้วก็พูดคุยกับเรา แนะนำในเรื่องการเรียนต่อที่ดูไบ มีประโยชน์มากๆ เลย โอเค ขอบคุณมากนะคะ แล้วก็เดี๋ยววันหลังรบกวนอีกค่ะ
ES Dubai : ได้ครับยินดีเลย สำหรับวันนี้ก็ใครสนใจติดต่อพี่เกลได้เลยครับ
York Institute : ค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ วันนี้เรา Live กับเกือบชั่วโมงเลย ขอบคุณนุ๊กมากค่ะ สวัสดีค่ะ
ES Dubai : ครับพี่เกลครับ สวัสดีครับ
หากน้องๆ สนใจเรียนภาษาอังกฤษ๋ที่ดูไบ กับสถาบันคุณภาพ ES Dubai สอบถามพี่ๆ ที่ York Institute ได้เลยนะคะ