Blogs
(ตอน 1) คุณบิ๋ม Senior Marketing Manager จาก Le Cordon Bleu live สดแนะนำหลักสูตรทั้งทำอาหาร, ทำขนม และ Scholarship
วันนี้คุณบิ๋มมาแนะนำทุกหลักสูตรที่ได้รับความนิยม แบบลงลึกในรายละเอียด ในแคมปัสที่ได้รับความนิยมจากนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย (ที่ขอวีซ่าเพื่อนทำงานต่อได้สูงสุด 18 เดือน), ฝรั่งเศส, นิวซีแลนด์ และอังกฤษ และตอบทุกคำถามของน้องๆ คลิกที่ภาพเพื่อฟังสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ (หรือจะอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างก็ได้ค่ะ)
York: สวัสดีค่ะ พี่เกลจาก York นะคะ วันนี้ตามที่เราได้บอกกันเลยว่าวันนี้เรียนต่อด้านการทำอาหาร แล้วก็วันนี้นะคะ เรามีแขกรับเชิญพิเศษค่ะ ที่จะมาให้ข้อมูลกับเราในวันนี้ค่ะ เป็นเจ้าหน้าที่จาก Le Cordon Bleu เลยค่ะ สวัสดีค่ะคุณบิ่ม
Le Cordon Bleu : สวัสดีค่ะ คุณเกล
York: ค่ะ เดี๋ยวให้คุณบิ๋มช่วยแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ
Le Cordon Bleu : ชื่อสุภาพิศ นะคะเป็นเจ้าหน้าที่ของ Le cordon Bleu International ค่ะ ทำหน้าที่ในการช่วยน้องๆ นักเรียนทุกท่านที่มีความสนใจ อยากเรียนในสาขาสายอาหารและก็อยากจะมาเรียนกับเรา ไม่ว่าจะเป็นแคมปัสในเมืองไทยหรือว่าที่ Pairs หรือว่าที่ London หรือว่าที่ออสเตรเลียก็สามารถติดเราเข้ามาได้เลยนะคะ
York: เดี๋ยวขอมอบหน้าที่ให้คุณบิ๋มพรีเซ้นต์โรงเรียนค่ะ
Le Cordon Bleu : โอเค อันดับแรกเลยขออนุญาตพรีเซ้นต์นะคะ ว่าโรงเรียนเรานี่มีอะไรบ้าง และทำไมนักเรียนถึงต้องมาเรียนกับเรา แล้วก็เรียนแล้วจะได้อะไรบ้าง เดี๋ยวในคลิปนี้ทั้งคลิปจะบอกตอบโจทย์ทุกท่านได้เลยนะคะ
ขออนุญาตแนะนำก่อนนะคะว่า Le Cordon Bleu เป็นโรงเรียนทำอาหารที่เก่าแก่ จะว่าไปก็เป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้นะคะ จากวันที่เริ่มต้นเปิดโรงเรียนมาจนถึงทุกวันนี้นี่ รวมระยะเวลา 125 ปีแล้ว และเราก็สอนนักเรียนในการทำอาหารฝรั่งเศสอย่างเดียวนะคะ เมนูนะคะและก็เทคนิคต่างๆ นี่ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัยนะคะในแต่ละช่วงเวลามาตลอดจนถึง ณ ปัจจุบันนี้นะคะ ก็จะมีทั้งอาหารคาว
หลักๆ ที่เราสอนก็คืออาหารคาว กับอาหารหวานเป็น Patisserie โปรแกรมภาษาฝรั่งเศส เราจะใช้คำว่า Diplome De Cuisine กับ Diplome De Patisserie นะคะ Cuisine ก็คืออาหารคาว และ Patisserie ก็คืออาหารหวานนะคะ ตามหลักสูตรที่เป็นตัว Signature Program ของเราคือเรียนประมาณ 9 เดือนก็จบแล้วอ่ะ นักเรียนก็สามารถ Create อาหารได้อย่างสวยสดงดงามแล้วนะคะ ถามว่าเรียนอะไร เรียนเทคนิคในการทำอาหารค่ะ ไอ่ตัวเทคนิคเนี้ย เราสอนเทคนิคว่าทำอย่างไร โดยใช้ Recipe อาหารฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นเวลาจบมามันไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอาหารฝรั่งเศสตลอดเวลา แต่เราสามารถนำเทคนิคที่เราเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้ค่ะ มาใช้กับ Cuisine หลายๆ Cuisine ทั่วโลกได้เลย เพราะว่าเทคนิคที่เราสอนมันเป็นภาษากลางในการทำอาหาร เราสามารถมาอะแดปในการทำอาหารต่างๆ ทั่วโลกได้เลย เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็น Benefit กับโรงเรียนมากๆ คือเราไม่ได้สอนจะต้องทำแบบนี้ จะต้องตามแบบนี้ ใช่เราทำแบบนี้เรียนแบบนี้จริง เราสามารถ adap ได้เลยกับ ingredients ในพื้นที่ต่างๆ ได้เลย
นอกจากนั้นนักเรียนยังได้เรียนเป็นพวกแบบว่า Term Culinary arts vocabulary อย่างเคยดูในรายการ Masterchef ใช่ไหม ศัพท์บางศัพท์คำบางคำที่เค้าพูดบางคนร้องว่าอะไรทำไมไม่เคยได้ยินเลย ถ้าคนที่ไม่ได้อยู่ใน industry นี้จะไม่เข้าใจ แต่ว่ามาที่โรงเรียนก็จะรู้หมดเลย
ทีนี่เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า โรงเรียนสอนอะไรบ้างนะคะ ขอเริ่มแนะนำเลยตัว Cuisine ตัว cuisine นี่นักเรียนจะเรียนอะไรบ้างก็จะเป็นอาหารคาวอาหารคาวเองก็จะมีเรียนหลากหลายเลย เรียนเทคนิคในการทำอาหาร ถ้าเป็น standard Program เลยนักเรียนจะเรียนแค่ 9 เดือน อันนี้คือสิ่งที่นักเรียนจะได้คือ เทคนิคในการหั่น นึ่ง ต้ม ทอด นู้น นี่ นั่น สมมุติเรามีไก่อยู่ตัวนึงแล้วเราต้องการที่จะย่างอบ มันก็จะมีเทคนิคในการต้องผูกยังไงต้องเทิร์นยังไงใช้กี่นาทีเพื่อที่ไก่ของเราข้างนอกจะเป็น crispy และข้างในจะเป็น Juicy อยู่ในนั้น ไม่งั้นบางทีเรารู้สึกว่าเฮ้ย มีไก่อยากจะอบโยนเข้าไปในเตาอบทีเดียวเลย เป็นไงคะ ข้างนอกมันเป็นเบิร์นมันก็ไหม้ ข้างในก็ไม่สุกอย่างงี้มันก็ไม่ได้ อย่างถ้าจะทำปลาทำยังไง มีปลาอยู่ตัวนึงเลาะเนื้อออก เอาเนื้อไปอบ ต้ม ทอด นึ่ง แล้วกระดูกมันจะทำยังไง กระดูกเชฟก็จะเอาไปต้มเคี่ยวน้ำสองสามนาที ไม่ใช่สองสามนาที เคี่ยว 3-4 ชั่วโมงกลายเป็นน้ำสต็อก มันจะมีเทคนิคในการทำอาหารเยอะมากเลยค่ะ ก็รู้อยู่แล้วก็เทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศส อาหารเค้าแบบทีละนิดทีละหน่อยกว่าจะกินจบครบสิบคอร์ส อะไรงี้ ก็แบบค่อนข้างเยอะ แล้วก็ดีเทลในการของการทำค่อนข้างเยอะกว่าจะออกมาสวยงามและดูเรียบหรู ดูอร่อยขนาดนั้นประมาณนี้ นั่นคืออาหารคาว
แล้วบอกคนก็ถามว่าทำโรงเรียนราคาค่อนข้างสูงจังเลย บอกได้เลยว่า ingredients ที่เราเอามาใช้ในการประกอบอาหาร มันจะเป็น ingredients ที่ราคาค่อนข้างแพงเราจะไม่ใช่วัตถุดิบที่ราคาถูกเลย ถ้าในแคมปัสที่ไทย ก็จะใช้เป็นพวก S-pure พวกของโครงการหลวงอะไรงี้ค่ะ อย่างถ้าเป็น Patisserie เป็นอาหารเป็นขนมนู้นนี่นั่น อย่างเนยเราจะ import มาจากฝรั่งเศสเลย ประมาณนี้ เพราะฉะนั้นราคาค่าเล่าเรียนที่นักเรียน เรียนไปมันรวม ingredients รวมพวกนี้อยู่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินสวยๆ ไปที่โรงเรียนเลย แล้วพอไปถึงโรงเรียนเปลี่ยนชุดแล้วถึงจะลงครัวกัน นั่นคืออาหารคาว
พอมาดูอาหารหวานนะคะ ก็จะใช้คำว่า Patisserie ถ้าเรียนจบตัวนี้ 9 เดือนตามตัว Standard Program เราจะเรียนว่า Diplome De Patisserie นะคะ คราวนี้เรียนอะไรบ้าง เรียนทำขนมเค้ก ช็อกโกแลต นู้นนี่นั่น แต่สิ่งที่สอนจริงๆ คือเทคนิคในการทำ เทคนิคในการทำคืออะไร อย่างเห็นได้ว่าหลายๆ โรงเรียนอาจจะไม่มีการสอนเรื่องการทำ Chocolate work, sugar work ภาพที่เห็นเป็นงานช็อกโกแลต จะเห็นว่ามันสวยมาก มันใช้เทคนิค อันนี้เป็นงานของนักเรียนนะคะ นักเรียนเรียนแบบนี้ เรียนเหมือนกันใช้เทคนิคเดียวกัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็คือสามารถทำได้เหมือนกัน บอกได้เลยว่ามา 9 เดือนสามารถทำแบบนี้ได้ อันนี้เป็นงานช็อกโกแลต เห็นไหมคะทุกคนทำได้เหมือนกันหมดเลย ดอกไม้เป็นรูปช็อกโกแลตเห็นไหมคะ ตัวเบสตัวถาดของมันอะไรงี้ เทคนิคเดียวกัน เพราะฉะนั้นน้องๆ ที่มาเรียนกับเรา 9 เดือนก็สามารถทำได้อย่างงี้เหมือนกัน ที่รุ่นพี่เค้าทำกันเหมือนกัน
ที่เมืองไทยเราก็มีรุ่นพี่ Celeb หลายคนนะ อย่างคุณโย่ง อาร์มแชร์ คุณพล ตันฑสเถียร ที่ผันจากดาราตอนนี้มาเป็นกูรู ไปแล้วด้วยความที่เค้าชอบและเค้าศึกษามากอะไรอย่างงี้น่ะค่ะ เรียนตรงนี้แล้วก็ไป on top อย่างอื่นแล้วมันจะง่ายขึ้นนะคะ อันนี้จะเป็นงานช็อกโกแลต อันนี้เป็นงานน้ำตาลของนักเรียนนะคะ บางคนอาจจะเคยเห็น old fashion candy ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่เค้ามีร้านทำขนม น้ำตาลดึงยืดๆ ออกมาแล้วเค้าก็สับๆ ให้เรากินอันเล็กๆ อันนี้คล้ายกัน แต่เราเอาน้ำตาลมาขึ้นรูป ทำยังไงให้มันขึ้นรูปเป็นโบว์ ทำยังไงให้มันชึ้นรูปเป็นช็อกโกแลตจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้คือร้านหลายๆ ร้านนะเอาไอ่ตัวงานเนี้ย ที่เป็นรูๆ ฟองอากาศนี่ เอาไปตกแต่งในเค้กในนั่น ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้เลยตรงนี้ว่าเค้าเอาเทคนิคไปปรับไปตกแต่งเค้ก ไปทำงานต่อได้เลยอ่ะ ก็จะเป็นงานน้ำตาลดูการให้สีให้อะไรค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
ต่อมาก็คือ Grand Diplome คือเรียนทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน เรียน 2 ตัวเราก็จะให้ Grand Diplome ก็คือเป็น Certificate ที่ recognize กับในธุรกิจสายนี้ เค้าจะรู้จัก Grand Diplome ว่าเด็กคนนี้เรียนทั้ง 2 โปรแกรมของเราเลยนะอะไรอย่างงี้ คราวนี้ตัว structure ในการเรียนก็จะเรียน 9 เดือน เรียน 9 เดือนจบแระกลับบ้านเลยในทุกๆ ที่ อย่างทำขนม บางคนยากเรียน intensive สามารถย่อได้จาก 9 เดือน เป็น 6 เดือนได้ โดยเรียน Basic 6 weeks, intermediate 6 weeks และก็ต่อ Superior อีก 3 เดือน รวมทั้งหมดนี้ 6 เดือนก็จบแล้ว สำหรับคนที่รีบเร่ง อาจจะมีร้านอาหารอยุ่แล้ว อยากรีบกลับมาเปิดร้านอาหาร อะไรอย่างงี้ค่ะ
ทีนี่ก็จะมีนักเรียนบ้างคนก็อยากได้แบบ internship ด้วย นอกจากจะเรียนทำอาหารแล้ว อยากเรียนรู้การทำงานกับคนอื่นด้วย เราก็มีตัว Internship option ให้ internship option มันจะมีอยุ่ 3 โลเคชั่นก็คือ Paris, London และก็ Australia นะคะ
มาดูอันนี้ London ก็จะต้องเลือกเรียนตัวใดตัวนึงในนี้ แล้วต่อด้วย Diploma in Culinary Arts Management 3 เดือน ก็จะได้ internship อีก 3 เดือน ถ้าอยาก internship ใน London UK วีซ่าเป็นยังไงคะ เรียน 1 ปีถึงจะมีสิทธิ internship ถ้าเรียนต่ำกว่าปีนึงจะไม่มีสิทธิ internship ต้องลงบวกๆ กันแบบนี้ถึงจะได้ internship ก็คือที่ London ทำงานที่ไหน ทำงานตรงนี้เลยค่ะ
ต่อมา Paris ในตัว Paris ใครอยากไปเรียนที่เป็น original ที่เป็นเมืองแม่ของเราเลย ก็เรียนเหมือนแหละ Basic 3 เดือน intermediate 3 เดือน แล้วก็จะไปฝึกงานลงครัวที่ Paris 3 เดือน ถึงจะมาต่อ Superior Level แล้วไป internship ข้างนอกที่เมือง Paris ทั้งหมด จะประมาณนี้ ประมาณ 15 เดือน
ต่อมาออสเตรเลีย ในออสเตรเลียมันจะมี structure ให้เลือก ออสเตรเลียเราจะเรียกว่า Certificate III แต่เรียนเหมือนกันแหละ Diplome De Cuisine, Diplompe De Patisserie เรียน 9 เดือนก็คือ Basic 3 เดือน, Intermediate 3 เดือน, Superior 3 เดือน 9 เดือนนี่เรียนในแคมปัสเลย จะเลือกที่ไหนก็ได้ Brisbane, Melbourne, Sydney หรืออยากเรียนที่ Adelaide ก็ได้ก็มีเหมือนกัน แล้วหลังจากเรียนตรงนี้จบปุ๊ป มาต่อทำงานอีก 6 เดือน
น้องๆ บางคนบอกว่าพี่หนูจบ bachelor degree มาแล้ว หนูก็มาเรียนแค่ 9 เดือน แล้วก็ฝึกงาน 6 เดือนได้ไหม ได้ แต่จะให้เป็น Benefit นะ ไม่มีอะไรต้องเสีย ให้สมัครเพิ่มเป็น Advanced Diploma จะได้วีซ่ายาว แต่ถ้าน้องสมัครแต่ Certificate III เรียนจบ 15 เดือนแล้วกลับบ้านเลย ถ้าสมัคร Advanced Diploma ตัวนี้ จ่าย Deposit เช่นเดียวกันแค่ Basic Level จะได้ Visa Cover 2 ปี 3 เดือน เลย เอาไปอย่างงั้นดีกว่าจริงๆ
โรงเรียนที่ออสเตรเลียของเราเอง ไม่ได้ขอให้นักเรียนจ่ายจนจบ Advanced Diploma นะ แค่ให้จ่ายก่อนเรียนเท่านั้นเอง สมมุติเราเรียนจบ Certificate III ถ้าเราไม่อยากต่อแล้ว ก็กลับบ้านเลย แจ้งโรงเรียน Withdraw จบ แต่ถ้าเราอยากเรียนต่อ เรามีวีซ่าอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำวีซ่าอีก $AU500 ก็ไม่น้อยนะคะ ใช่มะสำหรับออสเตรเลีย แนะนำว่าถ้าจะสมัคร สมัครเป็น Advanced Diploma ไปเลยดีกว่านะคะ พอได้แล้วก็เรียนอย่างเดียวเลย อยากจะกลับก็กลับได้เลยก็แค่แจ้งโรงเรียนแค่นั้นเอง แล้วก็ internship ได้ที่ไหนบ้าง ตรงนี้เลย เป็น internship partner ที่ทำงานกับเรา รับเด็กของเราไปทำงานกับเขามามากกว่า 20 ปีแล้วนะคะ ตอนนี้ก็ยังรับอยู่
แล้วก็เรามีเรื่องของ Bachelor Degree ด้วย Bachelor Degree มีหลายที่เหมือนกัน มี 3 แคมปัสที่ offer Bachelor degree ถ้าออสเตรเลียจะเป็น International Hotel Management, International Restaurant Management คือ 2 ตัวแรก ตัวที่ 2 Culinary Arts Management และ International Hospitality Management จะเป็นที่ Paris ตัวที่ 3 ก็จะเป็น Culinary Arts and Business ก็จะเป็นที่ New Zealand ที่ Australia กับ Paris นี่ Structure การเรียนจะเหมือนกันคือ เรียน 6 เดือน ฝึกงาน 6 เดือน ปีแรก ปีที่ 2 ก็เรียน 6 เดือน ทำงาน 6 เดือน ปีที่ 3 จะเรียนอย่างเดียว อันนี้จะเป็นทั้งหมด 3 ปีใน Bachelor degree แต่ว่า ถ้าเป็นที่ New Zealand มันจะไม่มี internshipนะคะ
นักเรียนคนไหนที่อยากได้ internship ด้วย อยากได้ Bachelor ด้วย อยากได้ culinary arts ด้วยจะบอกว่าที่ Paris offer ดีมากๆ เลยนะราคาไม่ได้แพงเลย เพราะว่าที่ Paris นะเด็กนักเรียนคนไหนที่สมัครเรียน Bachelor Culinary Arts Management จะได้ลงเรียน 1 Level basic cuisine หรือ basic patisserie ที่เป็น 3 เดือนตรงนั้นอ่ะ เป็น signature program ของเมืองแม่ของเรานะ ตรงนั้นจะเรียน 3 เดือน เป็น part ของ bachelor degree ไปเลย ที่อื่นไม่มีมี Paris ที่เดียว Paris ค่าเรียนปีนึงเท่าไรรู้มั้ย 14,000 Euro ประมาณ 5 แสน ถึง 6 แสน ต่อปี ทำงานได้ด้วยเพราะฉะนั้นที่ Paris bachelor degree ถือว่าราคา reasonable เลยอ่ะ สมเหตุสมผลมากนะคะก็คือเนี้ย แล้วมันก็จ่ายเป็นปี ถูกมากๆ ลองเทียบราคาดูเรียนทำอาหาร 1 Level ก็ปาไป 11,000 Euro ก็ประมาณ 3 แสนกว่าบาทแล้ว Level เดียวนะ อันนี้ราคามันรวมอยู่ใน Tuition fee ด้วยลองพิจารณาดู ถ้าสนใจก็เดี๋ยวติดต่อเรามาได้เลยนะ
แล้วก็ต่อมา Master Degree ก็มีเหมือนกัน ก็จะมี Master International Hospitality Management ที่ Adelaide อันนี้จะมีฝึกงานด้วย Duration 2 ปี ฝึกงานครึ่งปี เพราะฉะนั้นก็จะเรียนแค่ ปีครึ่ง ส่วน Paris สำหรับคนที่อยากกลับบ้านเร็วก็จะมี MBA ที่กำลังจะเปิดใน Paris เดือน September นี้นะคะ Entry requirement โดยส่วนใหญ่หลักๆ ก็จะเป็น IELTS น่ะค่ะ เรียนทำอาหารก็ 5.5 Bachelor degree ก็ 6 แล้วก็ Master degree ก็ประมาณ 6.5 แต่ละแบรนด์
คราวนี้เรามี Scholarship ด้วย Scholarship 50% ค่ะท่านผู้ชมนะคะ ณ ตอนนี้ 50% มีอะไรบ้างและเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวขออนุญาตอธิบายให้ฟัง จะมี undergraduate certificate และ Graduate certificate ทีนี่ undergraduate certificate มีอะไรบ้าง มี Business, Event management, food and beverage management, Hospitality Financial management, Hospitality management, Hospitality Marketing, Gastronomy, Tourism management มีตั้งหลายอย่างแน่ะอันนี้ under bachelor degree ในแต่ละตัวใน Undergraduate certificate จะมี 4 วิชา เป็นวิชาเดียวกับที่ Le Cordon bleu offer bachelor degree ใน international hotel management, international restaurant management นะคะ เพราะฉะนั้นคือเรียน 4 วิชาตรงนี้ก็สามารถเก็บเป็น Credit ได้ ถ้าเราต้องการไปต่อ bachelor degree ในอนาคต
สมมุติว่าน้องอยากเรียน bachelor degree ซึ่ง bachelor degree ปีนึงของ Le Cordon Bleu ปีนึงเรียน 8 วิชา มันตกประมาณ 28,000 แต่ถ้าเรียนตรงนี้ 4 ตัวมันจะตกประมาณ 14,000 และลด 50% เหลือ 7 พันกว่าเหรียญ ได้เก็บแระ 4 ตัว ใครอยากเก็บ 8 ตัวภายในปีนึงก็ได้ ก็ลดไปเลย 50% อะไรอย่างงี้ วิธีดูนะคะ เดี๋ยวขออนุญาตคลิกไปตรงนี้นิดนึง วิธีดูค่ะ เมื่อกี้จำได้ไหมคะที่พี่บอกว่ามันมีลิสต์อะไรบ้าง ตรงนี้สามารถส่งให้ได้นะคะไม่มีปัญหา เมื่อกี้เราดู undergraduate certificate in hospitality management สมมุติเราเลือกตัวนึงวิชาที่เราเรียน เรียนอะไร Leadership, Quality, Service management, international hotel and event และก็ hospitality business and law 4 ตัวนี้แล้วเรามาดู น้องอยากเรียน Hospitality ในอนาคต ก็ถ้าเรียน 4 ตัวนี้มาก็สามารถ extension ตัวนี้ได้เลย ถ้าถามว่าเมื่อ extension มาแล้วเวลาเรียนมันจะลดลงไหม ไม่ลดค่ะ เพราะอะไร เพราะ bachelor degree ของ Le Cordon bleu มันจะเรียน 8 ตัวในเทอมแรก เทอมสองนักเรียนจะไปทำงานแล้วไม่เหมือนมหาวิทยาลัยอื่นเพราะว่ามหาวิทยาลัยอื่น 4 ตัวมันก็จะลดไป 1 เทอมเลย แต่ของเราไม่ใช่ เพราะฉะนั้น 4 ตัวที่เราเรียนมามันตัดใน semester ไหนก็จะตัดออกใน semester นั้น semester ที่ subject ยังไม่ได้เรียน เราก็ต้องเรียนใน subject ที่เหลืออยู่เพราะฉะนั้นมันก็ยังคงเป็น 3 ปี อยู่ที่นั่นทำงานได้เงินเยอะจะตายไม่ต้องรีบกลับมาหรอกเพราะว่าวิชาไหนที่เราเรียนมาแล้วเราก็ไม่ต้องเรียน เราก็จะมีเวลาว่างเราก็ไปหาตังเอา ที่นู้นนักเรียนทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อ 1 สัปดาห์อยู่แล้วหรือว่า 40 ชั่วโมง ต่อ 2 สัปดาห์ อะไรอย่างงี้ อันนี้ก็คือตัว bachelor degree ที่ได้ scholarship อยู่ในตอนนี้นะคะ ส่วนตัว graduate certificate ที่มันจะเป็น master degree เป็นเหมือนกันค่ะ ก็จะเป็น 4 วิชา วิชาพวกนี้มันก็อยู่ใน under ของ master degree ราคาเหมือนกัน scholarship 50% เหมือนกัน
ถ้าไม่มั่นใจในเรื่องของราคา มาดูราคาตรงนี้ก็ได้ อันนี้จะเป็นตัวราคานะคะ จำได้ไหมคะที่เมื่อกี้บอกว่าตัว bachelor degree ต่อปี $AU 28,000 ปี 2 $AU 26,000 และปี 3 $AU 28,000 ส่วนตัว Scholarship น่ะค่ะ มาดูตรงนี้ใน application เดียวกันมันก็จะมีราคาบอกเหมือนกัน อันนี้จะเป็นหน้า scholarship น่ะค่ะดูตรงนี้ได้เลย online program แล้วก็เลือกเลยค่ะว่าจะเรียนตัวไหน เมื่อกี้เราดู hospitality ใช่ไหมคะ คลิกตรงนี้ได้เลยค่ะ เริ่มดูตรงนี้ มี July มี October นะคะ ราคาเต็มเท่านี้ค่ะสำหรับ 4 วิชา ราคา scholarship คือตรงนี้เจ็ดพันกว่าเหรียญค่ะ ถ้าคนไหนอยากได้เยอะ ก็ลงเยอะลงเรียนให้ได้ภายในปีนี้ น่าจะได้ maximum 8 ตัว ก็จะได้ลดเหมือนปีนึง 50% เลยอ่ะ ก็ได้ลดเยอะเหมือนกัน นี่ค่ะไอเดียวคร่าวๆ สำหรับตัวนี้นะคะ
เดี๋ยวขออนุญาตเปลี่ยนสกรีนเป็นอันนี้ อันนี้คือตัวออนไลน์ล่าสุดที่ทางออสเตรเลียเค้า offer มา ตอนนี้ border มันก็ยังไม่เปิดมันยังบินไปไม่ได้ ก็ยังไม่อยากให้เสียเวลา เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาว่างๆ ก็สามารถมาเรียนออนไลน์ได้แล้วก็เก็บเครดิตได้ด้วยแล้วก็ benefit ก็คือได้ scholarship ไปด้วย 50% ซึ่งมันก็ได้เยอะที่เดียว
บอกได้เลยว่า Le Cordon Bleu ไม่เคย offer scholarship ให้เยอะขนาดนี้จนมี Covid นี่แหละถึงได้ offer scholarship ตรงนี้นะคะ แล้วก็ถ้าน้องๆ ว่างๆ เราก็จะมีตัวออนไลน์ด้วย
แล้วก็ตัว internship ก็จะมี partner ที่จะรับนักเรียนของเรา มันจะมี partner หลายๆ ที่ เป็น partner กับเรามานานแสนนานที่รับนักเรียน ก่อนที่นักเรียนจะไป internship เราก็จะเทรนนักเรียนเรื่องจะต้องเขียน Resume ยังไงเวลาที่ไป interview กับตัว partner ของเรา ที่เราต้องเข้าไปทำงานด้วยเนี้ย เราต้องพูดอะไร เราจะต้องคุยอะไร อะไรที่เราควรถาม อะไรที่ไม่ควรถาม หรือระดับภาษาเราควรใช้ยังไง พวกนี้เค้าจะดูหมดเลย เพราะฉะนั้นบางที่อย่างที่ Hillton, Shangri la เค้ามาแบบ 5 ดาว 6 ดาวอะไรอย่างงี้ เพราะฉะนั้นเค้าจะดู Manor ของนักเรียนค่อนข้างสูงเหมือนกัน มีการกรูมมิ่งนักเรียนนิดนึงนะคะ ก็บอกนักเรียนว่าอะไรที่ควรทำหลังจากนั้นก็จะไป interview กับพวก partner หลักๆ ใหญ่ๆ เค้าจ่ายเงินค่อนข้างเยอะแน่นอน
internship ของเรามีทั้งแบบได้เงินและไม่ได้เงิน มีทั้งสองแบบ แล้วแต่ตัวนักเรียนด้วยว่าตอน interview performance เราเป็นอย่างไร พูดง่ายๆ คือเราสอนให้นักเรียนรู้จักหางานทำเองให้เป็น เพราะฉะนั้นถ้าผ่านตรงนี้มาได้จบมาได้เราก็จะมีประสบการณ์ไปสัมภาษณ์อะไรยังไง
ถ้าถามว่าอ้าวแล้ว Le Cordon Bleu จะหางานให้นักเรียนหรือเปล่า จะบอกให้ว่าครึ่งๆ นะคะ เรามีลิสให้ แล้วเราให้นักเรียนไป interview เอง เราไม่ได้บอกว่าน้องคนนี้ต้องไปตรงนี้ ไม่เราไม่ทำแบบนั้น เพราะถ้าทำแบบนั้นนักเรียนจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย แต่เราอยากให้เค้าเรียนรู้ว่าวิธีสมัครงาน สมัครยังไง วางตัวอย่างไง ทุกอย่างในโลกนี้ก็เห็นอยู่มันไม่มีอะไรการันตีในโลกนี้แน่นอน จบไปมันต้องหางานทำ มันจะดีกว่าไหมถ้าโรงเรียนสอนให้หางานทำฝีกงานตั้งแต่เราอยู่ในโรงเรียน จบออกไปมีประสบการณ์ นี่คือสิ่งที่ Le cordon Bleu ฝึกให้นักเรียนตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน
อันนี้ก็เป็น partner ของเราทั่วโลกเลยทีเดียว แล้วก็ Le Cordon Bleu จะมี 35 แคมปัสทั่วโลกแล้วก็ intake เหมือนกันทุกที่น่ะค่ะ ก็คือมี Jan, Apr, Jul และก็ Oct ปีนึงก็จะมี 4 ครั้ง พอ Covid มาบางแคมปัสก็จะปรับตกแต่งตัว intake ของเค้าถ้าอยากไปที่ไหนก็มาถามได้ เพราะว่า information ตรงนี้ก็จะมีเหมือนกันหมด คราวนี้เนี้ยบางคนสอบ IELTS ไม่ได้ช่วงนี้ ก็จะมี IELTS online, IELTS Indicator เราก็รับได้เหมือนกัน บางคนจะสอบ PTE ก็ได้ PTE เราก็รับนะที่ออสเตรเลีย สอบปุ๊ปวันเดียวก็ได้แระ PTE มันสอบออนไลน์นะคะ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คร่าวๆ ค่ะ จาก Le Cordon Bleu ก็จะมีลิงค์ให้ใน presentation นี้ก็เข้าไปดูได้ แล้วก็จะมี Recipe ให้ด้วยบางคนอยากทำอาหาร ลองคลิกลิงค์เข้าไปตรงนั้น แล้วก็จะมีพวก Social network ของเราอยู่ในนี้ด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ใครมีคำถามอะไรบ้างไหม ใครมีคำถาม ถามพี่ได้เลย
York: ใช่ค่ะก็ถ้าน้องอยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติมนะคะ สามารถ inbox เข้ามาถามที่ Facebook ของ York ได้ค่ะ หรือจะไลน์มาก็ได้ ก็จะมีพี่ๆ ทาง York นะคะช่วยในการตอบแล้วก็แนะนำข้อมูลต่างๆ ให้นะคะ อ่ะ ทีนี้เกลถามเพิ่มเติมแทนน้องๆ นิดนึงก็แล้วกันค่ะ ในเรื่องของการฝึกงานที่ออสเตรเลียก็คือทาง Le Cordon Bleu ก็ช่วยในเรื่องของ มี list ที่ฝึกงานมาให้แล้วก็ให้น้องไปสัมภาษณ์เอง
อ่านบทสัมภาษณ์ตอน 2 ต่อได้ที่ link ด้านล่างนี้เลยนะคะ
